รวมแบรนด์ที่ประกาศจุดยืน ‘แบนรัสเซีย’

สงครามรัสเซีย-ยูเครน ยังคงตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดทำให้มีสินค้าหลายแบรนด์ออกมาแสดงจุดยืนกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ 

แบรนด์ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของรัสเซีย โดยออกมาประณามรัสเซีย พร้อมสนับสนุนยูเครนอย่างเต็มที่ TODAY Bizview เลยรวบรวมมาให้ทุกคนดูกันว่า ตอนนี้มีแบรนด์ไหนบ้างที่ออกมาแบนรัสเซีย แบนแบบไหน  และจะทำอะไรกับรัสเซียบ้าง

น้ำมัน

Shell ประกาศขอออกจากโรงงานผลิตในรัสเซีย และถอนหุ้น (สัดส่วนอยู่ที่ 27.5%) ออกจากโรงผลิตก๊าซธรรมชาติเหลวในเกาะซาฮาลิน นอกจากนี้ Shell ก็จะถอนตัวจากธุรกิจแบบกิจกรรมร่วมค้า (joint venture) ในประเทศอีกด้วย ซึ่ง Shell ถือเป็นผู้ค้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) รายใหญ่ที่สุดในโลก

BP บริษัทพลังงานของสหราชอาณาจักร ออกมาประกาศเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า บริษัทจะออกจากการถือหุ้น (สัดส่วนอยู่ที่ 19.5%) จาก Rosneft ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานของรัสเซีย จากแรงกดดันของสหราชอาณาจักร

ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่สำหรับรัสเซีย เพราะ BP เป็นนักลงทุนชาวต่างชาติที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซีย และรัสเซียอาจจะเสียหายถึง 2.5 หมื่นล้านเหรียญ จากการถอดถอนในครั้งนี้ด้วย

ส่วน Equinor บริษัทพลังงานที่ได้รับการสนับสนุนจากนอร์เวย์ ออกมาประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า กำลังอยู่ในกระบวนการที่จะยุติการร่วมทุนกับรัสเซีย ซึ่งนี่จะเป็นการสิ้นสุดความสัมพันธ์กับรัสเซียในรอบ 30 กว่าปีด้วย

และวันอังคารที่ผ่านมา Exxon Mobil ประกาศเช่นกันว่าจะถอนกิจการก๊าซและน้ำมันในรัสเซีย ซึ่งมีมูลค่ากว่า  4หมื่นล้านเหรียญ

นอกจากนี้ Total Energies บริษัทน้ำมันของฝรั่งเศสก็ออกมาว่าเขาจะไม่จัดหาเงินทุนสำหรับโครงการรัสเซียใหม่ แต่เขายังจะยังคงอยู่ในรัสเซีย

รถยนต์

Ford ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอเมริกัน กำลังจะระงับกิจการร่วมค้ากับรัสเซียเช่นกัน Ford เองยังออกมาแสดงความห่วงใยถึงเหตุการณ์ระดับโลกในครั้งนี้ ถึงแม้ว่าทางแบรนด์จะไม่ได้มีการดำเนินงานที่สำคัญในยูเครน แต่ก็ยังมีพนักงานชาวยูเครน ที่เปรียบเสมือนเป็นกองกำลังที่สำคัญ ทำงานให้กับ Ford ทั่วโลก แบรนด์จึงพร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง และยังจะมอบเงิน 1 แสนเหรียญให้กับกองทุนบรรเทาทุกข์ให้กับยูเครนอีกด้วย

ส่วนแบรนด์รถยนต์ชื่อดังของเยอรมนีอย่าง BMW ได้หยุดการส่งออกและการผลิตรถยนต์ทุกคันในรัสเซีย รวมถึง Mercedes-Benz ที่จะระงับการส่งออกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถตู้ไปยังรัสเซีย รวมถึงการผลิตในท้องถิ่นอีกด้วย

ด้าน Volvo ก็ออกมาระงับการส่งออกไปรัสเซีย โดยให้เหตุผลในเรื่องความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการซื้อขายวัสดุกับรัสเซีย รวมไปถึงการคว่ำบาตรโดยสหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา

ส่วน Volkswagen ได้ประกาศระงับการส่งมอบรถยนต์ไปยังตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ และยกเลิกการขายรถหรูภายใต้แบรนด์อย่าง Audi ทั้งหมดในรัสเซีย แต่แบรนด์ยังไม่ได้มีข้อบ่งชี้ที่จะปิดฐานการผลิตในรัสเซียซะทีเดียว

Renault หนึ่งในแบรนด์รถยนต์ชื่อดังในยุโรป บอกว่ากำลังปิดโรงงานใกล้มอสโกในสัปดาห์นี้ เนื่องจากปัญหาการขนส่งจากมาตรการของชาวตะวันตกต่อรัสเซียอีกด้วย

ด้าน Nissan Motor ซึ่งเป็นพันธมิตรกับ Renault ก็ออกมาแสดงจุดยืนนี้เช่นกัน

วงการสื่อ

วงการ Hollywood ก็ออกมาแสดงจุดยืนในครั้งนี้ โดยล่าสุด Disney, Warner Bros., และ Sony Pictures ได้ออกมาระงับการเปิดตัวภาพยนตร์อย่าง The Batman, Morbius, และ Turning Red ซึ่งตอนแรกมีแพลนฉายในรัสเซียในเดือนนี้ด้วย

ด้านบริการสตรีมมิงชื่อดังอย่าง Netflix ก็ออกมาบอกว่า บริษัทจะไม่ปฏิบัติตามกฎหมายล่าสุดของรัสเซีย และจะหยุดการเข้าซื้อกิจการในอนาคตทั้งหมดชั่วคราว 

สำหรับกฎหมายล่าสุดของรัสเซียบอกว่าบริการสตรีมมิงออนไลน์ทุกแพลตฟอร์มจะต้องอยู่ภายใต้ผู้ควบคุมการสื่อสารของรัสเซีย อย่าง Roskomnadzor ซึ่งกฎหมายนี้เพิ่งออกมาเมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา 

DirecTV หนึ่งในผู้ให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา กำลังถอดเครือข่าย RT ที่ควบคุมโดยรัฐบาลรัสเซียออกจากบริการ ซึ่งก่อนหน้านี้สัญญาระหว่าง DirecTV และ RT จะสิ้นสุดภายในครึ่งปีหลัง 2022 แต่การบุกรุกของรัสเซียทำให้ทาง DirecTV ตัดสินใจที่จะยกเลิกสัญญาเร็วขึ้น และจะไม่ต่อสัญญาอีกต่อไป

กีฬา

ผู้ผลิตอุปกรณ์ฮอกกี้อย่าง CCM จะหยุดใช้ผู้เล่น NHL ของรัสเซียในการทำการตลาดทั่วโลกของทางแบรนด์ ซึ่งซีอีโอของ CCM ประกาศเลิกใช้นักกีฬาของรัสเซียอย่าง อเล็กซานเดอร์ โอเวชคิน ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้เป็นคนที่ต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์นี้ แต่แบรนด์ก็ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ใช้ผู้เล่นของรัสเซียเลยแม้แต่คนเดียวตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป 

ทั้งนี้ โอเวชคิน เป็นผู้สนับสนุนแกนนำของ วลาดิเมียร์ ปูติน และยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมาจากการที่เขาเลือกที่จะไม่ประณามปูตินจากการบุกรุกยูเครนในครั้งนี้

ส่วน NHL ลีคฮอกกี้ชื่อดังระดับโลก ได้ระงับการใช้เว็บไซต์โซเชียลมีเดีย และสื่อดิจิทัลภาษารัสเซีย และยังระงับความสัมพันธ์กับรูปแบบธุรกิจของรัสเซีย รวมถึงยังจะยุติการพิจารณาการใช้รัสเซียเป็นสถานที่ในการแข่งขันในอนาคตด้วย