จากกรณีที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์เมื่อช่วงค่ำวันที่ 15 ม.ค. ว่า คนร้ายคดีชิงทองที่ร้านทองออโรร่า ห้างโรบินสัน ลพบุรี อาจจะเตรียมหลบหนีไปที่ชายแดน
วันที่ 16 ม.ค. บรรยากาศที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 1 จ.หนองคาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองหนองคายและเจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคาย ที่ปฏิบัติหน้าที่ภายในด่านพรมแดน ได้ร่วมกันตรวจตราทั้งรถและบุคคลที่ผ่านเข้า-ออก ด่านพรมแดน โดยเฉพาะด่านขาออก อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันผู้ต้องหาตามหมายจับคดีต่างๆ รวมทั้งคนร้ายคดีชิงทอง หลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
เจ้าหน้าที่ได้ตรวจรถทุกคัน ทั้งรถทะเบียนไทย และทะเบียน สปป.ลาว เน้นรถที่จะเดินทางออกไปที่ สปป.ลาว ส่วนเจ้าหน้าที่ ตม. ที่ประจำตู้ตรวจ ก็ได้มีการนำรูปและหมายจับคดีต่างๆ มาติดไว้ในทุกตู้ด้วย นอกจากนี้ยังได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.หนองคาย เดินปะปนอยู่กับบุคคลที่ผ่านเข้า-ออก ด่านพรมแดน รวมทั้งออกสืบสวนหาข่าวตามจุดจอดเรือประเพณีและจุดผ่อนปรนไทย-ลาว เพื่อเป็นการป้องกันการหลบหนีออกนอกประเทศอีกทางหนึ่ง
กรณีผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นคนร้ายคดีชิงทองที่จังหวัดลพบุรี เจ้าหน้าที่ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร จึงต้องใช้การสังเกตลักษณะท่าทาง ความสูง และท่าทางว่ามีพิรุธหรือไม่แทน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการนำภาพนายฐปนนท์ ปรีชาจารย์ อดีตทหารติดไว้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบด้วย โดยนายฐปนนท์ เพิ่งไปแจ้งความทั้ง สภ.เมืองลพบุรี และ บก.ปอท. และตั้งข้อสังเกตว่า ภาพตนในทะเบียนราษฎร์หลุดมาได้อย่างไร เพราะมีเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงค้นหาได้ กำลังค้นหาว่าภาพมาได้อย่างไร ภาพนี้บุคคลที่เป็นพลเรือนไม่สามารถเข้าถึงได้