SHARE

คัดลอกแล้ว
อัยการสูงสุดตั้งคณะทำงานตามคดี บอส วรยุทธต่อ ประชุมได้ข้อสรุปให้ตำรวจสอบ ดร.สธน- ดร.สามารถ ที่คำนวณความเร็วรถ เกิน 80 กม./ชม. ให้เวลาส่งผลกลับมาภายใน 20 ส.ค. รวมทั้งตรวจใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ดร.สธน ที่คำนวณความเร็วรถไม่เกิน 80 กม./ชม. ว่าถ้าใบอนุญาตขาดมีผลต่อความเห็นที่แจ้งไว้หรือไม่  ขณะที่ให้ตำรวจดำเนินคดีเสพโคเคน เป็นคดีใหม่
วันที่ 10 ส.ค. 2563 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายอิทธิพร แก้วทิพย์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา นายชาญชัย ชลานนท์นิวัฒน์ รองอธิบดีอัยการสูงสุด และนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงความคืบหน้าการดำเนินคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา
นายประยุทธ กล่าวว่า คณะทำงานที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งตั้งให้ตรวจสอบการพิจารณาสั่งคดีของสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1
ในคดีระหว่างนายวรยุทธ กับ ด.ต. วิเชียร กลั่นประเสริฐ ได้ตรวจพบว่าข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายที่มีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องไปแล้ว ได้ปรากฏพยานหลักฐานใหม่ซึ่งเป็นพยานสำคัญสามารถทำให้ศาลลงโทษผู้ต้องหาที่ 1 (นายวรยุทธ) ได้ จึงเข้าหลักเกณฑ์ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 147 ที่สามารถแจ้งให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนต่อไป
คณะทำงานยังตรวจสำนวนพบว่ามีหลักฐานการตรวจพบยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2 (โคเคน) ในร่างกายผู้ต้องหาที่ 1 แต่พนักงานสอบสวนยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาและสอบสวนผู้ต้องหา ในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) โดยคณะทำงานได้ทำบันทึกรายงานไปยังอัยการสูงสุด
ต่อมา อัยการสูงสุดได้พิจารณารายงานและเห็นชอบด้วยกับข้อเสนอของคณะทำงานและได้แต่งตั้งพนักงานอัยการเป็นคณะทำงานพิจารณามีคำสั่งคดีอาญาสำนวน ส.1 เลขรับที่ 107/2556 ของสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 ดังนี้
1. นายอิทธิพร แก้วทิพย์ หัวหน้าคณะทำงาน, 2. นายชาญชัย ชลานนท์นิวัฒน์ รองหัวหน้าคณะทำงาน, 3. นายอุทัย สังขจร คณะทำงาน, 4. นายประยุทธ เพชรคุณ คณะทำงานและเลขานุการ, 5. นายนรา เขมอุดลวิทย์ คณะทำงานและผู้ช่วยเลขานุการ โดยมีนายสมใจ โตศุกลวรรณ์ เป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน
ทั้งนี้ ให้คณะทำงานมีอำนาจหน้าที่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยให้ดำเนินการเรียกสำนวนคดีดังกล่าวเพื่อพิจารณา สั่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมหรือส่งพยานคนใดมาให้ซักถาม และหากปรากฏว่ามีพยานหลักฐานใหม่ ให้ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายเพื่อพิจารณาสั่งคดีต่อไป
นายอิทธิพร แก้วทิพย์ หัวหน้าคณะทำงาน กล่าวว่า วันนี้ได้มีการประชุมคณะทำงานแล้ว เห็นว่าเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติว่าความเร็วรถที่นายวรยุทธ ขับมีความเร็วเท่าไร จึงมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวน สอบพยาน คือ ดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งคำนวณความเร็วรถได้ 177 กม./ชม. และ ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่คำนวณความเร็วรถยนต์ ได้ 126กม./ชม.
นอกจากนี้ให้สอบสวนนายกสภาวิศวกรหรือผู้ได้รับมอบหมายเป็นพยานในประเด็นว่า ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรของ รศ.ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม ขาดต่อใบอนุญาตจริงหรือไม่ การขาดต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรจะมีผลต่อการทำเอกสารรับรองการคำนวณความเร็วของรถยนต์ที่ผู้ต้องหาที่ 1 ขับ มากน้อยเพียงใด การคำนวณความเร็วของรถยนต์ที่ผู้ต้องหาที่ 1 ขับ มีความถูกต้องมากน้อยเพียงใด
ส่วนที่ปรากฏว่าผลการตรวจร่างกายของผู้ต้องหาที่ 1 พบสารโคเคน ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2 คดีจึงมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินคดีในความผิดฐานเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2 (โคเคน) เข้าสู่ร่างกาย โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 แต่พนักงานยังไม่ได้ดำเนินคดีข้อหานี้กับผู้ต้องหาที่ 1 คณะทำงานจึงมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับนายวรยุทธ อยู่วิทยา เป็นคดีใหม่ต่อไปตามกฎหมาย
ทั้งนี้ คณะทำงานได้มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมดังกล่าวโดยด่วน โดยให้จัดส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติมภายในวันที่ 20 ส.ค. นี้ เพื่อจะได้เร่งทำความจริงให้ปรากฏต่อไป

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า