SHARE

คัดลอกแล้ว

ใครจะคิดว่า รายงานส่งอาจารย์ที่ได้แค่เกรด C จะกลายเป็นบริษัทขนส่งยักษ์ใหญ่ระดับโลกได้ แต่มันเกิดขึ้นแล้วกับชีวิตของชายหนุ่มชาวอเมริกันอย่าง ‘เฟร็ด สมิธ’ (Fred Smith) ชายผู้ก่อตั้ง FedEx และสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับบริษัทจนกลายเป็นขนส่งระดับโลกที่ให้บริการในกว่า 220 ประเทศทั่วโลก

TODAY Bizview ชวนอ่านเรื่องราวการถือกำเนิดของหนึ่งในบริษัทขนส่งที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง FedEx ที่เริ่มต้นจากไอเดียทำรายงานส่งอาจารย์ในสมัยวิทยาลัย การยื้อเวลาในช่วงวิกฤตด้วยบ่อนคาสิโน จนมาถึงการทำกำไร ขยายธุรกิจสู่ยุคใหม่ของ FedEx

[ เด็กชายจากเทนเนสซีกับรายงานส่งอาจารย์เกรด C ]

อย่างแรกที่เราต้องรู้ คือ เรื่องราวของชายผู้ก่อตั้ง FedEx อย่าง ‘เฟร็ด สมิธ’ ไม่ได้เป็นเรื่องราวของการก่อร่างสร้างตัวจากพื้นฐานติดลบ เพราะเขาถือกำเนิดในครอบครัวฐานะดี เจ้าของธุรกิจบริการรถโค้ชบนทางหลวง Dixie Greyhound Bus Lines และร้านอาหารในเครือ Toddle House ในแถบชานเมืองนอกเมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา

แม้เขาจะกำเนิดมาพร้อมความบกพร่องแต่กำเนิดอย่างโรคเบ้ากระดูกสะโพก ทำให้ต้องใส่อุปกรณ์ค้ำยันและใช้ไม้ค้ำตลอดช่วงวัยเด็ก แต่เขาก็หายจากโรคและกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ด้วยความพยายามของแม่เขาที่สนับสนุนให้ออกกำลังกายและทำกิจกรรมต่างๆ

จนกระทั่ง ‘เฟร็ด สมิธ’ สามารถเข้าเรียนใน ‘เยล’ มหาวิทยาลัยในกลุ่มไอวี่ลีกที่เก่าแก่เป็นอันดับ 3 ของอเมริกา ที่ที่เขาเขียนรายงานเกี่ยวกับ ‘การจัดส่งพัสดุแบบข้ามคืนในยุคข้อมูลคอมพิวเตอร์’ แต่ศาสตราจารย์ให้เกรด C ด้วยเหตุผลว่า “มีแนวคิดและรูปแบบที่น่าสนใจ แต่ถ้าจะได้มากกว่า C ไอเดียนี้จะต้องเป็นไปได้จริงด้วย” ก่อนไอเดียที่เป็นไปไม่ได้ในตอนนั้นจะกลายเป็นธุรกิจจริงๆ ในเวลาต่อมา

หลังจากเรียนจบ สมัครเป็นนาวิกโยธิน และถูกส่งไปเวียดนาม 2 ครั้ง ‘เฟร็ด สมิธ’ ก็เริ่มมองหาอย่างอื่นทำ เริ่มต้นจากกลับไปช่วยธุรกิจดัดแปลงและซ่อมเครื่องบินของพ่อเลี้ยง ที่ทำให้เขาฉุกคิดถึงไอเดียสมัยเรียนมหาวิทยาลัยขึ้นมา แล้วตัดสินใจทุ่มเงิน 4 ล้านดอลลาร์ที่ได้มาจากพ่อให้กับ ‘ฝูงบิน’ ของธุรกิจขนส่งที่ผสานงานอากาศยานและภาคพื้นเข้าด้วยกัน

โดยวางระบบขนส่งพัสดุแบบ ‘ฮับและซี่ล้อ’ พัสดุจากทั่วประเทศจะบินไปรวมกันยังจุดศูนย์กลางและบินแยกออกจากจุดศูนย์กลางออกไปเหมือนกับซี่ของล้อสู่สนามบินในเมืองใหญ่ๆ โดยเลือกสล็อตบินในช่วงกลางคืน และกระจายพัสดุต่อไปยังจุดหมายปลายทางด้วยรถบรรทุกเข้าสู่พื้นที่

[ ไร้เดียงสาทางธุรกิจ ยื้อเวลาในบ่อนพนัน ]

FedEx เริ่มดำเนินการในปี 1971 ด้วยเครื่องบินในปีแรกราว 14 ลำให้บริการใน 25 เมือง แต่ไม่มีทางที่จะมีรายรับเข้ามาเพียงพอทันทีที่เปิดกิจการ พอได้มีโอกาสให้สัมภาษณ์ในช่วงที่ประสบความสำเร็จแล้ว ‘เฟร็ด’ ยอมรับว่า เขาเป็นคนไร้เดียงสาที่คิดว่าจะมีรายได้เข้ามาทันทีที่เปิดกิจการ

ทำให้ในปีนั้น ‘เฟร็ด สมิธ’ ต้องออกเดินทางเพื่อระดมทุน ในสิ้นปีนั้นเขาระดมทุนได้กว่า 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปริมาณการจัดส่งพัสดุจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและประสบความสำเร็จมากในเวลาต่อมา

แต่โลกธุรกิจไม่ได้ง่ายแบบนั้น เพราะทันทีที่ราคาเชื้อเพลิงพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ต้นทุนมหาศาลก็แซงหน้ารายรับ ทำให้หลังจากเปิดบริการได้แค่ 3 ปี FedEx ก็เจอกับวิกฤติเสี่ยงล้มละลาย ไม่สามารถหานักลงทุนมาระดมทุนเพิ่มได้

ตอนที่ ‘เฟร็ด’ กำลังผิดหวังรอเที่ยวบินกลับบ้านจากชิคาโก เขาก็ตัดสินใจเดี๋ยวนั้นเลยว่าจะบินไป ‘ลาสเวกัส’ เดินเข้าคาสิโน ได้เงินก้อนมา 27,000 ดอลลาร์จากเกมแบล็คแจ็ค เงินก้อนนี้อาจจะไม่มา แต่ก็ส่งสัญญาณบวกแรกให้ ‘เฟร็ด’ ตัดสินใจกลับมาเดินสายพบนักลงทุนอีกครั้ง และครั้งนี้เขาระดมทุนได้กว่า 11 ล้านดอลลาร์ พลิกฟื้น FedEx จากวิกฤตล้มละลายได้สำเร็จ

[ รุดหน้าสู่ความสำเร็จ สู่ยักษ์ใหญ่ขนส่งโลก ]

แม้ในช่วงสองปีแรกของธุรกิจ FedEx ขาดทุนรวมกว่า 13.4 ล้านดอลลาร์ แต่ ‘เฟร็ด’ ไม่ยอมแพ้ และตัดสินใจเดินหน้าต่อ ก่อนจะเริ่มทำกำไรได้ 3.6 ล้านดอลลาร์ในได้ปี 1976 และเพิ่มขึ้นเป็น 38.7 ล้านดอลลาร์ในปี 1980 จนขึ้นเป็นบริษัทขนส่งข้ามคืนอันดับ 1 ของโลกในปี 1999 จัดส่งพัสดุกว่า 3 ล้านชิ้นไปสู่ 210 ประเทศทั่วโลก

หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของ ‘เฟร็ด’ คือ การเข้าเป็นพาร์ทเนอร์กับแบรนด์น้อยใหญ่หลากหลายเจ้า อย่าง Dollar General Store ธุรกิจค้าปลีกที่มีสาขาจำนวนมากในอเมริกา รวมถึงผู้นำด้านอีคอมเมิร์ซอย่าง Amazon ที่กำลังเติบโตมหาศาลในสหรัฐอเมริกา ที่แม้ในเวลาต่อมาจะสิ้นสุดความเป็นพาร์ทเนอร์กัน เพราะ Amazon หันไปทำการขนส่งเอง

ปัจจุบัน ‘เฟร็ด สมิธ’ ที่มีอายุกว่า 78 ปี ที่ถอยลงจากตำแหน่งซีอีโอ ยังคงนั่งในตำแหน่งประธานกรรมการบริหารของ FedEx บริษัทขนส่งที่มีอายุ 52 ปี มีพนักงานกว่า 6 แสนคนทั่วโลก

ในปี 2022 นี้ FedEx ทำรายได้รวมกว่า 9.15 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.15 ล้านล้านบาท) และสร้างกำไรกว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.7 แสนล้านบาท) จากรายงานของฟอร์บส ส่วนตัว ‘เฟร็ด สมิธ’ เจ้าของรายงานเกรด C เมื่อปีนั้นมีทรัพย์สินตามรายงานกว่า 1.3 แสนล้านบาท อยู่ในตำแหน่งคนที่รวยที่สุดอันดับ 662 ของโลก

 

[ FedEx ในไทยจาก 30 สู่ 1,400 คน ]

ส่วนในประเทศไทยนั้นในฐานะเจ้าของและบริหารกิจการของ FedEx ในประเทศไทยอย่างเต็มตัวในปี 1999 ก่อนเพิ่มเที่ยวบินภายในประเทศเป็น 7 เที่ยวบินในปีถัดมา และยังได้ขยายบริการใหม่ๆ เพิ่มอีกหลายบริการ

ปัจจุบัน FedEx อยู่ในตลาดไทยมากว่า 40 ปี เริ่มต้นจากทีมงาน 30 คน สู่ปัจจุบันมีทีมงานกว่า 1,400 คน พร้อม 12 ศูนย์บริการ 8 สถานี

บริการหลัก 3 แบบใหญ่ๆ คือ 

– บริการเคลื่อนย้ายสินค้าโดยการขนส่งหลายรูปแบบ ทั้งอากาศ ทะเล และ บนบก

– บริการพิธีการศุลกากร ช่วยผู้ใช้บริการในการดำเนินการพิธีศุลกากร

– บริการขนส่งแบบควบคุมความเย็น 

โดย ‘เทียน หลง วูน’ กรรมการผู้จัดการ FedEx Express ประเทศไทย อธิบายว่า ปัจจุบัน FedEx เน้นสร้างห่วงโซ่อุปทานเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยลงทุนไปกว่า 2,000 ล้านเหรียญดอลลาร์เพื่อเปลี่ยนแปลงไปสู่ความยั่งยืน อาทิ การเปลี่ยนรถยนต์ขนส่งเป็นพลังไฟฟ้า การรีไซเคิลเส้นใยกลับมาเป็นเครื่องแบบและหมวก ฯลฯ

แต่กลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดตลอดมาของ FedEx คือ การยึดมั่นในหลักการ ‘People-Service-Profit’ (P-S-P) เน้นสร้างสิ่งแวดล้อมในการทำงานที่เอื้อต่อการเติบโตของพนักงาน ทั้งในด้านอาชีพการงานและชีวิตส่วนตัว รวมถึงสามารถความเท่าเทียมและหลากหลายในที่ทำงาน เพื่อให้บุคลากรสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้ต่อไป

สอดคล้องกับแนวคิดดั้งเดิมของ ‘เฟร็ด สมิธ’ ในสมัยที่ยังคงเดินหน้า FedEX ต่อไป แม้ในวันที่ไม่มีกำไร เพราะ “ผมให้คำมั่นอย่างหนักแน่นกับคนร่วมงานกับเรา ถ้าเราจะพ่ายแพ้ก็จะพ่ายแพ้เพราะการต่อสู้ ไม่ใช่เพราะผมเลิกล้มตอนที่ยังทำไม่เสร็จ”

ที่มา entrepreneur, fedex, forbes1, forbes2, .referenceforbusiness

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า