SHARE

คัดลอกแล้ว

คนเอเชียกว่า 9 ใน 10 ชอบแบรนด์ที่มีอารมณ์ขัน ‘ความตลก’ เป็นกลยุทธ์การตลาดสำคัญในยุคโควิด

– งานศึกษาระดับโลกเผยผู้คนในเอเชียแปซิฟิก 85% ต้องการประสบการณ์ใหม่ที่ทำให้พวกเขายิ้มและหัวเราะได้

– 91% อยากให้แบรนด์ต่างๆ มีอารมณ์ขันมากกว่านี้ และ 76% กล่าวว่าถ้าต้องจ่ายแพงกว่า ก็จะเลือกอุดหนุนแบรนด์ที่ใช้อารมณ์ขันมากกว่าการแข่งขันทางธุรกิจ

– ผู้บริหารธุรกิจในเอเชียแปซิฟิก 76% ยังกลัวการใช้อารมณ์ขันในการสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า

งานศึกษาครั้งใหม่ของออราเคิล และเกร็ตเชน รูบิน นักเขียนขายดี 5 สมัยของนิวยอร์กไทม์และนักพูดพอดคาสต์ ระบุว่าผู้คนอยากให้แบรนด์ต่างๆ สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้แก่พวกเขา แต่ผู้บริหารธุรกิจส่วนใหญ่กลับยังกลัวที่จะใช้อารมณ์ขันในการสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า

งานศึกษาครั้งนี้สำรวจความคิดเห็นของผู้คนมากกว่า 12,000 รายใน 14 ประเทศ รวมถึงมากกว่า 5,000 รายในเอเชียแปซิฟิก ระบุว่า ผู้คนต้องการประสบการณ์ใหม่ที่ทำให้ยิ้มและหัวเราะได้ และจะตอบแทนแบรนด์ที่ใช้อารมณ์ขันด้วยการภักดีต่อแบรนด์ การบอกต่อ และการซื้อซ้ำสินค้าแบรนด์นั้น และจะเลิกใช้แบรนด์อื่นๆ ที่ไม่มีอารณ์ขันอีกด้วย

ผู้คนในเอเชียแปซิฟิกต้องการความสุขรูปแบบใหม่และยินดีจ่ายเพิ่ม

นับเป็นเวลานานกว่า 2 ปีมาแล้ว ที่ผู้คนไม่เคยได้สัมผัสถึงความสุขที่แท้จริง วันนี้ พวกเขาจึงต้องหาวิธีสร้างความสุขอีกครั้งแม้ว่าต้องจ่ายเงินเพิ่มก็ตาม ต่อไปนี้คือคำตอบส่วนหนึ่งในงานวิจัยครั้งนี้

– 44% ของผู้ทำแบบสอบถามในเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่าพวกเขาไม่ได้สัมผัสความสุขที่แท้จริงมานานกว่า 2 ปีแล้ว และ 25% ไม่รู้หรือลืมไปแล้วว่าการมีความสุขที่แท้จริงเป็นอย่างไร

– 85% ต้องการประสบการณ์ใหม่ที่ทำให้พวกเขายิ้มและหัวเราะ ผู้คนในเอเชียแปซิฟิกให้ความสำคัญมากที่สุดในการใช้สุขภาพ (78%) ความสัมพันธ์ส่วนตัว (77%) และประสบการณ์ต่างๆ (45%) เพื่อการสร้างความสุข

– คนจำนวนมากยอมทิ้งเพื่อน (62%) สละรายได้ส่วนหนึ่ง (61%) ไม่อาบน้ำ (55%) เป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพียงเพื่อให้ตนเองได้สัมผัสความสุขที่แท้จริงสัก 1 ชั่วโมง

– ผู้คนในเอเชียแปซิฟิกมากกว่าครึ่ง (56%) อยากให้เงินสามารถซื้อความสุขได้ โดย 81% พร้อมจ่ายเงินเพิ่มเพื่อซื้อความสุขที่แท้จริง

– 89% พยายามหาความสุขด้วยการซื้อของออนไลน์ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาด และ 47% ยอมรับว่าพวกเขามีความสุขในตอนที่ได้รับสินค้าที่สั่งไป

Receiving purchase. Attractive female jeweler smiling handing her customers paper shopping bag with purchased items buying consumerism couple love jewelry service profession occupation clients concept

โฆษณา การตลาด การขาย และปฏิสัมพันธ์ของงานบริการลูกค้า ต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

ผู้คนต้องการให้แบรนด์ต่างๆ ทำให้พวกเขายิ้มและหัวเราะ แต่ผู้บริหารธุรกิจกลับกลัวการใช้อารมณ์ขันในการสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าเพราะกลัวถูกเมิน

ผู้คนในเอเชียแปซิฟิก 76% เชื่อว่าแบรนด์สินค้าสามารถสร้างความสุขให้ประชาชนได้มากกว่าที่ทำอยู่ โดย 91% อยากให้แบรนด์ต่างๆ สร้างความสนุกสนานมากกว่านี้ ซึ่งในจำนวนนี้มีสัดส่วนสูงมากในคน Gen Z (95%) และ Millennials (95%)

ด้านการโฆษณา: ผู้คนกว่า 89% มีแนวโน้มจำโฆษณาที่ตลกขบขันได้ ถึงกระนั้น ผู้บริหารธุรกิจในเอเชียแปซิฟิกยอมรับว่าแบรนด์ของตนมีโฆษณาออฟไลน์ (โทรทัศน์และป้ายบิลบอร์ด) เพียง 17% และโฆษณาออนไลน์แค่ 14% ที่ใช้อารมณ์ขันอย่างชัดเจน

ด้านสื่อสังคมออนไลน์: ผู้คนกว่า 74% จะติดตามแบรนด์ที่สนุกสนานบนช่องทางโซเชียลมีเดีย ถึงกระนั้น มีผู้บริหารธุรกิจเพียง 12% ที่กล่าวว่าแบรนด์ของเขาใช้ความตลกบนสื่อโซเชียล
ด้านการตลาดผ่านอีเมล: 68% จะเปิดอีเมลจากแบรนด์ที่มีหัวข้อตลกขบขัน ถึงกระนั้น ผู้บริหารธุรกิจในเอเชียแปซิฟิกเพียง 21% กล่าวว่าแบรนด์ของเขาใช้อารมณ์ขันในแคมเปญการตลาดอย่างจริงจัง
ด้านการใช้แชตบอต/ผู้ช่วยดิจิทัล: 67% ชอบคุยกับโปรแกรมแชตบอต/ผู้ช่วยดิจิทัล ถ้าสิ่งนั้นคุยด้วยแล้วตลกขบขัน อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารในเอเชียแปซิฟิกเพียง 24% ที่จะผสานอารมณ์ขันในโปรแกรมการสื่อสารแชตบอต

รอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้ผลตอบแทนสูง แต่ผู้บริหารยังไม่กล้าสร้างเสียงหัวเราะ

ผู้คนพร้อมตอบแทนแบรนด์ที่สร้างอารมณ์ขันด้วยการภักดีต่อแบรนด์ การบอกต่อ และการซื้อซ้ำสินค้าจากแบรนด์นั้น และพร้อมเมินเฉยต่อแบรนด์อื่นๆ ที่ไม่ยอมทำ

ผู้คน 56% จะไม่รู้สึกผูกพันธ์กับแบรนด์ที่ไม่ทำให้พวกเขายิ้มหรือหัวเราะ และ 49% จะเลิกใช้แบรนด์ที่ไม่ได้ทำให้พวกเขายิ้มหรือหัวเราะไปเลย

ถ้าแบรนด์ใช้อารมณ์ขัน ผู้คนมีแนวโน้มจะซื้อสินค้าซ้ำจากแบรนด์นั้น (82%) แนะนำแบรนด์แก่ครอบครัวและเพื่อน (81%) เลือกแบรนด์นั้นมากกว่าคู่แข่งอื่นๆ (76%) และยอมจ่ายเงินมากขึ้นให้แบรนด์ (67%)

90% ของผู้บริหารเล็งเห็นโอกาสที่จะใช้อารมณ์ขันในการยกระดับประสบการณ์ลูกค้า และเชื่อว่าแบรนด์ของเขาสามารถทำให้ลูกค้ายิ้มหรือหัวเราะได้มากขึ้น

ผู้บริหาร 76% ยังกลัวการใช้อารมณ์ขันในการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า

87% ของผู้บริหารธุรกิจกล่าวว่าไม่มีข้อมูลเชิงลึกหรือเครื่องมือเพื่อการใช้อารมณ์ขันให้บรรลุผลตามที่ตั้งใจ โดยผู้บริหารจะมั่นใจในการใช้อารมณ์ขันกับลูกค้ามากกว่านี้ ถ้าพวกเขามองเห็นถึงปฏิกิริยาของลูกค้าชัดเจนขึ้น (54%) และเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงอย่างปัญญาประดิษฐ์ (37%)

เกร็ตเชน รูบิน

“เรากำลังพยายามก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก และทั่วโลกก็กำลังขาดแคลนความสุข เราจึงพยายามเสาะหาประสบการณ์ที่ทำให้เรายิ้มและหัวเราะ ซึ่งแบรนด์สินค้าสามารถช่วยในเรื่องนี้ได้”

“สำหรับแบรนด์ที่ต้องการยกระดับความสุขของกลุ่มเป้าหมาย ต้องเริ่มพิจารณาจากข้อมูลและทำความรู้จักกับลูกค้าของคุณก่อน ด้วยวิธีนี้คุณจะสามารถนำเสนอส่วนผสมที่ลงตัวของอารมณ์ขัน ลักษณะเฉพาะตัวของแบรนด์ และประสบการณ์ที่จะช่วยเพิ่มความภักดีและการสนับสนุนแบรนด์ได้” เกร็ตเชน รูบิน นักเขียนขายดี 5 สมัยของนิวยอร์กไทม์และนักพูดพอดคาสต์ กล่าว

นายทวีศักดิ์ แสงทอง กรรมการผู้จัดการ ออราเคิล คอร์ปอเรชั่น ประเทศไทย กล่าวว่า “สำหรับประเทศไทยที่ได้ชื่อว่าสยามเมืองยิ้ม ความสุขนั้นฝังอยู่ในดีเอ็นเอของพวกเราทุกคน และดังที่ผลการวิจัยได้แสดงให้เห็นแล้วว่าผู้บริหารธุรกิจส่วนใหญ่ต้องการทำให้ผู้บริโภคได้หัวเราะมากขึ้นและเริ่มเข้าใจว่าสิ่งนี้มีความจำเป็นในการสร้างความสัมพันธ์อันน่าเชื่อถือ ข้อมูลจึงมีบทบาทสำคัญอย่างมากเพื่อช่วยให้แบรนด์ต่างๆ มีความเข้าใจในสิ่งที่ลูกค้าของตนชื่นชอบ ผ่านการวิเคราะห์และการกำหนดประสบการณ์ลูกค้าที่เหมาะสม เพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่และรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ให้มากที่สุด”

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า