เปิดสุนทรพจน์ ผู้นำฮ่องกงขอโทษประชาชน

https://youtube.com/watch?v=8qnC0fLNDWA

แคร์รี หลำ ผู้นำสูงสุดของฮ่องกงออกมาขอโทษประชาชน และประกาศหยุดการนำกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนผ่านสภานิติบัญญัติฐาวร หลังเกิดเหตุประท้วงใหญ่ที่สุดในฮ่องกงตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

วันที่ 18 มิถุนายน 2562 แคร์รี หลำ แถลงข่าวขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และกล่าวว่ากฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์จะไม่ถูกพิจารณาต่อในวาระที่  2 ในระหว่างที่เธอเป็นรัฐบาลอยู่ ทั้งนี้แคร์รี หลำไม่ได้กล่าวว่าจะถอนการเสนอกฎหมายนี้แต่อย่างใด

“ระหว่างที่มีการประท้วงขนาดใหญ่ในวันอาทิตย์ของ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ประชาชนได้แสดงออกอย่างสันติและมีเหตุผล เพื่อแสดงความกังวลต่อกฎหมายการส่งตัวข้ามแดน บอกว่าพวกเขาไม่พอใจและผิดหวังกับรัฐบาล โดยเฉพาะผิดหวังกับฉัน ฉันได้ยินคุณแจ่มแจ้งชัดเจนแล้ว และได้กลับมานึกทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น ข้อกังวลที่เกิดขึ้นในหลายเดือนที่ผ่านมาเกิดมาจากความบกพร่องในการทำงานของรัฐบาลเรื่องการแก้กฎหมาย ฉันมีส่วนรับผิดชอบในเรื่องนี้เป็นการเฉพาะ เรื่องนี้กลายเป็นรอยร้าว สร้างความวิตกให้แก่สังคม ต้องขออภัยชาวฮ่องกงทุกคนจากใจ”

“หลายคนทนเงียบมาตลอด เด็กๆรุ่นใหม่รู้สึกว่าต้องออกมาแสดงความคิดเห็น ฉันเข้าใจความรู้สึกเหล่านี้ดี สำหรับเด็กรุ่นใหม่ที่ได้แสดงออกมาอย่างสันติแล้วนั้น ฉันต้องบอกว่าฉันเข้าใจดีว่าเขาคาดหวังให้ผู้นำต้องฟังเสียงที่หลากหลาย ให้ความเคารพและห่วงใยคนรุ่นหลัง”

“ฉันได้ยืนยันว่าจะยุติการนำร่างกฎหมายนี้เข้าพิจารณา และบ่ายวันนี้จะแจ้งต่อสภานิติบัญญัติทันทีว่าจะไม่นำกฎหมายนี้เข้าในวาระที่ 2  อีกต่อไปแล้ว และฉันมายืนตรงนี้เพื่อบอกทุกคนว่าฉันรับรู้ถึงความกังวลทั้งหลายแล้ว รวมถึงความกลัวที่มาจากกฎหมายนี้ทำให้เกิดขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ฉันเข้าใจว่าถ้าเรายังแก้ไขความวิตก ความหวาดหวั่น และความเห็นที่หลากหลายของประชาชนไม่ได้ เราก็จะไม่มีการพิจารณากฎหมายนี้ใหม่อีก”

นอกจากนี้หลำยังยืนยันที่จะทำหน้าที่ในฐานะรัฐบาลต่อ แม้ในการประท้วงที่ผ่านมาผู้ประท้วงหลายคนจะโจมตีและเรียกร้องให้เธอลาออก โดยเธอกล่าวว่าจะต้องทำงานสำคัญต่ออีก 3 ปีจนครบวาระ 5 ปี

“ในอีก 3 ปี จะมีความยากลำบากอยู่ ไม่ใช่ในเรื่องของขีดความสามารถ แต่ลำบากเรื่องความไว้วางใจที่คนฮ่องกงจะมีให้แก่กัน ฉันและรัฐบาลจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อสร้างความวางใจให้เกิดขึ้นมาอีกครั้งเพื่อก้าวหน้าสืบสานนโยบายสังคมและเศรษฐกิจต่าง ๆ ต่อไป”