ถอดรหัสความสำเร็จคาเฟ่ อเมซอน กับการปลดล็อก 3,700 สาขาทั่วโลก ในเวลาเพียง 19 ปี

เชื่อว่าคอกาแฟสดคงไม่มีใครไม่รู้จัก “คาเฟ่ อเมซอน” (Café Amazon) คาเฟ่แบรนด์ไทยราคาจับต้องได้ ที่มีอยู่ในแทบทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นในชุมชน สถานีบริการน้ำมัน อาคารออฟฟิศกลางเมืองหรือกระทั่งห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมแล้วกว่า 3,500 สาขาทั่วประเทศ อีกทั้งยังขยับขยายไปตั้งสาขาในต่างประเทศได้อีกกว่า 200 สาขา เช่น สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น โอมาน สิงคโปร์ จีน และประเทศล่าสุดอย่างเวียดนาม เป็นต้น เรียกได้ว่าเติบโตอย่างมั่นคงมาตลอดเวลา 19 ปี และกลายเป็นผู้นำ (Brand Leadership) ในธุรกิจกาแฟไทยไปแล้ว

อะไรที่ทำให้คาเฟ่ อเมซอนมาได้ไกลขนาดนี้? แม้จะอยู่ท่ามกลางยุคสมัยที่มีคาเฟ่เกิดใหม่มากมายและมีแบรนด์กาแฟต่างสัญชาติเข้ามาแบ่งส่วนแบ่งตลาดกาแฟไทยกันอยู่ไม่ขาดสาย เราลองมาถอดรหัสความสำเร็จนี้ไปพร้อม ๆ กัน

กาแฟต้องเป็นมากกว่าเครื่องดื่ม

ถอดรหัสคาเฟ่ อเมซอน 3,700 สาขาทั่วโลก ลำดับแรก คงต้องยกให้แนวคิด ‘Beyond Coffee’ ที่ต้องการสร้างประสบการณ์เหนือระดับให้กับผู้บริโภคด้วยคุณภาพสินค้าและบริการ ทำกาแฟให้เป็นมากกว่าแค่เครื่องดื่ม และทำให้คาเฟ่ อเมซอนเป็นมากกว่าร้านกาแฟทั่วไป

(ภาพประกอบ : Concept Bar ที่ร้าน Café Amazon Concept Store กม.56)

คาเฟ่ อเมซอนให้ความสำคัญกับคุณภาพของกาแฟตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ อย่างการคัดสรรเมล็ดพันธุ์กาแฟคุณภาพดี ด้วยการเข้าไปสนับสนุนและให้ความรู้เกษตรกรผู้ปลูกเมล็ดกาแฟภาคเหนือและรับซื้อเมล็ดกาแฟคุณภาพดีในราคาที่เป็นธรรม การคัดเมล็ดกาแฟแบบเมล็ดต่อเมล็ดและทำความสะอาดถึง 5 ขั้นตอน ก่อนนำไปคั่วในระบบปิดที่ผ่านการรับรองระบบมาตรฐาน GMP / HACCP / FSSC22000 ทำให้ได้เมล็ดกาแฟคุณภาพดี ไม่มีการปนเปื้อน รวมทั้งมีการชิม วิเคราะห์ และตรวจสอบรสชาติให้เป็นไปตามมาตรฐานคาเฟ่ อเมซอน ก่อนบรรจุถุงส่งต่อไปยังบาริสต้าที่ได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดี ให้รังสรรค์เมนูรสชาติดี ถูกปากลูกค้า

การันตีด้วยรางวัล BRAND OF THE YEAR 2020 – 2021 สาขา RETAILER-COFFEE-THAILAND NATIONAL AWARD โดยสถาบัน WORLD BRANDING AWARDS ประเทศอังกฤษ เมื่อ 11 มี.ค. 64 ที่ผ่านมานี้

นอกจากนั้น การบริการก็เป็นสิ่งที่คาเฟ่ อเมซอนทำได้ดีเกินราคาที่จ่าย เพราะจะเห็นได้ว่าที่นี่ไม่ใช่แค่ร้านกาแฟที่เปิดให้ผู้ชื่นชอบกาแฟสดคุณภาพดี ราคาเข้าถึงได้ แวะเวียนกันมาใช้บริการเท่านั้น แต่ยังเป็นเสมือนจุดนัดพบให้คนหลายช่วงวัยมารวมตัวกันใช้ชีวิตได้ตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง โดยแบรนด์จะมีการ Re-Training พนักงานตามระยะเวลาที่กำหนด และตรวจมาตรฐานของสาขาต่าง ๆ ทุกเดือน จึงทำให้ลูกค้ามั่นใจว่าจะได้รับการบริการที่มีคุณภาพและสม่ำเสมอกันในทุกสาขา

รวมถึงยังมีการปรับตัวให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา เพื่อเพิ่มช่องทางการบริการให้ตอบโจทย์โลกยุคใหม่ด้วย เช่น รองรับการจ่ายผ่าน QR CODE Payment ระบบสะสมแต้ม Blue card และล่าสุดกับ Café Amazon App ที่ให้ลูกค้าสามารถสั่งเครื่องดื่มและจ่ายล่วงหน้าได้ผ่านแอป พร้อมเลือกเวลารับที่ร้านได้โดยไม่ต้องรอ ช่วยเลี่ยงสัมผัส ลดการแออัดภายในร้าน นอกเหนือจากนี้ในสถานการณ์ โควิด-19ทางคาเฟ่ อเมซอนได้ทำการปรับกลยุทธสินค้าที่ไม่ได้มีแค่การให้บริการเครื่องดื่มภายในร้านหรือ take away เท่านั้น แต่ยังได้มีการเพิ่มสินค้า Home Use ที่สามารถซื้อกลับไปชงดื่มเองได้ง่าย ๆ ที่บ้านไม่ว่าจะเป็น Café Amazon Drip Coffee ที่ออกมาหลากหลายสูตรจนนับว่าเป็นเจ้าตลาดของกาแฟดริปเลยก็ว่าได้ หรือจะเป็นน้องใหม่อย่าง Café Amazon Cold Brew กาแฟสกัดเย็นที่ได้เปิดตัวขายออกมาเมื่อกลางปี 2564 นี้

คาเฟ่เพื่อทุกชีวิตที่ดีขึ้น

อีกเรื่องที่ถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ไม่แพ้คุณภาพกาแฟและบริการของพนักงานเลยคือ การสร้างความสมดุลระหว่างธุรกิจ สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ที่บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ผู้เป็นเจ้าของแบรนด์คาเฟ่ อเมซอน พยายามพัฒนาให้ทุกอย่างสามารถเดินไปพร้อมกันได้ ทำให้ลูกค้ารู้สึกดีทุกครั้งที่ได้อุดหนุนแบรนด์ ซึ่งที่ผ่านมาได้จับมือหน่วยงานพันธมิตรทั้งรัฐและเอกชนทำโครงการเพื่อสังคมเยอะมาก

เช่น ร้าน Café Amazon For Chance 12 สาขา ที่สร้างโอกาสให้ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุมีงานทำ มีรายได้เลี้ยงชีพ และ ยังคงมองหาการให้โอกาสกับกลุ่มผู้ด้อยโอกาสอยู่เรื่อยๆเช่นกัน

โครงการวิจัยและพัฒนาการปลูกและการผลิตกาแฟระบบอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน สนับสนุนการวิจัยสายพันธุ์กาแฟอะราบิกา ควบคู่การพัฒนาการปลูกกาแฟระบบอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ทำให้เกษตรกรชาวเขาและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ มีทักษะอาชีพ และมีช่องทางการจำหน่ายเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพในราคาเป็นธรรม ทำให้มีรายได้เลี้ยงดูครอบครัวได้โดยไม่ต้องเกี่ยวข้องสิ่งผิดกฎหมาย สร้างต้นแบบชุมชนเข้มแข็ง ที่มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

ไปจนถึงการสนับสนุน โครงการไทยเด็ด โดยคัดเลือกขนมและเบเกอรีจากชุมชน เข้ามาขายภายในร้าน เพื่อเปิดโอกาสให้วิสาหกิจชุมชนนำขนม ที่ผ่านการคัดเลือกมาวางเพิ่มช่องทางจำหน่ายในร้านได้นอกจากจะเอื้อประโยชน์ให้กับชาวบ้านผู้ผลิตแล้วยังเป็นการตอบโจทย์ความหลากหลายภายในร้านให้กับผู้บริโภคที่สามารถมีตัวเลือกในการซื้อขนมทานคู่กับเครื่องดื่มภายในร้าน หรือจะซื้อกลับไปกินที่บ้านก็ได้อีกด้วย

เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

แน่นอนว่าการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไม่ได้จบอยู่แค่กระบวนการผลิตกาแฟจากต้นน้ำถึงปลายน้ำเท่านั้น เพราะคาเฟ่ อเมซอนยังต่อยอดความ Go Green นี้กับทุกองค์ประกอบของร้าน โดยนอกเหนือจากการตกแต่งร้านเป็นพื้นที่สีเขียวแล้ว สินค้าและของตกแต่งคาเฟ่ยังถูกคิดมาให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

เช่น แก้วพลาสติก PET ที่นำไป Upcycling เป็นชุดพนักงาน ผ้ากันเปื้อน ชุดโซฟาในร้านได้ แก้วร้อน Bio-cup ย่อยสลายเองได้ 100% ช่วยลดขยะพลาสติกได้กว่า 146 ตันต่อปี

โต๊ะที่ผลิตจากเยื่อกาแฟ ฝ้าเพดานทำจากถาดพลาสติก และ Eco board ตกแต่งร้านที่ทำมาจากถุงใส่กาแฟกว่า 2 ตัน ทำให้ลูกค้าได้ทั้งความอิ่มท้องจากกาแฟและความอิ่มใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในของรักษ์โลก

สรุปง่าย ๆ ได้ว่าลักษณะการทำธุรกิจของคาเฟ่ อเมซอนนั้นค่อนข้างที่จะแตกต่าง เพราะเป็นโมเดลสร้างความยั่งยืนที่เชื่อว่าหากสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม มีการเติบโตอย่างยั่งยืน ก็จะทำให้ธุรกิจเติบโตไปอย่างยั่งยืนด้วยเช่นกัน เนื่องจากทั้งหมดล้วนเป็นส่วนหนึ่งของสายโซ่ซับพลายเชนที่จะทำให้เกิด High Quality Coffee Chain Brand

จากการที่ได้มองหลากหลายมุม ทั้งสินค้า บริการ และแนวคิดการเติบโตไปพร้อมสังคมและสิ่งแวดล้อม WorkpointTODAY มองว่าทั้งหมดนี้คือจุดแข็งที่ทำให้วันนี้คาเฟ่ อเมซอนประสบความสำเร็จ สามารถปลดล็อคไปได้มากกว่า 3,700 สาขาทั่วไทยและต่างประเทศ และคิดว่าคงจะเติบโตได้มากกว่านี้อีก เพราะเห็นถึงความตั้งใจที่ทาง OR ยังคงมุ่งมั่นดำเนินงานด้วยวิสัยทัศน์และกลยุทธ์เฉกเช่นเดิม โดยวางเป้าหมายสำหรับปี 2565 ซึ่งเป็นปีที่ 20 ของแบรนด์ ด้วยการก้าวสู่การปลดล็อค 4,000 สาขา และจะมาพร้อมกับโปรเจกต์ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย แต่จะเป็นอะไรบ้างนั้นเหล่าคอกาแฟต้องรอติดตามกันต่อไป

แต่ถ้าอยากรู้ว่า Café Amazon ใส่ใจเพื่อให้ได้มาซึ่งมาตรฐานคุณภาพสินค้าและการบริการแค่ไหน ไปชมคลิปได้ที่นี่

Quality of cup https://youtu.be/5xtNUk84eMA
Quality of coffee bean https://youtu.be/h4sSmdULphg
Quality of snacks https://youtu.be/zXtDoxdg3p4
Quality of service https://youtu.be/ow3NlVe9TTg
Quality of life https://youtu.be/u32zfZBfUNg