Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

กว่ารอบปีในช่วงวิกฤตโควิด-19 ชื่อของ ‘โจ้-ธนา เธียรอัจฉริยะ’ เรียกได้ว่าเป็น ‘นักบริหารเนื้อหอม’ อย่างมากในแวดวงธุรกิจการเงินและประกันภัย รวมถึงการตลาดดิจิทัล หลังจากได้เปิดตัวแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีสัญชาติไทยเจ้าแรก ชื่อ ‘โรบินฮู้ด’ ในนามบริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส ในเครือ SCB 10X บริษัทลูกของธนาคารไทยพาณิชย์ ออกมาเรียกเสียงฮือฮาให้ทั้งวงการฟู้ดเดลิเวอรีด้วยการชูจุดเด่นไม่เก็บค่าจีพีแล้ว ก็ยังดิสรัปต์แนวคิดธุรกิจการเงิน สร้างท่าใหม่ๆ ในการหารายได้อีกด้วย

ต่อมาปลายปี 2563 ชื่อ ‘โจ้-ธนา’ ปรากฎหน้าข่าวอีกครั้ง หลังบริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TQM แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ มีมติอนุมัติแต่งตั้งให้เป็นกรรมการใหม่ของบริษัท หลังจากเขาลาออกจากตำแหน่ง CMO ของธนาคารไทยพาณิชย์ เมื่อวันที่ 1 พ.ย.2563 แต่ยังทำหน้าที่ที่ปรึกษาให้กับ SCB กลุ่มงานการตลาดและประชาสัมพันธ์ และดูแลโรบินฮู้ดอยู่เหมือนเดิม นอกจากนี้เขาได้เข้าไปเป็นบอร์ดและที่ปรึกษาบริษัทด้าน InsureTech และบริษัทด้าน Data Tech อีกแห่งด้วย

ข้ามปีใหม่มาได้ 3 เดือน บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัทคอนซัลต์ชั้นนำผู้ให้บริการที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และการจัดการด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี ประกาศแต่งตั้ง ‘ธนา เธียรอัจฉริยะ’ เข้าดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการ เพื่อร่วมขับเคลื่อนความแข็งแกร่งเชิงกลยุทธ์ โดยที่ยังนั่งตำแหน่งที่ปรึกษาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ ทั้งด้านไอเดียการตลาด การทำ PR และยังเป็นกรรมการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด บริษัทในเครือของ SCB 10X เหมือนเดิม

 

ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการวางกลยุทธ์และการบริหารงานด้านการตลาด มากกว่า 30 ปี ของ ‘โจ้-ธนา’ ในหลายอุตสาหรรม คอนเนกชั่นที่สั่งสมมาทั้งชีวิต ถือว่าเข้ามาเสริมแกร่งและปิดจุดอ่อนของบริษัทน้องใหม่อย่างบลูบิค กรุ๊ป ได้เป็นอย่างดี โดยเขามองว่า จากประสบการณ์ผ่านการเปลี่ยนแปลงมาหลายอุตสาหกรรม ทุกองค์กรมีการทำ Digital Transformation แต่อยู่ในระดับที่ไม่เท่ากัน

‘ธนา’ เปิดใจถึงเหตุผล 3 ข้อที่ยอมรับดีลนั่งบอร์ดบริหารฯ ครั้งนี้ ข้อแรกคือ เขาไม่อยากตกเทรนด์ (ดิจิทัล) และมองว่าในปัจจุบันหาองค์กรที่จะได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ แบบที่นี่ได้ยาก ข้อสองคือ ตัวเขาน่าจะมีประโยชน์ในองค์กรนี้ จากประสบการณ์และความอาวุโส รวมทั้งคอนเนกชั่นที่มีจะสร้างความชัดเจนให้กับวิสัยทัศน์ขององค์กร เพิ่มโอกาสในการเสนองานลูกค้า และเพิ่มความเชื่อมั่นและผลักดันให้บลูบิค กรุ๊ป ก้าวสู่การเป็น “Value Creation Consulting” ได้อย่างแท้จริง และเหตุผลสุดท้ายคือ เจตนารมย์ที่อยากเห็นบริษัทคอนซัลต์ไทย สามารถแข่งขันกับบริษัทต่างชาติได้ พร้อมตั้งเป้าครองตำแหน่งบริษัทที่ปรึกษาด้าน Digital Transformation อันดับต้นของประเทศไทย

“เราไม่อยากจะเป็นบอร์ดธรรมดาแค่ในกระดาษ พยายามจะทำตัวให้ Active ก็เลยคุยกันว่าบลูบิคพร้อมที่จะไปสเตปต่อไปแล้ว ก็คือไปแข่งขันกับคอนซัลต์ต่างชาติ และเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ”

“อยากเห็นบลูบิค เป็นส่วนหนึ่งในการทำให้บริษัทไทย แล้วเติบโต เกิดนวัตกรรมมันๆ ไม่อยากเห็นชื่อบริษัทที่ปรึกษาต่างชาติทั้งหมด“

นอกจากนี้ ธนา ยังเผยว่าในช่วงเดือนเมษายนนี้  บลูบิคจะร่วมลงทุนกับบริษัทยักษ์ใหญ่ มากกว่าการให้บริการที่ปรึกษาธรรมดา เพื่อรองรับแผนนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในปีนี้ ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 95%

“ถ้าถามว่าทำไมต้องเป็นจังหวะช่วงนี้ เพราะบริษัทใหญ่รู้ว่า Digital Transformation มันสำคัญมาก ถ้าเปลี่ยนตัวเองไม่เร็ว ก็ตายแน่ๆ ถูกขู่กันมาหลายยุคหลายสมัย แล้วในช่วงแรกก็พยายามทำกันเอง Traditional Model คือตั้งสายไอที เทคโนโลยีขึ้นมาแล้วมันไม่ได้เปลี่ยนองค์กร ยิ่งช่วงโควิด-19 หลายบริษัทคิดโมเดลธุรกิจใหม่ๆ โดยที่ไม่พยายามโตจากข้างในแล้ว เพราะรู้แล้วว่าทำไม่ได้ ดังนั้นก็จะเป็นโอกาสที่บลูบิคจะมีส่วนร่วมกับโมเดลธุรกิจใหม่ๆ นั้น” ธนา กล่าว

ขณะที่ ‘ชลากรณ์ ปัญญาโฉม’ จากค่ายเวิร์คพอยท์ฯ คอนเนกชั่น ‘โจ้-ธนา’ ก็ได้เข้ามานั่งตำแหน่งประธานกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน และกรรมการตรวจสอบ ให้บลูบิคด้วย โดยนายชลากรณ์ มีประสบการณ์ในการดำรงตำแหน่งกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานดิจิทัลทีวี บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพลิกฟื้นธุรกิจทีวีดิจิทัล และผลักดันให้บริษัทเวิร์คพอยท์ ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมบันเทิงของไทย

‘ชลากรณ์’ เผยว่า ยังทำงานประจำอยู่ปกติที่เวิร์คพอยท์ฯ  ส่วนการนั่งตำแหน่งกรรมการให้บลูบิค เป็นไปตามวาระ นอกจากนี้เขายังเป็นกรรมการอยู่อีกที่ด้วย ซึ่งทั้งคู่เป็นธุรกิจและอุตสาหกรรมที่ไม่เกี่ยวพันกับดิจิทัลทีวีแต่อย่างใด โดยมองว่าผู้บริหารคนรุ่นใหม่ของบลูบิค มีความเก่งเฉพาะด้านที่น่าสนใจ ‘พชร อารยะการกุล’ CEOบลูบิค กรุ๊ป มีความเชี่ยวชาญด้าน Tech และ ‘ปกรณ์ เจียมสกุลทิพย์’ CTO หรือประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี มีความเก่งด้านกลยุทธ์การปฏิบัติการ (Operation strategy) ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ลงตัวและน่าเรียนรู้เป็นอย่างมาก

“ด้วยความน่ารักและเก่งของทั้งคู่เลยรับเป็นกรรมการ เป็นจิ๊กซอว์ที่ลงตัวพอดี มันสนุกน่าจังเลย เหมือนเป็นคู่หูที่ถูกคู่มาก”

จากประสบการณ์ตรงที่ทำงานกับแพลตฟอร์มต่างชาติมาจำนวนมาก ‘ชลากรณ์’ แนะว่า บริษัทไทย ที่ใช้เครื่องมือต่างชาติ หากใช้วิธี Local จะได้ผลลัพธ์ที่ดี โดยบลูบิค กรุ๊ป เป็นคอนซัลต์ไทยที่ได้เปรียบในแง่เข้าใจความเป็น Local มากกว่าคอนซัลต์ต่างชาติ

“ปกติไม่ค่อยเห็นคอนซัลต์ไทย อย่างบลูบิค ทำได้หลายเรื่องๆ รู้เรื่อง Tech กลยุทธ์ ไปจนถึงการบริหาร การตลาด ซึ่งมันไม่ค่อยมี ส่วนใหญ่จะเป็นคอนซัลต์ด้านกลยุทธ์ซะเยอะ ลงไปกำหนดและบริหารจัดการไดร์ฟ value องค์กร แต่การสร้างรายได้ไม่ค่อยเห็น”  ชลากรณ์ กล่าว

 

ส่วน นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นอกจากนายธนา และนายชลากรณ์ แล้ว ยังมีคณะกรรมการอิสระผู้ทรงคุณวุฒิ อีก 3 ท่านจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้บลูบิค ไม่ว่าจะเป็น ‘นายครรชิต บุนะจินดา’ มีประสบการณ์ดำรงตำแหน่งกรรมการในบริษัทชั้นนำในธุรกิจค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ อาทิ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) และบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) มานั่งตำแหน่ง ประธานคณะกรรมการนโยบายความเสี่ยง และกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน

นายวศิษฐ์ กาญจนหัตถกิจ ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการตรวจสอบ กรรมการนโยบายความเสี่ยง และกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน โดยนายวศิษฐ์ มีประสบการณ์ในการบริหารกลุ่มบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายย่อย

และนายพงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ หรือ ‘หนุ่ย แบไต๋’ ดำรงตำแหน่งกรรมการตรวจสอบ โดยนายพงศ์สุข มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับธุรกิจสื่อมากกว่า 20 ปี อีกทั้งมีประสบการณ์ในการดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โชว์ไร้ขีด จำกัด ผลิตสื่อออนไลน์หลากหลายรูปแบบ ซึ่งได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจนกลายเป็นสื่อด้านเทคโนโลยีออนไลน์อันดับหนึ่งในประเทศไทย

“เราเหมือนมีโค้ชที่ดีมากๆ ระดับประเทศมาช่วยเรา ในการที่ทำให้เราต่อยอดไปได้อีก ซึ่งบริษัทที่ปรึกษาไม่ว่าจะเป็นชั้นนำระดับโลกแค่ไหน เราก็จะไม่เห็นในมุมนี้” พชร กล่าว

นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

‘พชร’ ซีอีโอ บลูบิค กรุ๊ป เชื่อมั่นว่า การเปิดตัวคณะกรรมการอิสระผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งมีประสบการณ์ในการบริหารธุรกิจรอบด้านจากองค์กรระดับประเทศ จะช่วยเสริมจุดแข็งในแง่การบริหารและการกำกับดูแลการดำเนินธุรกิจของบริษัทให้เป็นไปอย่างราบรื่น เพื่อขับเคลื่อนบริการ 5 ด้าน จากการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้อย่างครบวงจร ได้แก่

  1. Management Consulting บริการให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์และการจัดการ
  2. Design Consulting บริการออกแบบสินค้าและบริการ เพื่อให้สิ่งที่คิดออกมาเป็นสิ่งที่จับต้องได้มากขึ้น ตอบโจทย์ Pain Point ปัญหาของลูกค้าให้มากขึ้น
  3. Digital Excellence & Delivery บริการที่ปรึกษาเชิงลึกด้านดิจิทัลและพัฒนาเทคโนโลยีภายในองค์กร
  4. Strategic PMO บริการที่ปรึกษาการบริหารจัดการโครงการเชิงกลยุทธ์
  5. Big Data & Advanced Analytics บริการที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่และการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง

โจทย์ของบลูบิค กรุ๊ป ส่วนใหญ่จะมาจาก C-Level หมายถึง ตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงในบริษัท ปัจจุบัน มีบริษัทที่บลูบิค รับเป็นที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ นวัตกรรรมและเทคโนโลยี ส่วนใหญ่เป็นบริษัทเอกชน และรัฐวิสาหกิจ  โดยกว่า 40% เป็นธุรกิจธนาคาร และประกันภัย รองลงมาเป็นธุรกิจค้าปลีก FMCG (Fast Moving Consumer Goods) สินค้าอุปโภคบริโภค ที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นมา ส่วนที่เหลือเป็นอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มเทเลคอม และพลังงาน

จากข้อมูลพบว่า ธุรกิจค้าปลีก เป็นกลุ่มธุรกิจที่กำลังเร่งสปีด เพราะกำลังจะถูก ‘ดิจิทัล ดิสรัปชั่น’ อย่างมากในหลายส่วน โดยเฉพาะวิกฤตโควิด-19 จะเห็นว่าดิจิทัลเข้ามาขับเคลื่อน เพราะมีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการ การจัดการสต็อกสินค้า การวางจำหน่าย และการขนส่ง

“เราไม่ได้มองตัวเองเป็นแค่เซอร์วิส แต่เรามองตัวเองเป็นพาร์ทเนอร์ เรามีศักยภาพในการไปรันหลายๆ ธุรกิจ เราเคยทำสินค้า ทำแพลตฟอร์ม ทำเครื่องมือของตัวเองมาบ้าง และเราเองเริ่มเห็นตลาดนี้ว่าลูกค้าหรือพาร์ทเนอร์เราหลายๆ เจ้า เขาขาดในส่วนที่เรามี เพราะฉะนั้นเราไม่อยากแค่ได้รับบริการจากเขา แต่เราต้องการไปสร้างธุรกิจร่วมกับเขา”

จุดแข็งของบลูบิค คือการที่ให้ความสำคัญกับทรัพยากรบุคคลและความรู้ความสามารถ บลูบิค ตั้งเป้าจะเพิ่มบุคลากรอีกเท่าตัว จากปัจจุบันมีบุคลากรกว่า 130 คนที่มีประสบการณ์จากบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลก  เช่นเดียวกับรายได้ที่หวังให้เติบโตตามขนาดองค์กรไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ‘พชร’ ตั้งเป้าหมายในอีก 5 ปีข้างหน้า หวังให้ ‘บลูบิค กรุ๊ป’ เป็น Tech มากกว่าที่ปรึกษาการจัดการกลยุทธ์ ด้วยจุดเด่นการเป็น Tech ที่เข้าใจธุรกิจ เมื่อภาพลักษณ์ชัดขึ้นการร่วมลงทุน หรือการทำแพลตฟอร์ม ก็สามารถสู้คู่แข่งคอนซัลต์ต่างชาติได้ไม่ยาก จนสามารถยกระดับบริษัทเป็นที่ปรึกษาระดับแนวหน้าของภูมิภาคได้ในที่สุด

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า