‘คุยไปก่อน’ ความสัมพันธ์ที่ไม่รีบร้อน ของ กัปตัน ชลธร กับมุมมองความรักที่โตขึ้น

กัปตัน ชลธร นักแสดงหนุ่มดาวรุ่งจากนาดาวบางกอก กัปตันเริ่มเข้าสู่วงการบันเทิง เมื่อปี 2014 จากการรับบทเป็นนักแสดงนำในซีรีส์  เลิฟซิคเดอะซีรีส์ รักวุ่น วัยรุ่นแสบ ในวัย ปี 16 ปี ซึ่งถือเป็นผลงานการแจ้งเกิดของเขาอีกด้วย

6 ปี ในวงการบันเทิง ที่ไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเอง เขาได้ลองทำสิ่งใหม่ๆ โดยเฉพาะงานด้านศิลปะ ที่เขาชื่นชอบและมองว่าศิลปะเป็นสุนทรียภาพในการสร้างแรงบันดาลใจ เพราะนอกจากงานด้านการแสดงแล้ว เขายังมีความสนใจด้านการถ่ายเป็นอย่างมาก รวมถึงศิลปะด้านการร้องเพลง ที่ล่าสุดได้ปล่อยเพลง คุยไปก่อน กับทางนาดาวมิสิค เพลงที่บ่งบอกถึงความเป็น กัปตัน ชลธร

“ในทุกวันมนุษย์เรามีการเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว วันหนึ่งเราอาจจะบังเอิญไปเจออะไร เช่น วันนี้อยู่ดีๆ อยากร้องเพลง วันนี้อยากแสดง วันหนึ่งเดินไปแกลอรี่ แรงบันดาลใจเราอีกอย่าง เหมือนอย่างที่บอก อารมณ์ของคนมันเปลี่ยนทุกๆ วัน ตลอดเวลาอยู่แล้ว เราไม่สามารถบอกได้หรอกว่าเราชอบอะไรมากจริงๆ เรามีแต่เราถนัดอะไรมากกว่า อย่างผมเป็นคนที่ไม่ค่อยถนัดอะไรจริงจังผมก็เลือกไปเลย ผมไปทุกสายเลย”

คุยไปก่อน เพลงสไตล์ยุค 90s  ที่เล่าถึงความสัมพันธ์ที่ไม่รีบร้อน ซึ่งเนื้อหาเพลงนี้เอง ถูกออกแบบมาจากเรื่องราวในชีวิตจริงของ กัปตัน  กับมุมมองความรักที่เขามองว่าเติบโตขึ้น

ที่มาของการมีซิงเกิลเป็นของตัวเองอย่างจริงจังเกิดขึ้นได้อย่างไร

“นาดาวมิวสิค เป็นค่ายที่ทำเพลงให้เป็นตัวศิลปินคนนั้นมากที่สุด เขาถามว่า เราอยากทำเพลงอะไร เราชอบเพลงประมาณไหน  มีในหัวไหมว่าเราอยากจะทำอะไรอย่างนี้ ของผมก็รู้สึกว่า ยังไม่เคยร้องเพลงอะไรที่มันย้อนยุค เพลง 90s  ซึ่งส่วนตัวก็เป็นคนชอบเพลงอะไรเก่าๆ อยู่แล้ว เพราะรู้สึกว่า มันมีสเน่ห์ในการที่เป็นเพลงง่ายๆ ไม่ค่อยมีอะไรให้คิดมาก เป็นเพลงฟังเพลินๆ ได้ ผมรู้สึกว่าชอบอะไรแบบนี้ ก็เลยอยากลองทำเพลง 90s เพลงที่มีคอรัสเยอะๆ เพลงที่ไม่ต้องมีคำยากๆ มีคำแบบตรงไปตรงมาอย่างนี้ ฟังง่ายๆ”

ในเนื้อเพลงมีคำบางคำที่เรารู้สึกไม่คุ้นหูเลย

“จริงๆ มันเป็นคำที่ง่ายมากๆ ในการใช้ชีวิต แต่ทำไมไม่มีคนเอาไปใช้ในการทำเพลงเลย ในการที่จะบอกเล่าเรื่องว่า  เธออาจจะยุ่งเรื่องงาน เธออาจขับรถอยู่ เธอคงยุ่งๆเลยไม่ค่อยได้ว่างดูข้อความ  มันเป็นคำพูดหมดเลย มันเป็นภาษาคำพูดที่เอาไปใส่ไว้ในเพลง มันก็เลยเกิดเป็นความแปลกที่ไม่คุ้นหูขึ้นมา แต่ก็พยายามร้องแหละว่า  ทำยังไงให้คำเหล่านี้มันจะออกมาในรูปแบบของเพลงให้มันดีที่สุด”

เรามีส่วนร่วมในเพลงนี้อย่างไรบ้าง

“สำหรับเพลงนี้ จริงๆ มันก็เป็นเพลงที่มาจากชีวิตผมแหละครับ มันมีพาร์ทหนึ่งในชีวิตของผม ที่คิดว่าอาจจะตรงกับใครหลายๆ คน อย่างการที่เราเริ่มต้นความสัมพันธ์กับการคุยกับคนคนหนึ่ง แล้วเราก็อยากจะศึกษาเขาไปเรื่อยๆ ลองคุยไปก่อน เผื่อวันหนึ่งเขาจะเปิดใจให้เรา มันเป็นอะไรที่ง่ายๆ มากๆ เลย เราอยากทำอะไรที่มันค่อนข้างที่จะง่าย ไม่ปรุงแต่ง ให้คนรู้สึกว่า  มันสบาย มันมีความสุข”

ท่อนที่ชอบที่สุดในเพลง  

จริงๆก็เป็นฮุคแหละครับ เป็นท่อนฮุคเลย   ทั้งเมโลดี้ ทั้งการฟังอะไรต่างๆ ผมว่าท่อนฮุคมันเป็นอะไรที่มันขับเคลื่อนอารมณ์ ถ้าเกิดคุณฟังดีๆ มันอาจจะไปทำให้คุณรู้สึกอะไรบางอย่างได้

ความสัมพันธ์ที่ไม่รีบร้อนในมุมมองของกัปตัน

ผมว่าคนเราเกิดมาในการที่จะมีความสัมพันธ์ต่อกัน มันต้องใช้เวลา เราไม่สามารถรู้จักคนคนหนึ่งได้ภายในวันสองวัน คือรู้จักมันรู้จักได้ แต่มันไม่ได้รู้จักว่า เขาชอบอะไร เขามีความคิดยังไง ผมว่าเรื่องความคิดของการที่เราจะรู้จักคนอีกคนหนึ่ง มันค่อนข้างที่จะใช้เวลา กว่าจะทำให้เขาสบายใจในการที่จะแสดงตัวตนที่แท้จริงของเขาออกมา มันก็ต้องใช้เวลา จนกว่าเขาจะเชื่อใจในตัวเรา มันก็เลยเป็นความสัมพันธ์ที่ถ้าเกิดว่าเราใช้เวลาไปกับมัน มันจะค่อยๆ เกิดขึ้นมาเอง โดยที่เราไม่ต้องไปบังคับให้มันรู้สึก เราก็ไม่อึดอัด เขาก็ไม่อึดอัด มันทำเป็นธรรมชาติมากกว่า

คำว่าไม่รีบร้อน ต้องใช้เวลาเท่าไหร่กันนะ

ผมว่าไม่มีกำหนด แล้วแต่ว่า ใครจะแสดงตัวตนออกมาให้ผมรู้จักเร็วมากกว่า ใครที่จะเชื่อใจในตัวผมมากกว่า คนที่เขาเชื่อใจในตัวเรา เขาก็จะทำทุกอย่างให้แบบ เหมือนเรารู้จักเขา แล้วถ้าเกิดเรารู้จัก เราชอบไลฟ์สไตล์ ชอบความคิด ชอบเอกลักษณ์ของเขา มันก็คือการคลิกกันแล้ว

พอโตขึ้นมุมมองความรักของเราเปลี่ยนไปไหม 

เปลี่ยนครับ ตอนเด็กๆ เราก็มักจะมีผู้ใหญ่มาบอกแหละว่า เนี่ยความรักมันเด็กมากเลย ซึ่งเราก็เข้าใจ แต่มันก็ห้ามไม่ได้ เพราะว่าเมื่อตอนเด็กทุกคนก็มีประสบการณ์แค่นั้น มันไม่รู้หรอกว่าความรักมันคืออะไร  เรารู้สึกว่าเราเจอคนคนหนึ่ง เราตกหลุมรัก  ตกหลุมรักมันเป็นอย่างนี้ แต่เรายังไม่ได้คิดถึงอนาคตว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่พอเราโตขึ้น เราเริ่มมีประสบการณ์อะไรหลายๆอย่างมากขึ้น เราเริ่มรู้แล้วว่า อะไรคือสิ่งที่ใช่สำหรับเรา อะไรคือสิ่งที่ไม่ใช่สำหรับเรา