รถบัสคณะกฐินตัดหน้ารถไฟ เสียชีวิต 20 คน บาดเจ็บกว่า 30 คน

เบื้องต้นทราบว่าคณะกฐินโดยสารประมาณ 60 คน โดยนั่งรถบัสทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา ออกมาจากสำโรง จ.สมุทรปราการ กำลังเดินทางไปทอดกฐินวัดบางปลานัก

ส่วนขบวนรถที่เกิดเหตุ เป็นรถสินค้า ข.852 D.5102 (ท่าเรือแหลมฉบัง-ไอซีดีลาดกระบัง)

บริเวณจุดตัดทางรถไฟที่เกิดเหตุมีสัญญาณเตือน แต่ไม่มีเครื่องกั้น ทำให้รถบัสขับเข้าไปขวางทางขณะรถไฟแล่นมา คาดว่าคนขับไม่ชำนาญเส้นทาง โดยทางเจ้าหน้าที่ยังคงอยู่ระหว่างการสืบสวนเบื้องต้นเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ด้าน นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเข้าตรวจสอบและอำนวยความสะดวกในพื้นที่และสั่งการให้ดำเนินการเข้าช่วยเหลือนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล

ขณะที่ นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) ตั้งข้อสังเกตจาอุบัติเหตุดังกล่าวเบื้องต้นว่า

1. รถบัสบรรทุกผู้โดยสาร 60 คน และน่าจะเป็นรถบัส 2 ชั้น แต่อย่างไรก็ถือว่าบรรทุกเกินจากที่กฎหมายกำหนด และอาจจะส่งผลต่อ การคาดเข็มขัดนิรภัยของผู้โดยสาร

2. ช่วงเกิดเหตุเป็นเวลาตอนเช้า คาดว่าน่าจะเดินทางออกจากสมุทรปราการตั้งแต่ ตี 3-4 แต่ถ้าเหมาบัส มาจากต่างจังหวัดตามทะเบียนรถเท่ากับว่าคนขับ ต้องขับรถมาตั้งแต่หัวค่ำ เพื่อมารับผู้โดยสาร ทั้งนี้ คนขับอาจไม่ได้พัก เพราะเพิ่งเสร็จงานคณะอื่น เนื่องจากช่วงนี้เป็นเดือนกฐิน

3. บริเวณจุดตัดทางรถไฟ อาจจะมีปัญหาเรื่อง “ระยะมองเห็น” หรือมีการเปิดเพลงดังบนรถ ทำให้ไม่ได้ยินเสียงสัญญาณเตือน ซึ่งต้องรอการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากจากอุบัติเหตุ

พร้อมสั่งการให้ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ เร่งประสานกับสาธารณสุขจังหวัด บูรณาการร่วมให้การช่วยเหลือเร่งด่วน นำผู้ได้รับบาดเจ็บกระจายส่งโรงพยาบาลในพื้นที่ใกล้เคียงเข้ารับการรักษาให้เร็วที่สุด พร้อมทั้งช่วยอำนวยความสะดวกทางธุรการกับญาติผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

ทั้งนี้ ยังได้กำชับฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจในทุกจังหวัด ขอให้เพิ่มการดูแลเฝ้าระวังและอำนวยความสะดวกการจราจรในเส้นทางต่างๆมากขึ้น ช่วงมรสุมที่ฝนตกหนักและมวลน้ำสะสมกระจายกว้างในหลายพื้นที่จังหวัด เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการจราจรและลดการบาดเจ็บสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น