จากกรณีที่อดีตพระพุทธะอิสระ หรือ พระสุวิทย์ ธีรธัมโม ผู้ก่อตั้งวัดอ้อน้อย (ธรรมอิสระ) อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ให้สัมภาษณ์ถึง ข่าวเตรียมจะกลับมาบวชอีกครั้งในวันที่ 5 ธ.ค. นี้ หลังจากจะพ้นช่วงการควบคุมความประพฤติ ในความผิดฐานร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังหรือกระทำด้วยการใดให้เจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ฯ ให้รับอันตรายสาหัส ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายฯ หรือโดยใช้กำลังประทุษร้าย ซึ่งเป็นเหตุการณ์ในช่วงระหว่างการชุมนุม กปปส.
โดยเมื่อวันที่ 18 ต.ค. อดีตพระพุทธะอิสระ ระบุว่า ไม่ได้ทำอะไรที่ละเมิดพระธรรมวินัยและไม่ได้กล่าวลาสิกขา และความผิดที่ถูกตั้งข้อหาก็ไม่ใช่ความผิดที่เรากระทำ เราจึงไม่ถือว่าละเมิดพระธรรมวินัย แต่จะกลับมาห่มจีวรเลยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับที่ประชุมคณะสงฆ์และญาติโยมพุทธบริษัท

ภาพ FB หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)
วันที่ 30 ต.ค. อดีตพระพุทธะอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก โดยอ้างถึง ข้อเขียนของ เปลว สีเงิน ในหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ที่ว่า “หลวงปู่พ้นโทษคุกก็จริง แต่ทางคดีถือว่าได้ทำผิด ทั้งรับสารภาพในทางสงฆ์ บอกว่าหลวงปู่ยังดำรงภิกษุภาวะ ผมก็สาธุแต่ทางโลก ผมเกรงจะเกิดครหา เพื่อตัดบ่วงมารที่จะตามราวีภายหลัง 5 ธันวา หลวงปู่กล่าวคำขอบวชใหม่จะสบายใจทั้งสงฆ์-ทั้งชาวบ้าน นี่คือความเห็นผม”
พุทธะอิสระ ระบุว่า ขอบคุณในน้ำใจที่ยังห่วงใยกันเสมอและไม่เมินเฉยต่อข้อชี้แนะของกัลยาณมิตรที่ดี ตนเองคิดอยู่ในใจไว้เหมือนกันว่า การกลับมาห่มผ้าเหลืองในครั้งนี้จะต้องไม่สร้างประเด็น ให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในทางโลกและทางธรรม จึงได้แจ้งในที่ประชุมสงฆ์ที่ผ่านมาว่า หากพุทธะอิสระจักกลับมาห่มผ้าเหลืองใหม่อีกครั้งครานี้นั้น กฎหมายในอาณาจักรก็ต้องถือปฎิบัติ พระธรรมวินัยก็ต้องรักษา เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า โลกก็ไม่ให้ซ้ำ ธรรมก็ต้องไม่เสีย
ยิ่งมาได้เห็นน้ำจิต น้ำใจของกัลยาณมิตรอย่าง ลุงเปลว ที่สู้อุตส่าห์เขียนบทความมาชี้แนะมาด้วยความห่วงใย พุทธะอิสระยิ่งต้องมิอาจทำให้ความปรารถนาดีของท่านทั้งหลายต้องพลันมลาย เพราะความเห็นแก่ตัว เพื่อให้ทุกคนสบายใจอย่างที่ ลุงเปลว ว่า พุทธะอิสระจักกลับไปขอบรรพชา อุปสมบทใหม่อีกครั้ง แต่ก็ต่อเมื่อคดีกบฏจบลงแล้ว หวังว่าทุกท่านที่ห่วงใย คงสบายใจขึ้นบ้าง
พุทธะอิสระ ยังกล่าวถึง ความปรารถนาของแม่ที่นอนป่วยติดเตียงและอยากเห็นตนกลับไปห่มผ้ากาสาวพัสตร์ว่า คงต้องพยายามประคับประคอง ยืดอายุขัยของท่าน มิให้แม่ต้องเป็นอะไรไปเสียก่อนที่คดีกบฏจะยุติลง เพื่อเราจักได้กลับไปห่มผ้าเหลืองให้ท่านได้เห็นก่อนตาย
“ส่วนเรื่องความรู้สึก ความปรารถนาดีของญาติโยม คงจักพอเข้าใจได้ พวกเขาเฝ้ารอให้เรากลับไปห่มผ้าเหลืองมาเป็นปี หากจักขอให้รอไปอีกซักปี ครึ่งปี พวกเขาคงจักรอได้ ขอบคุณทุกท่านที่หวังดี”
https://www.facebook.com/buddha.isara/posts/10157590722128446
ข่าวที่เกี่ยวข้อง