อาจเลื่อน ‘คนละครึ่งเฟส 4’ เร็วขึ้น รองนายกฯ ‘สุพัฒนพงษ์’ มองของแพงแค่ชั่วคราว

รองนายกฯ ‘สุพัฒนพงษ์’ มอง “ของแพงแค่ชั่วคราว” สัญญาณเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว ไทยจับตาอัตราเงินเฟ้อใกล้ชิด รับอาจเลื่อนมาตรการคนละครึ่ง เฟส 4 เร็วขึ้น

(สุพัฒน์พงษ์ พันธุ์มีเชาว์/แฟ้มภาพ)

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ให้สัมภาษณ์สถานการณ์สินค้าปรับราคาสูงขึ้น หรือ “ของแพง” ในขณะนี้ว่า นายกฯ พยายามจะแก้อยู่ แต่ของแพงต้องดูด้วยว่า การแพงในสินค้าใด จากปัจจัยใด แต่ส่วนอื่นๆ คิดว่า รัฐบาลเองก็มีนโยบาย และได้หารือกับทางธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่ตลอดเวลา ในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ก็ยังอยู่ในเป้าหมาย แม้กระทั่งวันนี้ตัวเลขของสภาพัฒน์ดูแล้ว พร้อมทั้งการประเมินหรือพยากรณ์ของหลายๆ สถาบัน ก็เชื่อได้ว่าอัตราเงินเฟ้อของประเทศไทย ก็คงจะอยู่ในระดับ 1-3 %

คงไปดูเฉพาะเจาะจงบางสินค้าไม่ได้ ต้องดูภาพรวมของอัตราเงินเฟ้อที่จะเป็นเป้าหมายที่เราต้องควบคุมให้ได้ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งจะต่างจากประเทศในต่างชาติ อย่างสหรัฐอเมริกาวันนี้ อัตราเงินเฟ้อขึ้นไปถึง 7 % แล้ว ตรงนี้เองเขาก็ต้องไปแก้ปัญหาของเขา แต่เราก็เตรียมรับมือ ไม่ได้ประมาทเลย บางส่วนที่ตรึงไว้ได้ก็ตรึง บางส่วนที่เป็นไปตามกลไกตลาดเสรี ก็จำเป็นจะต้องให้เป็นไปตามกกลไกตลาดเสรี แต่ก็ต้องเพิ่มการผลิตให้มีมากขึ้น

ในกรณีที่เกิดความขาดแคลนหรือมีความต้องการมาก นี่คือวิธีการบริหารจัดการในการดูแลอัตราเงินเฟ้อ จึงไม่อยากให้ประชาชนไปเฝ้ามองเพียงแค่ราคาสินค้าใด ตัวใดตัวหนึ่ง แต่อยากให้ดูในภาพรวมว่า อัตราเงินเฟ้อก็ยังอยู่ในเป้าหมายอยู่ดีไม่เกินอยู่ในช่วง 1-3 % ตอนนี้ก็มองกันอยู่ที่ 1 กว่าๆ ไม่เกิน 2

ผู้สื่อข่าวถามว่า มาตรการคนละครึ่งปีนี้จะดำเนินการต่อหรือไม่ นายสุพัฒน์พงษ์ กล่าวว่า มีกำหนดจะหารือกับกระทรวงการคลังในการดูสถานการณ์ทั้งในประเทศและสถานการณ์โลกด้วยว่าจะมีผลกระทบอย่างไร

“ต้องถือว่าอัตราเงินเฟ้อหรือราคาของแพงที่เกิดขึ้นเนี่ย มันเกิดขึ้นจาก จะบอกว่าเป็นข่าวดีก็ไม่เชิง แต่มันแสดงถึง ความมั่นอกมั่นใจของประชากรโลกในการที่บริโภคมากขึ้น หรือแสดงถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก เพราะมันมีการอุปโภคบริโภคสูงขึ้นจริงจนทำให้เกิดความต้องการสูงขึ้น ในขณะที่ช่วงโควิดที่ผ่านมา การผลิตมีการชะลอลง เพราะว่าเนื่องจากการลงทุน การแพร่ระบาดการล็อกดาวน์ต่างๆ ก็จะไม่อำนวยความสะดวกหรือ ผู้ประกอบการก็ยังไม่กล้าที่จะไปขยายกำลังการผลิตใดๆ และบางส่วนของสินค้าก็ยังมีการชะงักงันอยู่จากการแพร่ระบาดของโอไมครอนที่เกิดขึ้น มันก็ด้วยหลายๆ ปัจจัย ทั้งปัจจัยของความต้องการที่มีมากขึ้น และปัจจัยซัพพลาย (Supplier) ที่ยังผลิตเพิ่มขึ้นได้อย่างไม่เต็มที่ เราก็ยังมองว่าเป็นเหตุการณ์ชั่วคราว เพราะเชื่อได้ว่าการผลิต น่าจะมีมากขึ้น หากสถานการณ์ควบคุมได้ดีของการแพร่ระบาด หรือผู้ประกอบการ ของประเทศที่เขามีการเปิดประเทศอย่างเต็มที่แล้ว  ก็สามารถที่จะเร่งการผลิตให้กลับสู่สภาพเดิมได้”

ส่วน “คนละครึ่ง เฟส 4” จะให้เริ่มเร็วขึ้นจากช่วงเดือนมีนาคมนี้หรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ก็เป็นไปได้หมด ต้องประเมินอีกทีหนึ่ง หรืออาจจะมีมาตรการอื่นก็ได้ กำลังดูหลายๆ มาตรการ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าอัตราเงินเฟ้อขยับใกล้กรอบ 3 % จะเรียกประชุมด่วนหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ ตอบว่า รอให้มันเกิดก่อนแล้วกัน แต่มันยังไม่เกิด เราก็ติดตามอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว รัฐบาลมีความห่วงใย ท่านนายกฯ ให้ความสำคัญเรื่องนี้อยู่แล้ว จะมีการติดตามอย่างใกล้ชิดจะประชุมกระทรวงการคลังตลอดเวลา ไม่ได้ละเลย ไม่ได้ว่าไม่มีความห่วงใย ให้ความสำคัญและห่วงใยเรื่องนี้อย่างมาก และหลายเรื่องรัฐบาลมีการทำอยู่แล้ว มีการตรึงราคาบางส่วนเพื่อที่จะไม่ให้มีผลกระทบไปวงกว้าง และเชื่อว่าถ้าสถานการณ์มันเป็นเรื่องชั่วคราว การตรึงบางส่วนก็อาจจะเป็นประโยชน์ได้ที่จะไม่ทำให้เกิดความตื่นตระหนกมากเกินไป จนผู้ประกอบการตัดสินใจไปขึ้นราคาอะไรต่างๆ ขึ้นมา