Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

เจ้าของงานวิจัยที่ถูกอ้างอิงในบทความ ที่อ้างถึงความเชื่อมโยงระหว่างวัคซีนป้องกันโควิด-19 กับการเสียชีวิตมากเกินปกติ ออกแถลงการณ์แจง ยืนยันในรายงานผลวิจัยไม่มีการบ่งชี้ว่าวัคซีนเป็นสาเหตุของเรื่องนี้ 

เกิดเป็นกระแสฮือฮาขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่บัญชีผู้ใช้บน X บัญชีหนึ่ง นำลิงก์ข่าวของสื่ออังกฤษเจ้าใหญ่อย่าง The Telegraph ที่มีการพาดหัวพาดพิงถึง วัคซีนป้องกันโควิด-19 ว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตจำนวนมาก มาโพสต์บนแพลตฟอร์ม พร้อมกับระบุข้อความ “ในที่สุดสื่อกระแสหลักในสหราชอาณาจักรก็ยอมรับเรื่องนี้” จนมียอดรับชมไปมากกว่า 4 ล้านครั้ง จุดประเด็นข้อถกเถียงเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ถูกพูดถึงขึ้นมาอีก 

แต่ล่าสุดวารสาร BMJ Public Health ซึ่งเป็นผู้ตีพิมพ์งานวิจัยที่ถูกไปอ้างอิงดังกล่าว ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า สิ่งที่ปรากฏบนสื่อ เป็นการรายงานผิดพลาด พร้อมกับยืนยันว่า งานวิจัยที่ถูกพูดถึง ไม่สนับสนุนคำกล่าวอ้างที่ว่าวัคซีนเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตเกินปกติตั้งแต่เริ่มการระบาดใหญ่ 

โดย BMJ Public Health ให้เหตุผลว่า “นักวิจัยทำการศึกษาเฉพาะแนวโน้มการเสียชีวิตเกินปกติเมื่อเวลาผ่านไป แต่ไม่ได้มีการเจาะลึกไปยังสาเหตุที่ทำให้เกิดขึ้น”

ซึ่งการเสียชีวิตเกินปกติในที่นี้  BMJ Public Health อธิบายว่า ก็คือจำนวนผู้เสียชีวิตที่มากเกินกว่า ตัวเลขที่มีการคาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้า 

อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดความเข้าใจคาดเคลื่อน สืบเนื่องมาจาก ข้อความที่ระบุในบทนำของรายงานผลวิจัย ที่กล่าวว่า “แม้วัคซีนป้องกันโควิด-19 จะถูกนำมาใช้เพื่อปกป้องประชาชนจากการเจ็บป่วย และเสียชีวิตจากไวรัส แต่ก็มีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่ต้องสงสัยถูกบันทึกไว้เช่นกัน”

ความเคลื่อนไหวดังกล่าว ได้สร้างความสับสนงงงวยขึ้นอีกครั้ง จนล่าสุดสำนักข่าว Reuters ได้หยิบเรื่องนี้ขึ้นมาทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง ด้วยการไปพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหลายราย และก็มีการยืนยันออกมาแล้วว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพต่างก็เห็นพ้องว่าเป็นความเข้าใจที่คาดเคลื่อน ตามที่ BMJ Public Health ระบุ

โดยหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญ ที่มีชื่อว่า Jeffrey Morris ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล และศาสตราจารย์ด้านสาธารณสุขและเวชศาสตร์ป้องกันที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ให้เหตุผลกับ Reuters ว่า จากการศึกษางานวิจัยดังกล่าว ข้อมูลที่นักวิจัยนำมาศึกษา เป็นการประมาณการจำนวนผู้เสียชีวิตที่เกินกว่าคาดการณ์ ในช่วงเวลาที่กำหนด 

และมีการระบุว่า ข้อมูลที่ได้จากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) พบว่า ในปี 2020 พบผู้เสียชีวิตเกินปกติราวๆ 1,000,000  คน ใน 47 ประเทศแถบตะวันตก ก่อนที่จะเพิ่มขึ้นมาเป็น 1,200,000 คนในปี 2021 และลดลงเหลือ 800,000 คนในปี 2022 

ขณะที่ข้อมูลอีกชุดของ World Mortality Dataset ซึ่งทำการติดตามผลกระทบของการแพร่ระบาดหลังจากที่สถานการณ์สงบ พบว่า อัตราการเสียชีวิตส่วนเกินในปี 2023 ลดลงเหลือเพียง 175,000 คน 

‘ซึ่งข้อมูลนี้ ตรงข้ามที่ The Telegraph ระบุในบทความว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตลอด’ 

Morris ระบุว่า “รายงานวิจัยระบุแค่พบผู้เสียชีวิตเกินปกติในประเทศส่วนใหญ่ในปี 2020 ต่อเนื่องมาจนถึง 2021 และ 2022 นี่คือสิ่งที่ผมจากรายงานนี้จริงๆ ผมไม่รู้ว่าทำไม The Telegraph ถึงตีพิมพ์บทความของพวกเขาแบบนั้น” 

ด้านผู้เชี่ยวชาญอีกคนหนึ่ง อย่าง Stuart McDonald ซึ่งเป็นรองประธานของหน่วยงานตรวจสอบ Continuous Mortality Investigation ให้สัมภาษณ์กับ Reuters ว่า จากการศึกษางานวิจัยฉบับนี้อย่างละเอียด “ผู้เขียนไม่ได้ระบุว่าวัคซีนเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตเกินปกติ พวกเขาบอกเป็นนัยแค่ว่า สาเหตุอาจจะเกี่ยวข้องกับการล็อกดาวน์และวัคซีน แต่ก็ไม่ได้มีข้อมูลสนับสนุน”

McDonald ยังอธิบายเสริมด้วยว่า “หากมีใครต้องการอ้างว่าเป็นวัคซีนก่อให้เกิดอันตราย พวกเขาจะต้องอธิบายให้ได้ก่อนว่า เหตุใดประเทศที่ได้รับการฉีดวัคซีนสูงสุด อย่าง นิวซีแลนด์ เดนมาร์ก และออสเตรเลีย จึงมีอัตราการเสียชีวิตมากเกินปกติน้อยที่สุด และประเทศที่ได้รับการฉีดวัคซีนน้อยที่สุด อย่างเช่น แอลเบเนีย บัลแกเรีย เซอร์เบีย และมอนเตเนโกร กลับมีผู้เสียชีวิตเกินปกติมากที่สุด”

พร้อมกับปิดท้ายว่า “ไม่มีใครโต้แย้งว่ามีผลข้างเคียงอันตรายที่มีสาเหตุมาจากวัคซีน แต่กรณีนี้พบได้น้อยมาก และเห็นได้ชัดว่า เมื่อสถานการณ์สมดุล วัคซีนได้ลดอัตราการเสียชีวิตทั่วโลกลงอย่างมาก”

ขณะที่ Reuters ได้ระบุต่อไปในรายงานว่า หลังจากที่ได้ข้อมูลมาจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้าน ได้พยายามติดต่อไปยังผู้จัดทำงานวิจัย รวมถึง The Telegraph แต่ไม่ได้รับการตอบสนองแต่อย่างใด 

เพียงแต่มีแถลงการณ์ออกมาจากสถาบัน Princess Máxima Center for Pediatric Oncology ของเนเธอร์​แลนด์ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับ 3 ใน 4 ผู้จัดทำงานวิจัยฉบับดังกล่าว ออกมาแถลงว่า “เราในฐานะ Princess Máxima Center ต้องการเน้นย้ำว่าเราสนับสนุนการฉีดวัคซีนอย่างแข็งขัน และงานวิจัยนี้ก็ไม่ควรนำมาถูกตีความว่าเป็นการต่อต้านการฉีดวัคซีน” พร้อมกับยืนยันว่า “การศึกษานี้ไม่ได้มีเจตนาที่จะแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างการฉีดวัคซีนและการเสียชีวิตเกินปกติแต่อย่างใด นั่นไม่ใช่การค้นพบของนักวิจัยอย่างชัดเจน และเราก็เสียใจที่มีการสร้างความเข้าใจผิดนี้ขึ้น” Princess Máxima Center for Pediatric Oncology ระบุในแถลงการณ์ 

ซึ่ง Reuters ได้ปิดท้ายว่า จากข้อมูลที่ได้มา สรุปว่า งานวิจัยที่ถูกนำมาอ้างอิง ไม่มีการระบุถึงสิ่งที่เป็นหลักฐานบ่งชี้ว่า พบการเสียชีวิตเกินปกติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังการระบาดใหญ่ของโควิด-19 หรือความเชื่อมโยงเชิงสาเหตุระหว่างวัคซีนป้องกันโควิดกับการเสียชีวิตเกินปกติ 

 

ที่มา https://www.reuters.com/fact-check/study-does-not-say-covid-vaccines-may-have-fuelled-excess-deaths-2024-06-13/

http://press.psprings.co.uk/ph/june/bmjphstatement.pdf

https://www.telegraph.co.uk/news/2024/06/04/covid-vaccines-may-have-helped-fuel-rise-in-excess-deaths/

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า