Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

 รองโฆษก อสส. อธิบายเหตุผลเพิกถอนหมายจับเดิมและขอหมายจับใหม่คดีบอส วรยุทธ อยู่วิทยา ขับรถชนดาบตำรวจ สน.ทองหล่อเสียชีวิตเมื่อปี 2555 เป็นไปตามกฎหมาย พร้อมชี้แจงแต่ละข้อหาอายุความไม่เท่ากัน

วันที่ 25 ส.ค. 2563 นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงคดีที่การไปขอศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส  อีกครั้งว่า เหตุผลที่ต้องมีการเพิกถอนหมายจับเดิมและออกหมายจับใหม่ เนื่องจากเป็นไปตามกฎหมายที่บัญญัติไว้ว่า เมื่อมีคำสั่งไม่ฟ้องแล้ว ห้ามมิให้มีการสอบสวนเกี่ยวกับบุคคลนั้นในเรื่องเดียวกันนั้นอีก เว้นแต่จะได้พยานหลักฐานใหม่ ซึ่งน่าจะทำให้ศาลลงโทษผู้ต้องหานั้นได้

ส่วนการนับอายุความในแต่ละข้อหาจะต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่เกิดเหตุคือในปี 2555 จึงทำให้แต่ละข้อหาตามที่ออกหมายจับใหม่มีอายุความไม่เท่ากัน ดังนี้

1. ข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษ ประเภท 2 (โคเคอีน) หรือโคเคน โดยผิดกฎหมาย จะหมดอายุความในปี 2565

2. ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนรถผู้อื่นเสียหาย มีผู้ถึงแก่ความตาย จะหมดอายุความในปี 2570

3. ข้อหาขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล ไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควรแก่ผู้ได้รับความเสียหายและไม่แจ้งเหตุต่อเจ้าพนักงานในทันที มีอายุความเพียง 5 ปี จึงหมดอายุความไปแล้ว

ส่วนขั้นตอนต่อไป หลังจากที่ตำรวจทำสำนวนคดีที่สั่งให้สอบสวนเพิ่มเติมเสร็จสิ้นแล้ว อัยการก็จะเร่งนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะทำงานทันที โดยจะดูว่าที่ให้สอบสวนเพิ่มเติมตามที่สั่งการไปนั้นเพียงพอฟ้องหรือไม่ เช่นว่าเป็นไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฎต่อสังคมก่อนหน้านี้หรือไม่ หากพอฟ้องก็จะเร่งรัดเรื่องการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี ส่วนเรื่องการออกหมายจับสากล เป็นหน้าที่ของตำรวจในการประสานงาน เป็นคนละส่วนกับความรับผิดชอบของอัยการ เว้นแต่จะเข้าสู่ขั้นตอนการขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน

ทั้งนี้ นายประยุทธ อธิบายเพิ่มเติมว่า “คำว่าอายุความทางคดี” หมายถึงการที่ตำรวจ หรืออัยการ ต้องนำตัวผู้ต้องหาไปส่งฟ้องศาล เมื่อส่งฟ้องศาลแล้วก็จะหยุดนับอายุความ ที่สำคัญคือต้องติดตามตัวผู้ต้องหาไปส่งฟ้องศาลให้ได้

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า