รู้จัก LYN แบรนด์กระเป๋า-รองเท้าไทย ใต้เครือ JASPAL ที่โตไกลถึงเวียดนาม-กัมพูชา

ถือเป็นแบรนด์ที่คนชอบเดินห้างสรรพสินค้าในไทยจะต้องคุ้นหน้าคุ้นตาบ้างกับ ‘LYN’ แบรนด์แฟชันแอคเซสเซอรี่ หรือแบรนด์จำหน่ายกระเป๋าและรองเท้าที่เรียกว่ามีอยู่แทบทุกห้างใหญ่ๆ ในประเทศไทย แต่หลายคนคงไม่รู้จักที่มาที่ไปและเรื่องราวธุรกิจของแบรนด์คนไทยที่สามารถโตไกลขยายกว่า 70 สาขาในเอเชีย TODAY Bizview สรุปเรื่องราว Brand Story ของ LYN มาให้แล้ว 

[ แบรนด์อันดับ 3 ของ JASPAL เครือแฟชันไทยระดับเอเชีย ]

เรื่องแรกเกี่ยวกับแบรนด์ LYN ที่น่าสนใจและจะทำให้เราเข้าใจแบรนด์ไทยที่ออกเสียงว่า “ลิน” เพิ่มขึ้น คือ เรื่องราวของบริษัทแม่ของแบรนด์ LYN อย่าง JASPAL (อ่านออกเสียงว่า ยัสปาล) บริษัทผู้ค้าปลีกแฟชันไทยอายุกว่า 50 ปีที่มีแบรนด์ดังในเครือมากกว่า 10 แบรนด์ และทำธุรกิจเป็นตัวแทนจำหน่ายนำเข้าแบรนด์อีกหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น

แบรนด์ของ JASPAL

– JASPAL             – CPS CHAPS

– LYN                  – CC DOUBLE O

– Lyn around         – Jelly Bunny

– Misty Mynx         – ROYAL IVY REGETTA 

– V EYEWEAR      – QUINN

ตัวอย่างแบรนด์ตัวแทนจำหน่าย

– FRED PERRY     – Melissa

– Shoebar             – ASICS

– DIESEL และแบรนด์อื่นๆ อีกมากมาย

โดยจากบรรดาแบรนด์ใต้ JASPAL กว่าสิบแบรนด์นั้น LYN ก่อตั้งขึ้นในปี 2001 เป็นแบรนด์ Fashion Accessories เครื่องประดับแฟชัน หรือแบรนด์สินค้าในกลุ่มกระเป๋าและรองเท้าของกลุ่ม JASPAL ที่บริษัทวางตำแหน่งการตลาดเป็นแบรนด์ระดับ Affordable Luxury หรือแบรนด์ลักซูรีที่สามารถเข้าถึงได้ในราคาสินค้าไม่เกิน 3,000 บาท

หลังจากก่อตั้งมา 20 ปี ปัจจุบัน LYN มีสาขากว่าทั่วโลก 70 สาขา

– สาขาในประเทศ 48 สาขา

– สาขาในต่างประเทศ 25 สาขา

แบ่งเป็นในเวียดนาม 21 สาขาและกัมพูชา 4 สาขา

จากทั้งหมด 48 สาขาในไทยมีสาขาที่มีสินค้าในกลุ่ม LYN Beauty รวม 30 สาขาและมีหน้าร้านเฉพาะสำหรับ LYN Beauty อีก 4 สาขา

ที่น่าสนใจคือ จากแบรนด์ทั้งหมดภายใต้เครือ JASPAL นั้น LYN เป็นแบรนด์อันดับ 3 ทำรายได้ราว 40% ของกลุ่มบริษัท รองจาก JASPAL และ CC DOUBLE O ที่เป็นแบรนด์อันดับ 1 และ 2 เท่านั้น หรือเรียกว่า มีความสำคัญและเป็นหนึ่งในเรือธงของบริษัท

[ ขายกระเป๋า-รองเท้า รายได้ระดับพันล้าน ]

ก่อนโควิด-19 ในปี 2019 แบรนด์ LYN มีรายได้ในประเทศราว 1,200 ล้านบาท

หลังเข้าสู่ช่วงโควิด-19 รายได้ของแบรนด์ลดลง เพราะหน้าร้านของแบรนด์ทั้งหมดอยู่ในห้างสรรพสินค้าจึงได้รับผลกระทบจากมาตรการต่างๆ ตามสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ในปี 2021 แบรนด์ LYN มีรายได้ราว 600-700 ล้านบาทเท่านั้น

ก่อนจะกลับมาเติบโตดีและแรงอีกครั้งในปี 2022 นี้ เพราะการกลับมาของตลาดในประเทศที่กลับมาเป็นปกติแล้ว เหลือเพียงตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังไม่กลับมา 100% แต่ผู้บริหารของ LYN ก็คาดว่าในปี 2022 รายได้ในไทยจะกลับมาแตะ 1,200 ล้านบาทอีกครั้ง

โดยรายได้ 1,200 ล้านบาท คิดเป็นกว่า 90% ของรายได้ทั้งหมดของแบรนด์ ส่วนอีก 10% มาจากรายได้ในต่างประเทศ โดยรายได้จากเวียดนามตอนนี้คิดเป็นแค่ 15% เมื่อเทียบกับรายได้ในประเทศไทย

จากสาขาทั้งหมดกว่า 48 สาขาในประเทศไทย สาขาที่ทำเงินสูงสุด 5 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลเวิล์ด เมกาบางนา ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ไอคอนสยาม และเซ็นทรัลลาดพร้าว

ทำให้เมื่อไม่นานมานี้ LYN ตัดสินใจขยายพื้นที่สาขา ‘เซ็นทรัลลาดพร้าว’ เป็น ‘LYN แฟล็กชิปสโตร์’ ที่มีพื้นที่กว่า 250 ตร.ม. จากปกติแต่ละสาขาจะมีขนาดราวๆ 100-150 ตร.ม. เพื่อให้สามารถจัดแสดงได้อย่างเป็นระบบและครบทุกคอลเลคชัน ใช้งบประมาณราว 25 ล้านบาท 

ผู้บริหารของ LYN อย่าง ‘ยศเทพ สิงห์สัจจเทศ’ ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มธุรกิจ บริษัท ยัสปาล จำกัด บอกว่า ในอนาคต LYN อาจมี ‘แฟล็กชิปสโตร์’ ขนาดใหญ่กว่า 200 ตร.ม. เพิ่มอีก 2-3 สาขาในประเทศไทย

ส่วน ‘สุวิตา สิงห์สัจจเทศ’ ผู้อำนวยการกลุ่มแบรนด์ บริษัท ยัสปาล จำกัด เล่าว่า ในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา แม้จะยังคงเน้นจำหน่ายจากหน้าร้าน แต่แบรนด์ได้ขยับขยายไปทำออนไลน์มากขึ้นเพื่อรับกับพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงตอบสนองความต้องการของลูกค้า VIP ที่ต้องการสั่งสินค้าและติดต่อกับแบรนด์ผ่านช่องทางไลน์

[ เป้าหมายยังคงเป็นขยายทั่วเอเชีย ]

แผนสำหรับปีหน้าของแบรนด์ LYN คือ

– ขยายสาขาในประเทศ ‘เวียดนาม’ ตามการเจริญเติบโตของห้างสรรพสินค้าในเวียดนาม คาดราว 10 สาขาต่อปี ส่วนในกัมพูชาก็มีแผนการขยายเช่นกันแต่ไม่มากเท่าในเวียดนาม

– ศึกษาตลาดอื่นๆ ในภาคพื้นเอเชียเพิ่มเติม อาทิ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย รวมถึงสิงคโปร์ พร้อมทั้งศึกษาการขยายแบรนด์อื่นๆ ในเครือไปในพื้นที่ที่ LYN เติบโตแล้ว

– ยังคงเดินหน้าสินค้าในกลุ่ม LYN Beauty ที่เป็นส่วนขยายของแบรนด์ หาสินค้าใหม่ให้ลูกค้าของแบรนด์ได้อัปเดตลุค ใช้พื้นที่น้อย (50-60 ตร.ม.) และมีสาขารองรับอยู่แล้ว

“อนาคตเราอยากจะขยายสาขาให้ครอบคลุมเอเชีย เพราะภูมิภาคเอเชียเป็นตลาดที่เราเข้าใจมากที่สุด จึงอยากทำให้โปรดักส์ของเราเป็นโปรดักส์ที่คนในภาคพื้นเอเชียรู้จัก เราถึงให้ความสำคัญกับการขยายสาขาในประเทศและต่างประเทศ แนวโน้มหลังจากนี้ตลาดค้าปลีกคาดว่าจะเติบโตดีจากการบริโภคในประเทศและการท่องเที่ยว”

“ความท้าทายของแบรนด์หลังจากนี้ คือ การแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้แบรนด์ต้องอัปเดตสินค้าให้เป็นที่ต้องการของลูกค้าอยู่เสมอ แม้ว่าลูกค้าจะมากขึ้น ตลาดจะใหญ่ขึ้น ช่องทางการขายจะเพิ่มขึ้น แต่แบรนด์ต้องพัฒนาสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่าง ‘สินค้า’ บรรยากาศ และดีไซน์ของร้านไปพร้อมกัน”

ใช้เวลาเติบโตมากแล้ว 20 ปี ในวันนี้ LYN มีหน้าร้านสาขากว่า 70 สาขา แม้อาจจะไม่สามารถเรียกว่าเติบโตอย่างก้าวกระโด แต่ก็ถือว่า LYN เติบโตอย่างต่อเนื่องและกลายเป็นแบรนด์สำคัญที่ขาดไม่ได้ของกลุ่มบริษัท JASPAL ส่วนในอนาคต LYN จะกลายเป็นแบรนด์ที่มีสาขาครอบคลุมทั่วเอเชียได้จริงไหมก็คงขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การเดินหน้าหลังจากนี้