ธุรกิจ ‘สตรีทฟู้ด’ เจ้าดังอย่าง ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น ออกมายอมรับว่าสถานการณ์เศรษฐกิจไทยขณะนี้ทำให้ธุรกิจสตรีทฟู้ดต่างต้องเหนื่อยกันเป็นแถว ยิ่งถ้าดูตัวเลขการเติบโตของตลาดจะพบว่าอัตราการขยายตัวของสตรีทฟู้ดไทยตอนนี้ไม่ได้เติบโตอย่างที่คิด
[ ผู้บริโภคจ่ายต่อมื้อเท่าเดิม แต่ทานข้าวนอกบ้านน้อยลง ]
‘อนุชิต สรรพอาษา’ กรรมการผู้จัดการบริษัท ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เล่าให้ฟังว่า ภาพรวมร้านอาหารสตรีทฟู้ดหรือร้านอาหารทั่วไปยังไม่ได้เติบโตดีขนาดนั้น ไม่ได้เห็นตัวเลขการเติบโตสองหลักด้วยซ้ำ เพราะเศรษฐกิจไทยยังไม่ได้ดีเท่าที่ควร คนที่มีเงินเดือนต่ำกว่า 30,000 บาท มีเงินเก็บสำรองแทบจะเป็น 0 บาท
การรัดกุมค่าใช้จ่ายก็มีให้เห็นชัดขึ้น จากเดิมคนกินอาหารนอกบ้านบ่อย ตอนนี้กลับเลือกกินอาหารในบ้านมากขึ้น แต่สิ่งที่ยังเท่าเดิมคือยอดรายจ่ายต่อมื้อยังอยู่ในเกณฑ์เดิม แต่เพียงแค่ไม่กินถี่เท่าเดิม
สำหรับธุรกิจร้านอาหารที่สาขาจำนวนยังน้อย มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก แต่มองว่าในปีหน้าตลาดโดยรวมก็จะยังทรงๆ คล้ายกับปีนี้ อาจจะดีกว่านิดหน่อยเท่านั้น เพราะเศรษฐกิจก็ยังทรงๆ
[ ชายสี่กำลังให้แฟรนไชส์ทั้ง 4,500 สาขามีคุณภาพไปในทางเดียวกัน ]
‘อนุชิต สรรพอาษา’ กล่าวต่อว่า ธุรกิจแฟรนไชส์อย่าง ‘ชายสี่’ ที่ถือเป็นอีกหนึ่งสตรีทฟู้ดของคนไทยมีสาขาอยู่ราวๆ 4,500 สาขา กำลังอยู่ในช่วงปรับปรุง ยอมรับว่าโดนพูดถึงเรื่อง ‘คุณภาพ’ เยอะ ซึ่งเป็นเรื่องเซนซิทีฟ แต่ในอนาคตชายสี่จะเข้มงวดกับแฟรนไชส์แต่ละสาขามากขึ้น
“เราพยายามทำให้ต้นทุนถูกลง ทำให้คนซื้อแฟรนไชส์มีกำไรขึ้น เน้นกลับมาใช้ของกรุ๊ปที่มี ทำให้มาตรฐานชัดเจน และร้านแฟรนไชส์ทุกร้านจะต้องพร้อมขายเมนูใหม่เพราะเอาจริงๆ กระแสเมนูใหม่ดี เช่น เมนูแซ่บเล้งที่มีแค่บางสาขากระแสตอบรับดี”
[ ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น มี 11 แบรนด์ในมือ 5,000 สาขา ]
สำหรับภาพรวมธุรกิจชายสี่ คอร์ปอเรชั่นตอนนี้มีร้านอาหารอยู่ 11 แบรนด์ แบ่งเป็นแบรนด์ธุรกิจแฟรนไชส์หลักๆ 7 แบรนด์ อาทิ ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว, ชายสี่พลัส, ชายใหญ่ข้าวมันไก่, พันปีบะหมี่เป็ดย่าง, อาลีหมี่ฮาลาล, ไก่หมุนคุณพัน และ ลูกชิ้นทอดโอ้มายก๊อด
ส่วนอีก 3 แบรนด์ ชายสี่ฯ เป็นหุ้นส่วนใหญ่ในนั้น ก็คือ BRIX Dessert Bar, หมูสองชั้น หมูกระทะ และก๋วยเตี๋ยวเรือ เสือร้องไห้ ซึ่งหากรวมสาขาทั้งหมดนี้ก็ประมาณกว่า 5,000 สาขาในปัจจุบัน
นอกเหนือจากธุรกิจหลักที่เล่ามา ชายสี่ฯ ยังมีแผนมุ่งพัฒนา ‘อาหารพร้อมทาน’ โดยจะให้ธุรกิจเทรดดิ้งนำอาหารพร้อมทานไปขายผ่านร้าน ‘ซีเจ ซูเปอร์มาร์เก็ต’ เพื่อให้คนเข้าถึงได้มากขึ้น
ส่วนหนึ่งของการพัฒนาแผนธุรกิจเพื่อรักษาตำแหน่ง Top 3 อาหารสตรีทฟู้ด และสร้าง brand loyalty ในกลุ่มผู้บริโภค
อย่างไรก็ตาม มีคาดการณ์ว่าภาพรวมของปีนี้ทั้งเครือจะโตไม่ถึง 10% แล้วในปีหน้าเตรียมจะทุ่มงบประมาณ 300 ล้านบาท มุ่งขยายสาขาร้านอาหารในเครือหรือเข้าลงทุนในเครือร้านอาหารใหม่ๆ เพื่อการเติบโตธุรกิจในอนาคต