“บิ๊กตู่” นั่งหัวโต๊ะบอร์ดบีโอไอคลอดมาตรการพิเศษกระตุ้นลงทุน

บอร์ดบีโอไออนุมัติมาตรการกระตุ้นการลงทุน รองรับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) โดย น.ส.ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการบีโอไอ เปิดเผยผลการประชุมอนุมัติ 3 มาตรการพิเศษกระตุ้นการลงทุน รองรับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน ประกอบด้วย

1.มาตรการกระตุ้นการลงทุน สำหรับโครงการขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมและบริการเป้าหมายที่มีผลกระทบสูงต่อเศรษฐกิจของประเทศ (กิจการกลุ่ม A1 A2 และA3 ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 5-8 ปี แต่ไม่รวมกิจการที่ไม่มีที่ตั้งสถานประการ เช่น กิจการขนส่งทางอากาศ กิจการขนส่งทางเรือ เป็นต้น) ซึ่งลงทุนสามารถลงทุนได้ทุกพื้นที่ โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีเงินได้ นิติบุคคล 50% เพิ่มเติมเป็นเวลา 5 ปี หากมีการลงทุนจริง (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน) ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท ภายในปี 2563 หรือไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท ภายในปี 2564  คาดว่าจะสามารถกระตุ้นการลงทุนได้มากกว่า 200,000 ล้านบาท ในระยะปี 2563-2564

2.มาตรการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี กำหนดคำจำกัดความของ “เอสเอ็มอี” ใหม่ คือ เป็นกิจการที่ต้องถือหุ้นโดยบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย ไม่น้อยกว่า 51 % และจะต้องมีรายได้ ทั้งที่ได้รับการส่งเสริม และไม่ได้รับการส่งเสริมไม่เกิน 500 ล้านบาทต่อปี ใน 3 ปีแรก

กิจการในนิคมหรืออุตสาหกรรม จะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติมอีก 1 ปี หากตั้งกิจการในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจชายแดน จะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ในสัดส่วน 200 % ของเงินลงทุน (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน)

3.ปรับปรุงมาตรการส่งเสริมการลงทุนเศรษฐกิจฐานราก โดยขยายเวลาการยืนขอรับการส่งเสริมอีก 1 ปี ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2564 และขยายคุณสมบัติของผู้ขอรับการส่งเสริมให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ให้รวมผู้ประกอบการที่มีกิจการดำเนินอยู่ แต่ยังไม่เคยได้รับการส่งเสริมมาก่อน โดยเป็นกิจการที่บีโอไอส่งเสริมอยู่

นอกจากนี้ บอร์ดบีโอไอ ยังอนุมัติมาตรการส่งเสริมการลงทุนในกิจการโรงแรม ขยายพื้นที่ที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นระยะเวลา 3 ปี ขจากเดิมให้เฉพาะกรณีลงทุนในพื้นที่ 20 จังหวัดที่มีรายได้ต่อหัวต่ำ เป็นลงทุนในพื้นที่เมืองรอง 55 จังหวัด และปรับหลักเกณฑ์ กิจการโรงแรมจะได้รับการส่งเสริมจากบีโอไอ เป็นโรงแรมที่มีห้องไม่ถึง 100 ห้อง เงินลงทุนรวมไม่น้อยกว่า 500ล้านบาท จากเดิมที่ส่งเสริมกิจการโรงแรมที่มีห้องตั้งแต่ 100 ห้องขึ้นไป และมีเงินลงทุนไม่น้อยกว่า 2,000,000 ล้านบาท

และยังมีมติให้เปิดการส่งเสริมกิจการที่อยู่อาศัย สำหรับผู้มีรายได้น้อย ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นระยะเวลา 3 ปี สนับสนุนผู้ประกอบการสร้างที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพดี

ขอบคุณภาพ: สำนักนายกฯ ทำเนียบรัฐบาล