SHARE

คัดลอกแล้ว

ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดให้คืนรถล้างหนี้ สำหรับคนที่ผ่อนไม่ไหว ภายใต้งานมหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ออนไลน์ ระหว่างวันที่ 1 มิ.ย. – 31 ก.ค.2564 ช่วยลดภาระของลูกหนี้ซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระลอกใหม่

นางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปี 2563 ธปท. ได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบมาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยระยะที่ 3 เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ซึ่งทำให้รายได้และความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ลดลงอย่างมาก นอกจากนี้ ธปท. ได้จัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์ ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนค่อนข้างดี จึงได้ขยายขอบเขตของงานมหกรรมให้ครอบคลุมลูกหนี้ที่หนี้ถูกโอนขายไปยังบริษัทบริหารสินทรัพย์

หนี้ที่สำคัญของประชาชนรายย่อยอีกประเภทหนึ่ง คือ “หนี้เช่าซื้อรถยนต์” ทั้งในส่วนที่นำมาใช้ประกอบอาชีพหรือใช้ในการเดินทางของคนในครอบครัว ทั้งนี้ เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้สามารถประกอบอาชีพ หรือใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ธปท. กรมคุ้มครองสิทธิ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และผู้ให้บริการทางการเงิน 12 แห่ง (ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดของธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์รวมกันแล้วมากกว่า 65%) จึงร่วมกันจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ออนไลน์ขึ้น ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน ถึง 31 กรกฎาคม 2564 เพื่อเป็นช่องทางที่จะช่วยลดภาระของลูกหนี้ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด 19 ระลอกใหม่ ในการชำระหนี้ของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์

ความพิเศษของมหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ครั้งนี้ มีเป้าหมายให้ลูกหนี้เช่าซื้อรถยนต์ที่รายได้ลดลงในช่วงโควิด 19 สามารถเจรจาผ่อนชำระหนี้ได้ตามความสามารถ เพื่อให้ลูกหนี้สามารถนำรถที่ถูกยึดกลับไปใช้ในการประกอบอาชีพและนำรถไปใช้ในชีวิตประจำวันได้เช่นเดิม ซึ่งเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในสถานการณ์ช่วงนี้อีกทางหนึ่ง

เกณฑ์การช่วยเหลือครอบคลุมลูกหนี้เช่าซื้อบุคคลธรรมดาทุกกลุ่ม ได้แก่
  1. กลุ่มที่ยังไม่เป็นหนี้เสีย (NPL) หรือกลุ่มที่เป็น NPL แต่รถยังไม่ถูกยึด แนวทางช่วยเหลือได้แก่ การปรับโครงสร้างหนี้ ลดค่างวด ขยายระยะเวลาชำระหนี้
  2. กลุ่มลูกหนี้ที่รถถูกยึดแล้ว แต่ยังไม่ถูกขายทอดตลาด ลูกหนี้เช่าซื้อสามารถใช้ช่องทางของงานมหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ในครั้งนี้ เพื่อเจรจากับเจ้าหนี้เช่าซื้อที่ร่วมงานมเพื่อขอรถที่ถูกยึดไปคืน โดยเจ้าหนี้เช่าซื้อจะชะลอการขายทอดตลาด และปรับโครงสร้างหนี้ โดยงานมหกรรมในครั้งนี้จะช่วยให้ลูกหนี้เช่าซื้อมีโอกาสที่จะนำรถกลับไปประกอบอาชีพหรือใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยครั้งนี้หวังว่าลูกหนี้ที่ถูกยึดรถไป ส่วนหนึ่งจะมีโอกาสที่จะได้รับรถคืนซึ่งเป็นทางเลือกที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
  3. กลุ่มลูกหนี้ที่รถถูกขายทอดตลาดแล้ว แต่ยังมีหนี้เช่าซื้อส่วนขาด โดยมีเป้าหมายให้ลูกหนี้เช่าซื้อรถยนต์ที่รายได้ลดลง สามารถเจรจาผ่อนชำระหนี้ได้ตามความสามารถ เพื่อให้ลูกหนี้สามารถนำรถที่ถูกยึดกลับไปใช้ในการประกอบอาชีพและนำรถไปใช้ในชีวิตประจำวันได้เช่นเดิม สำหรับความช่วยเหลือจะแตกต่างกันตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้

ทั้งนี้ ธปท. ตั้งเป้าหมายว่าจะมีลูกหนี้เข้าร่วมมหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ออนไลน์ ระหว่างวันที่ 1 มิ.ย.- 31 ก.ค. 2564 ประมาณ 1 แสนบัญชี หรือคิดเป็นมูลหนี้ 3.8 หมื่นล้านบาท เฉลี่ยมูลหนี้รายละประมาณ 3.8 แสนบาท

จากปัจจุบันมีพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์อยู่ที่ 6.6 ล้านบัญชี คิดเป็นยอดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ประมาณ 2.5 ล้านล้านบาท โดยใน 1 แสนบัญชี แบ่งเป็น ลูกหนี้กลุ่มที่ 1. ยังไม่เป็นหนี้เสีย (NPL) หรือกลุ่มที่เป็นเอ็นพีแอลแต่ยังไม่ถูกยึดรถ ประมาณ 5 หมื่นบัญชี และเป็นลูกหนี้กลุ่มที่ 2. ลูกหนี้ที่รถถูกยึดแล้วแต่ยังไม่ขายทอดตลาด ประมาณ 2.5 หมื่นบัญชี และลูกหนี้กลุ่มที่ 3. ลูกหนี้ที่รถถูกขายทอดตลาดแล้ว แต่ยังมีหนี้เช่าซื้อส่วนที่ขาด อีก 2.5 หมื่นบัญชี

ผู้ประกอบธุรกิจเช่าซื้อภายใต้การกำกับของแบงก์ชาติทุกแห่ง จะต้องให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ตามมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยระยะที่ 3 หากลูกหนี้ไม่ได้รับความช่วยเหลือที่เหมาะสมหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ “ทางด่วนแก้หนี้” ของแบงก์ชาติ หรือ โทร. 1213

ทั้งนี้ ธปท. ขอให้ลูกหนี้ศึกษาวิธีการกรอกข้อมูลอย่างละเอียด และกรอกข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วน เพราะข้อมูลที่ไม่ถูกต้องจะทำให้คำขอไกล่เกลี่ยจะไม่ได้รับการพิจารณาช่วยเหลือ

สำหรับใครที่ไม่ถนัดในการกรอกข้อมูลผ่านช่องทางออนไลน์ หรือต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม สามารถติดต่อ ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) โทร. 1213 เพื่อขอคำแนะนำและความช่วยเหลือในการกรอกข้อมูล ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-16.30 น. หากนอกเวลาทำการสามารถฝากชื่อและเบอร์โทรศัพท์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือส่งอีเมลมาที่ [email protected] เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับครับ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.bot.or.th/Thai/PressandSpeeches/Press/2021/Pages/n3764.aspx

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า