จับตา ครม.เคาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 3.16 แสนล้าน ชงประกันปาล์ม 4 บาท/กก.

กนป.เห็นชอบมาตรการประกันรายได้เกษตรกร 4 บาท/กก. เตรียมเสนอ ครม.เห็นชอบวันนี้ ช่วยผู้ปลูกปาล์ม 3 แสนครัวเรือน พร้อมจับตาการประชุม ครม.วันนี้ เตรียมอนุมัติงบฯ กว่า 3 แสนล้านบาท ใน 3 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มั่นใจว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่จะนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (20ส.ค.62) จะช่วยกระตุ้น จีดีพี ขยายตัวเกินร้อยละ 3  โดยมาตรการแจกเงินท่องเที่ยว คนละ 1,000 บาท ให้กับประชาชนที่ลงทะเบียน 10 ล้านคนแรก จะเริ่มดำเนินการในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนกันยายน เพื่อจัดระบบการจ่ายเงิน และประชาสัมพันธ์โครงการให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจะไม่ซ้ำรอยมาตรการช็อปตรุษจีน ที่มีผู้เข้าร่วมโครงการน้อย

เช่นเดียวกับมาตรการแจกเงินลดค่าครองชีพผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 500 บาท จะดำเนินการทันทีภายในเดือนนี้ รวมทั้งเร่งหารือกับกระทรวงมหาดไทย เพื่อกระตุ้นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เบิกจ่ายเงินลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจ

ขณะที่นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า มาตรการแจกเงินผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกร รัฐบาลควรดำเนินการในระยะเวลาไม่นานเกินไป   และควรให้ความสำคัญกับมาตรการสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจระยะกลาง และระยะยาวด้วย

นายสุพันธุ์ กล่าวอีกว่า เอกชนต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรม ซึ่งปัจจุบันเอกชนลงขันตั้งกองทุนวงเงิน 1 พันล้านบาทแล้ว แต่ขอให้รัฐ ลดหย่อนภาษี 3 เท่าของเงินลงทุนในกองทุนดังกล่าว เพื่อช่วยลดต้นทุนของผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี และสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจไทย

ด้านนายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เผยว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ขยายตัวเพียงร้อยละ 2.3 เติบโตต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี แต่เลขาธิการ สศช. บอกว่า  เศรษฐกิจไทยยังไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย โดยหากการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ เห็นชอบดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น วงเงินไม่น้อยกว่า 3 แสน 1 หมื่นล้านบาท น่าจะส่งผลต่ออัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.54-0.56 และ จีดีพี ทั้งปี ขยายตัวร้อยละ 3.4-3.5 แต่หากรัฐบาล ไม่ออกมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจใดๆ จีดีพี ปีนี้ อาจขยายตัวต่ำสุดที่ร้อยละ 2.7

ขณะที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มแห่งชาติ วานนี้ (19 ส.ค.) ว่า มีมติเห็นชอบการประกันรายได้ชาวสวนปาล์มกำหนดราคาปาล์ม 4 บาทต่อกิโลกรัม โดยมีเปอร์เซ็นต์นำมัน 18% ไม่เกิน ครอบครัวละ 25 ไร่ โดยจ่ายปีละ 4 ครั้ง นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังมีมาตรการดึงราคาปาล์มให้สูงขึ้น โดยให้ใช้เป็นน้ำมัน B20 ให้เป็นภาคบังคับก่อนสิ้นปีนี้ และยังให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตนำไปใช้ผลิตไฟฟ้า ที่ยังเหลือโควตาอีก 130,000 ตัน ตามที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไว้ให้แล้ว รวมไปถึงควบคุมสต็อกน้ำมันดิบ

โดยเรื่องการประกันราคาปาล์ม สามารถนำเข้าที่ประชุมครม.ได้ในวันนี้ (20 ส.ค.) ทันที และหากไม่ทันน่าจะนำเข้าที่ประชุมภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว

ส่วนเรื่องงบประมาณได้ให้สำนักงบประมาณไปคำนวณแล้ว ยอมรับว่า ยังไม่ได้มีการคำนวณงบประมาณหรือวงเงิน ทั้งนี้ คาดว่า จะมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการกว่า 300,000 ครัวเรือน โดยเกษตรกรจะต้องลงทะเบียนผ่านกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งต้องยึดถือทะเบียนเกษตรกรเป็นหลัก หลังจากนั้น ธกส.จะจ่ายเงินส่วนต่างของรัฐบาลผ่านทางบัญชี โดยขณะนี้ราคาปาล์มน้ำมันอยู่ที่กิโลกรัมละ 2 บาทกว่า พร้อมกับยืนยันว่าหากใช้มาตรการดังกล่าวราคาปาล์มน้ำมันจะสูงขึ้น

นายอธิราช ดำดี ผู้ทรงคุณวุฒิ กนป.ระบุว่า แม้เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มจะพอใจที่รัฐรับประกันรายได้แต่เป็นมาตรการระยะสั้นโดยขอให้รัฐหาวิธีดูแลเกษตรกรอย่างยั่งยืน เพื่อดูแลราคาปาล์มให้มีเสถียรภาพและไม่เป็นภาระของรัฐเพราะขณะนี้ราคาปาล์มสดยังอยู่ต่ำกว่าต้นทุน ที่ 3.10 บาท โดยอยู่ที่กิโลกรัมละ 2.70 – 3 บาท ส่วนน้ำมันปาล์มดิบอยู่ที่กิโลกรัมละ 15.75 บาท สำหรับการประกันรายได้ในครั้งนี้ คคาดว่าจะใช้งบประมาณกว่า 15,000 ล้านบาทครอบคลุมทั้งพื้นที่มีเอกสารสิทธิและไม่มีเอกสารสิทธิ จำนวน 300,000 ครัวเรือน ทั้งนี้จะต้องขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• ครม.เศรษฐกิจ เคาะงบฯ 3.16 แสนล้าน มาตรการเข็นเศรษฐกิจ หวังจีดีพีไม่ต่ำกว่า 3%