วันที่ 8 ธ.ค. ในโซเชียลมีเดียมีการแชร์ไลฟ์และโพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊ก Peerapong Amornpich ของนายพีระพงค์ อมรพิชญ์ ซึ่งโพสต์ไว้เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ระบุว่าตนได้ทุบรถยนต์ของผู้ที่จอดในที่จอดรถคนพิการ ที่ห้างบิ๊กซี เชียงราย โดยยินดีจ่ายค่าเสียหาย แต่ไม่ยินยอมปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้โดยไม่ยอมทำอะไร
นายพีระพงค์ ได้โพสต์ลำดับเหตุการณ์ สรุปได้ว่าเห็นรถคู่กรณี หญิง-ชายมาจอดในที่จอดคนพิการซึ่งดูแล้ว ไม่ได้พิการหรือตั้งครรภ์ ตนมากับครอบครัวและอุ้มลูกไม่สามารถตามไปได้บอกได้ทัน จึงจำหมายเลขทะเบียนให้ประชาสัมพันธ์ประกาศตาม ระหว่างนั้นตนไปกินสุกี้รอ
หลังเวลาผ่านไปเขากลับไปถามประชาสัมพันธ์อยู่ 2 ครั้ง โดยให้ประกาศเพิ่มขู่จะทุบรถ ซึ่งภายหลังเมื่อพบว่าไม่มีการเลื่อนรถ เขาก็ลงมือทุบแม้ผู้จัดการห้างจะขอร้อง และไลฟ์ลงเฟซบุ๊ก
คู่กรณีเรียกค่าเสียหาย รวม 70,000 บาท ภายหลังเจรจาที่โรงพักเหลือ 10,000 บาท โดยเขาระบุด้วยว่า ถามคู่กรณีแล้วว่าทราบหรือไม่ว่าเป็นที่จอดรถคนพิการ คู่กรณีบอกว่าไม่รู้ แต่เขาระบุว่าไม่เชื่อ ส่วนตำรวจบอกว่าเขาทำไม่ถูกต้อง ควรใช้วิธีอื่นๆ เขาจึงถามกลับไปว่าควรทำอย่างไร ซึ่งเขาบอกว่าตำรวจไม่ได้ให้คำตอบ
เขาระบุย้ำด้วยว่า “ผมทำในส่วนของผมแล้วให้สังคมไทย ได้เริ่มที่จะหยุด “คนไม่พิการมาเบียดเบียนแย่งจอดรถในที่คนพิการ” ถ้ามีวิธีอื่นที่ผมเลี่ยงได้ได้ผมก็จะทำแต่นี่มันไม่มี ถ้าผมไม่ทำแบบนี้ เหตุการณ์ก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม คือ มีแต่คนบ่นว่าคนร่างกายดีมาจอดรถที่คนพิการ โดยที่ไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลย ผมต้องการสังคมไทยที่ดีให้ ลูกหลานผม และ ตัวผมเอง ได้อยู่อาศัย แต่ผมทำคนเดียวไม่ได้ ก็อยู่ที่คนในสังคมแล้วว่าจะเดินไปพร้อมกับผมมั้ย”
https://www.facebook.com/Amornpich/videos/10157744969454609/
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 6 ต.ค. นายพีระพงค์ เคยโพสต์ ว่าที่ลานจอดรถโลตัส แม่จัน คนที่มาจอดในช่องจอดรถพิการ มากกว่า 95% เป็นคนร่างกายสมบูรณ์ โดยเฝ้าสังเกตุการณ์ และเมื่อพบว่าเป็นคนปกติเขาได้เข้าไปพูดคุยด้วย
คันแรก มีหญิงสาวสองคนเดินขึ้นรถ เมื่อบอกว่าที่นี่เป็นที่จอดรถของคนพิการเขาถูกหญิงสาวสวนกลับมาทันทีว่าเธอใส่เหล็กที่ขาเดินไกลไม่ได้ เขาระบุว่าเขาไม่เชื่อเพราะเดินช้อปปิ้งได้
คันที่สอง สองสามีภรรยาเข้ามาจอด บอกว่าจอดแป๊ปเดียว และยอมกลับขึ้นรถไปจอดที่อื่น , คันที่สาม แม่มีลูกเล็ก เขาบอกว่าที่นี่เป็นที่จอดรถคนพิการ ควรจอดรถตรงช่องแม่และเด็กให้ตรงประเภท
หลังจากนั้นเขาพูดคุยกับอีกหลายคันรวมทั้ง Mercedes GLC ป้ายแดง ที่มีผู้หญิงขับมาจอด ตรงช่องคนพิการ และจอดคร่อม 2 เลนด้วยอีกต่างหาก เขาบอกเธอไปว่า “ครั้งต่อไปเธอยังทำแบบนี้อีก ผมไม่ปล่อยเธอไว้แน่ ไม่ว่าเธอจะใหญ่แค่ไหนก็ตาม และ มันไม่คุ้มหรอกถ้ามีคนถ่ายรูปหรือวีดีโอเธอกับรถยนต์ที่จอดแบบนี้ลง Social Media เธอตอบว่าเธอก็ไม่ได้ใหญ่มาจากไหนหรอก และ ขับรถออกไปจอดที่อื่น”
นายพีระพงค์ ระบุไว้ในโพสต์ดังกล่าวว่า ตลอดเวลาที่ทำแบบนั้น การพูดคุยกับคันขับรถทุกคันก็ผ่านไปด้วยดี ไม่มีการทะเลาะ หรือ ทะเลาะแบบรุนแรง และเขาระวังความปลอดภัยของตัวเอง และ โดยเฉพาะลูกสาว 5 เดือน ที่อุ้มอยู่ตลอดเวลาของการสนทนา เขาไม่อยากเอาตัวเอง โดยเฉพาะลูกสาวมาเสี่ยง แต่ก็ไม่อยากปล่อยให้ผ่านไปแบบนี้ โดยที่ไม่ทำอะไรเลย
“ผมรู้สึกในใจว่า สิ่งที่ผมทำมันช่างเหมือนหยดน้ำในทะเลทราย ที่หายวับทันทีที่กระทบผืนทรายอันแห้งผากหลังจากที่ผมเลิกทำ ทุกอย่างก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม ช่างไม่มีความหมายรู้สึกว่าตนเอง เหมือนคนบ้า ที่มาเสียเวลาทำอะไรก็ไม่รู้ ไม่ทำก็รู้สึกไม่ดี ทำก็เหมือนว่างเปล่า มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นมาเลย แต่ก็รู้สึกดีกว่าที่ไม่ทำอะไรเลย”
https://www.facebook.com/Amornpich/posts/10157562266019609