วันที่ 23 มี.ค. เวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้รับแจ้งว่าเกิดไฟป่าขึ้นในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ใกล้กับน้ำตกมณฑาธาร
ขณะที่เข้าตรวจที่เกิดเหตุพบตัวนายโจ๊ะกี โซ๊ะ สัญชาติเมียนมา เลขที่บัตรไม่มีสัญญาติไทย อยู่ที่ หมู่ 4 ต.เริงราง อ.เสาไห้ จ.สระบุรี จึงได้ควบคุมตัวไว้ ก่อนที่ นายโจ๊ะกี จะรับสารภาพว่า เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่และเข้าไปในอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ เพื่อจะไปพักที่วัดแต่หาวัดไม่เจอ จึงแอบเข้าไปในป่าเพื่อนอนพัก
ระหว่างนั้นได้จุดเทียนและธูปไว้เพื่อไล่ยุงเป็นการป้องกันสัตว์ แล้วเผลอหลับไป จนเป็นเหตุให้ไฟที่จุดเกิดเพลิงไหม้ป่าในบริเวณดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังเข้าดับไฟป่ากินพื้นที่ประมาณ 4 ไร่ จนเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ได้เกิดไฟป่าลุกลามขึ้นอีกครั้งในจุดเดิมและขยายวงกว้าง จึงได้มีการจัดส่งกำลังเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าภูพิงค์ เข้าพื้นที่อีกครั้ง ครั้งนี้ไฟป่าลุกลามไปยังจุดที่เป็นเขาลาดชันสูง จึงทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมง จึงจะสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ในเวลา 19.00 น.
ไฟป่าเผาผลาญพื้นที่ป่าไปประมาณ 15 ไร่ อย่างไรก็ตามได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนเฝ้าระวังสถานการณ์ เพื่อป้องกันเชื้อไฟที่อาจจะประทุขึ้นมาได้อีก
ส่วนนายโจ๊ะกี ถูกนำตัวไปแจ้งความดำเนินคดี ที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ในข้อหา เผาป่าหรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยได้รับอนุญาต หรือครอบครองป่าที่ได้ถูกแผ้วถาง ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลนั้นเป็นผู้แผ้วถางป่านั้น ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ เผาป่าหรือกระทำการอันใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่ป่าสงวนแห่งชาติ และ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ เผาป่าหรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่จากเดิม ห้ามมิให้บุคคลกระทำการด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายหรือทำให้เสื่อมสภาพแก่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทิ้งสิ่งที่เป็นเชื้อเพลิงซึ่งอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้