‘บริทาเนีย’ โชว์กำไรพันกว่าล้าน บ้านแนวราบมาแรง ปีนี้เปิดใหม่ 20 โครงการ

ช่วงนี้บริษัทอสังหาฯ ลุยแถลงผลประกอบการและแผนธุรกิจในปี 2566 อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมาถึงคิวของบริทาเนีย หรือ BRI แม้จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ไม่นาน แต่สามารถกวาดกำไรปี 65 ไปได้พันกว่าล้าน ประกาศเปิดตัวโครงการใหม่ปีนี้เพิ่มอีก 20 โครงการ สูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท มูลค่ารวม 22,500 ล้านบาท

นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI พูดถึงผลประกอบการในปี 2565 บริษัทกวาดรายได้รวมไป 6,296 ล้านบาท เติบโต 65% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,471 ล้านบาท เติบโตมากถึง 144%

หลังจากบริทาเนีย เข้าตลาดหลักทรัพย์ไปเมื่อปลายปี 2564 บริษัทได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากผลกำไรและรายได้ในช่วงปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังวางแผนธุรกิจในปี 2566 เดินหน้ากลยุทธ์  “B To The Top” เพื่อที่จะเป็นบริษัทอสังหาฯ ชั้นนำ ลุยพัฒนาบ้านจัดสรรให้เป็นระดับท็อปของประเทศ มุ่งไปที่ 3 ด้าน ได้แก่

1. B The Growth พาองค์กรเติบโตสู่ระดับท็อปของตลาด เปิดตัวโครงการใหม่สูงที่สุดในปีนี้ จำนวน 20 โครงการ มูลค่ารวม 22,500 ล้านบาท หวังสร้างกำไรให้เพิ่มขึ้น ยกตัวอย่างแบรนด์ดังที่จะเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ ได้แก่ เบลกราเวีย (Belgravia) แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) บริทาเนีย (Britania) และไบรตัน (Brighton) ครอบคลุมทุกเซ็กเม้นต์ ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

2. B The Craft ตั้งเป้าเป็นแบรนด์บ้านจัดสรรติดอันดับในใจผู้บริโภค (Top of Mind Brand) มอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าในทุกๆ ด้าน โดยรู้และเข้าใจความต้องการของลูกค้า

3. B The Goodness สร้างความรับผิดชอบต่อสังคม ทั้งในระดับโครงการและชุมชนรอบด้าน ใส่ใจสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ในปี 2050 เริ่มตั้งแต่การออกแบบ การลือกใช้วัสดุ การก่อสร้าง รวมถึงการเพิ่มพื้นที่สีเขียว การจัดการขยะ สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดภายในโครงการ และสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีแก่ชุมชน ผ่านการสร้างมีส่วนรวมกับหลายฝ่าย

บริทาเนีย ต่อยอดความสำเร็จโครงการบ้านแบรนด์ต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งมีทั้งโครงการบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม รวมถึงโครงการรูปแบบมิกซ์โปรดักส์ โดยโครงการเด่นของปีนี้ หนีไม่พ้นแบรนด์เบลกราเวีย (Belgravia) บ้านหรูระดับลักชัวรี หลังจากโครงการแรกเปิดขายไปได้ไม่นานก็ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี สะท้อนกำลังซื้อของผู้บริโภคระดับบนที่กำลังมาแรงอย่างมากในช่วงเวลานี้

ไม่เพียงแต่โครงการบ้านหรูเท่านั้น แต่บริษัทได้วางแผนเปิดโครงการใหม่ที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม ครบทุกเซ็กเม้นต์ ประกอบไปด้วย

• ไบรตัน (Brighton) 2 โครงการ บ้านแฝด และทาวน์โฮม ระดับเริ่มต้น (Entry) ราคา 5-4 ล้านบาท เน้นกลุ่มผู้ซื้อบ้านหลังแรก กลุ่ม Young Generation
• บริทาเนีย (Britania) 12 โครงการ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ระดับ Mid-end ราคา 4-8 ล้านบาท เน้นกลุ่มผู้ซื้อที่เริ่มต้นขยายครอบครัว ลงหลักปักฐานมั่นคงมากขึ้น
• แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) 4 โครงการ บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดระดับ High-End ราคา 8-20 ล้านบาท เน้นกลุ่มผู้ซื้อที่มีกำลังซื้อสูง ต้องการที่อยู่อาศัยที่สร้างความภาคภูมิใจให้แก่ตนเอง
• เบลกราเวีย (Belgravia) 2 โครงการ บ้านเดี่ยวลักชัวรี ระดับราคา 20-50 ล้านบาท เน้นกลุ่มผู้ซื้อที่ต้องการบ้านที่มีการออกแบบอย่างเป็นเอกลักษณ์ ละเอียด ละเมียดละไม สะท้อนตัวตน

“เราประเมินว่าปีนี้บ้านทุกระดับราคา จะมีความต้องการต่อเนื่อง เป็นสาเหตุให้เรานำแบรนด์เบลกราเวีย ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับลักชัวรีกลับมาร่วมบุกตลาดพร้อมกับอีก 3 แบรนด์ โดยจะมีครบทุกโปรดักส์ นอกจากนี้จะโฟกัสไปที่ตลาดใหญ่ที่สุดอย่างตลาดบ้าน 5-10 ล้าน ซึ่งเป็นเซ็กเมนท์ที่มีกำลังซื้อแข็งแกร่ง โดยมีฟังก์ชันตอบโจทย์การอยู่อาศัยร่วมกันระหว่างคนหลากเจเนอเรชั่น รองรับประเทศก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ” นายสุรินทร์ กล่าว

ดังนั้นโครงการไฮไลต์ของปีนี้ ที่จะได้เห็นแน่นอน เช่น เบลกราเวีย ราชพฤกษ์-นครอินทร์ (Belgravia Ratchapruek-Nakornin) และเบลกราเวีย พุทธมณฑล สาย 3 (Belgravia Phuttamonthon Sai 3) จุดเด่นคือ จำนวนยูนิตน้อย เพิ่มความเป็นส่วนตัวและความรู้สึกเอ็กซ์คลูซีฟ พื้นที่บ้านมากกว่า 100 ตร.วา

นอกจากนี้จะออกแบบให้มีฟังก์ชันภายในบ้านที่คำนึงถึงความเป็นอยู่ที่ดี ตอบความต้องการของคนทุกเจเนอเรชัน สามารถทำกิจกรรมและไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัว บนทำเลที่เชื่อมต่อเมืองและการเดินทางได้สะดวก ตั้งเป้าพรีเซลล์ปี 2566 ที่ 13,000 ล้านบาท วางรายได้ 9,000 ล้านบาท และกำไร 18% ขึ้นไป

ที่น่าจับตาอีกอย่าง คือการลุยตลาดอสังหาฯ ในพื้นที่ปริมณฑลปีนี้ ทั้งในจังหวัดสมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี รวมถึงเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อย่างชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา และจังหวัดใหญ่ๆ ที่ประชากรมีรายได้ต่อหัวค่อนข้างสูง นำร่องที่ขอนแก่นและอยุธยา ได้แก่ โครงการบริทาเนีย มะลิวัลย์ และบริทาเนีย อยุธยา

ส่วนการร่วมมือกับพันธมิตรต่างชาติ บริทาเนียตั้งใจเดินหน้าร่วมทุนต่อไป พร้อมพัฒนาบริการหลังการขาย และนวัตกรรมที่จะนำมาช่วยอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าอย่างรอบด้านต่อไป