ทหารบราซิลนำแพทย์เข้าป่า เพื่อฉีดวัคซีนของ ‘ซิโนแวค’ ให้ชนพื้นเมืองป่าแอมะซอน

ชนพื้นเมืองในพื้นที่ห่างไกลของบราซิลได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว ขณะที่ผู้นำประเทศปฏิเสธไม่ยอมฉีดวัคซีน

วันที่ 20 ม.ค. 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า กองทัพบราซิลได้ดำเนินการนำบุคลากรทางการแพทย์ เดินทางด้วยเครื่องบินทหารเข้าไปยังส่วนลึกของป่าดิบชื้นแอมะซอน พร้อมกับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของซิโนแวค จำนวน 1,000 โดส เพื่อฉีดให้กับชนพื้นเมืองในพื้นที่

อิซาเบล ทิคูนา วัย 68 ปี เป็นชนพื้นเมืองประจำหมู่บ้าน Umariaçu รายแรกที่ได้รับวัคซีน เผยความรู้สึกว่า วัคซีนเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับชุมชนและเป็นสิ่งที่ชนพื้นเมืองรอคอย จากนั้นได้ปรบมือด้วยความยินดีหลังฉีดวัคซีน

ตามรายงานระบุว่า ชนเผ่าในหมู่บ้านดังกล่าวมีผู้ติดเชื้อกว่า 2,000 ราย และเสียชีวิต 37 รายจากโรคโควิด-19

ประเทศบราซิลมีชนเผ่าพื้้นเมืองทั้งหมดกว่า 800,000 คน ส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้ารับบริการทางการแพทย์ได้สะดวกนัก ต้องใช้เวลาพายเรือหลายวันกว่าจะถึงศูนย์บริการทางการแพทย์ที่ใกล้ที่สุด

ตามสถิติของ APIB องค์กรที่ดูแลด้านสิทธิชนพื้นเมือง พบว่ามีชนพื้นเมืองติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า 46,000 ราย เสียชีวิต 926 ราย ซึ่งหากพิจารณาจากวิถีชีวิตของคนกลุ่มนี้แล้ว เป็นการยากที่จะเว้นระยะห่างทางสังคมภายในหมู่บ้านได้ จึงทำให้พวกเขามีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อในชุมชนสูง

ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จาก 2 บริษัท ที่บราซิลอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน ได้แก่ ซิโนแวค จากจีน และ แอสตร้าเซนเนก้า ของสหราชอาณาจักร โดยทั้งคู่ผ่านการอนุมัติพร้อมกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม ที่ผ่านมา

แม้ชนพื้นเมืองในป่าลึกจะได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว แต่ทางประธานาธิบดี ชาอีร์ โบลโซนาโร ของบราซิล ยังไม่ยอมรับแนวคิดเรื่องวัคซีนแต่อย่างใด เขาเคยให้สัมภาษณ์หลายครั้งในเชิงต่อต้าน พร้อมทั้งอ้างว่าตัวเขามีภูมิคุ้มกันอยู่แล้ว หลังจากได้รับเชื้อไปเมื่อเดือนกรกฎาคมปีก่อน

ด้วยเหตุนี้ โครงการวัคซีนของบราซิลจึงเกิดจากความร่วมมือของหน่วยงานด้านสาธารณสุข และรัฐบาลท้องถิ่นที่มีอำนาจในการบริหารจัดการส่วนหนึ่งเป็นของตนเอง