ระทึก! หนุ่มบุรีรัมย์ซิ่งรถยนต์พุ่งชน จยย. จอดติดไฟแดง 4 คันรวด ดับ 1 เจ็บ 6 ราย

เปิดภาพนาทีระทึก! หนุ่มบุรีรัมย์ซิ่งรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์ที่จอดติดไฟแดง 4 คันรวด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 6 คน เบื้องต้นได้แจ้ง 2 ข้อหาหนัก ขณะที่คนขับอ้างว่า โรคประจำตัวกำเริบทำให้บังคับรถไม่อยู่

จากกรณีที่เกิดเหตุรถยนต์สีดำ ขับมาด้วยความเร็วจากทางอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 1 มุ่งหน้าจะเข้าตัวเมืองบุรีรัมย์  เมื่อถึงบริเวณสามแยกหน้าศาลากลางจังหวัดหลังเดิม รถยนต์คันดังกล่าวได้พุ่งชน รถจักรยานยนต์ที่จอดติดไฟแดง 4 คันรวด  โดยมีจักรยานยนต์ถูกลากติดไปใต้ท้องรถด้วย 1 คัน จนเกิดไฟลุกไหม้ด้านหน้ารถยนต์ และรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายทั้ง 2 คัน ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดเมื่อคืนวานนี้(16 ส.ค. 62) เวลาประมาณ 21.30 น. ที่ผ่านมา

ซึ่งจากอุบัติเหตุดังกล่าวทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตทั้งหมด 7 คน ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชาย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 คน นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวน 5 คน

วันที่ 17 ส.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการเผยภาพวงจรปิดขณะเกิดอุบัติเหตุ    ซึ่งในภาพจะเห็นได้ว่ามีรถจักรยานยนต์จอดรอสัญญาณไฟที่บริเวณสามแยกหน้าศาลาหลังเดิมอยู่หลายคัน   ก่อนที่รถยนต์คันดังกล่าว ซึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วกวาดเอารถจักรยานยนต์ที่จอดติดไฟแดงอยู่กระจัดกระจายเต็มถนน และได้ลากรถจักรยานยนต์ 1 คัน ซึ่งติดไปใต้ท้องรถ จนเกิดไฟลุกไหม้ด้านหน้ารถยนต์ จากภาพจะเห็นรถจักรยานยนต์ และผู้บาดเจ็บกระจายเต็มถนนในจำนวนนี้มีชายคนหนึ่งนอนแน่นิ่งไม่สามารถขยับตัวได้     ก่อนที่จะมีผู้ที่ขับรถสัญจรผ่านไปมาเข้าไปดู  และรีบโทรแจ้งตำรวจ และหน่วยกู้ภัย ให้เข้ามาช่วยเหลือทันที

ร.ต.อ.สุมนัส นัดที  พนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์  เผยว่า จากการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในร่างกายของ นายสมศักดิ์  อายุ 53 ปี คนขับรถยนต์  ซึ่งปัจจุบันเป็นครูอยู่ในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง พบเพียง 39 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์  ซึ่งยังไม่เกินที่กฎหมายกำหนด

ขณะที่นายสมศักดิ์ ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ตนเองมีโรคประจำตัวที่จะต้องกินยาเป็นประจำ   ในวันเกิดเหตุไม่ได้กินยาอาการจึงกำเริบทำให้บังคับรถไม่อยู่  จนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ก็ต้องรอใบรับรองจากแพทย์ว่านายสมศักดิ์  มีอาการป่วยจริงหรือไม่  ซึ่งเบื้องต้นได้แจ้ง 2 ข้อหา คือ “ขับรถด้วยความประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส”  และ “ขับรถด้วยความประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย”   ส่วนกรณีที่มีผู้เสียชีวิตภายหลังในเหตุการณ์ดังกล่าว   จะสอบสวนผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เพิ่มก่อนจะแจ้งข้อหาอีกเพิ่มเติมต่อไป