ศบค. เผยติดเชื้อเพิ่ม 54 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 2 ราย รวมเสียชีวิตแล้ว 32 ราย ยันไม่ขยายเวลาเคอร์ฟิว คนไทยนับหมื่นรอคิวกลับประเทศ เตรียมเคาะเงินช่วยคนไทยในต่างแดน ที่่เดือดร้อนยังกลับประเทศไม่ได้ เหมือนกับเยียวยา 5,000 บาท และตัวเลขยังไม่นิ่ง
วันที่ 9 เม.ย. 2563 เมื่อเวลา 12.30 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงภายหลังการประชุมประจำวันของ ศบค. ว่า มีผู้ป่วยใหม่ 54 ราย สะสม 2,423 ราย กระจายใน 67 จังหวัด หายป่วยกลับบ้านหายป่วยกลับบ้านเพิ่ม 52 ราย รวม 940 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 2 ราย รวมเสียชีวิตแล้ว 32 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิตเป็นผู้สูงอายุทั้ง 2 ราย
- ชาย ชาวฝรั่งเศส อายุ 74 ปี ไม่มีโรคประจำตัว เริ่มป่วย 27 มี.ค. มีไข้ ไอ เหนื่อย และปวดท้อง รักษาที่ รพ.แห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี พบปอดอักเสบ ยืนยันเป็นป่วยเป็นโควิด-19 และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
- ชายไทย อายุ 82 ปี เริ่มมีอาการป่วย 25 มี.ค. มีไข้ 38.5 องศา ไอเหนื่อย รักษาใน รพ.แห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ แพทย์ใส่ท่อช่วยหายใจ แต่ผู้ป่วยอาการไม่ดีขึ้น และเสียชีวิต 8 เม.ย.
สำหรับผู้ป่วยใหม่วันนี้ 54 ราย กระจายอยู่ในพื้นที่ 67 จังหวัดแล้ว ยังพบว่าเป็นพื้นที่ กทม.มากที่สุด 21 คน รองลงมาคือปัตตานี 11 คน และชลบุรี ปทุมธานี และภูเก็ต 3 ราย ส่วนอีก 10 จังหวัดที่ยังไม่มีรายงานผู้ป่วย ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พังงา พิจิตร ระนอง สิงห์บุรี อ่างทอง กำแพงเพชร
ทั้งนี้ การพบผู้ป่วยรายแรกในจังหวัดต่าง ๆ เป็นคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และคนที่เดินทางมาจาก กทม. ทั้งจากกลุ่มสนามมวย และสถานบันเทิง พร้อมย้ำว่าหากมาจากต่างประเทศต้องกักตัวกับรัฐ เดินทางข้ามจังหวัดกักตัวที่บ้าน 14 วัน
ขณะที่ ตั้งแต่ ม.ค.- 8 เม.ย.ที่ผานมา พบว่า มีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อ 80 ราย คิดเป็นร้อยละ 3.4 ของผู้ป่วยทั้งหมด เป็นกลุ่มติดเชื้อจากโรงพยาบาล 50 ราย ติดในชุมชน 18 ราย และอยู่ระหว่างสอบสวนโรค 12 ราย
ขณะเดียวกัน วันนี้มีการประชุมคณะกรรมการบริหาร ศบค. ชุดใหญ่ โดยมีพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ โดยนายกรัฐมนตรี ได้ขอบคุณทุกภาคส่วน และบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานอย่างหนัก เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 และขอให้ประชาชนเข้าใจ ในความจำเป็นให้โรงแรมเข้ามาร่วมตั้ง State Quarantine หลังจากวานนี้ ได้ไปเยี่ยมโรงแรมภัทรา สถานที่กักตัวของคนไทยที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ
โฆษก ศบค. กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค. นายกฯ ได้กำชับใน 6 ประเด็นหลักดังนี้
1.ให้ชี้แจงกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชนเข้าใจ ก่อนที่จะมีมาตรการต่างๆ ออกมา
- การบริหารจัดการข้อมูล ให้จัดระเบียบจัดการข้อมูล รวมศูนย์ข้อมูลกลาง เพื่อตัดสินใจ วิเคราะห์นำไปสู่การตัดสินใจออกมาตรการต่าง ๆ และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจ ให้ความร่วมมือต่อไป
- การเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย ต้องมีการดูแลในพื้นที่ State Quarantine ที่รัฐจัดให้ และจัดไว้ให้แต่อยู่ส่วนภูมิภาค Local Quarantine ให้มีการเข้มงวดจริงจัง ตรวจสอบให้พร้อม รองรับการกักตัวประชาชนจากต่างประเทศ เพราะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจากปัจจัยเสี่ยงนี้
- นายกฯ ย้ำยังไม่มีการปรับเวลาเคอร์ฟิว ยังคงที่เวลา 22.00 -04.00 น. แต่ขอประชาชนขอความร่วมมือด้วย โดยจากนี้จะมีการรวมรวมอาชีพต่างๆ เพื่อขอยกเว้นในการกำหนดการเดินทาง และขออนุมัติครั้งเดียว
- หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ที่ได้มีการสั่งจากต่างประเทศ โดยการจัดหาต้องให้บุคลากรทางการแพทย์พึงพอใจ ส่วนประชาชนจะได้ 50 ล้านชิ้น จากกระทรวงมหาดไทย และ 20 ล้านชิ้น จากกระทรวงอุตสาหกรรม
- มาตรการการเยียวยาช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบต้องได้รับการดูแล ต้องให้ได้รับผลดีต่อประชาชน ถ้าตรวจสอบแล้วไม่ถูกต้อง ต้องขอเงินคืนและดำเนินการตามกฎหมาย เช่นกรณีตัวอย่าง ชิมช้อปใช้
นอกจากนี้ โฆษก ศบค. เปิดเผยอีกว่า จากรายงานกระทรวงการต่างประเทศ พบว่ามีคนไทยรอเดินทางกลับมาไทยเพิ่มเติมอีกกว่า 5,473 ราย ทั้งทางเครื่องบิน และผ่านด่านมาเลเซีย ขณะนี้ยอดแบบไม่ทางการกว่า 10,000 ราย โดยมีคนไทยลงทะเบียนรวม 14,664 ราย และเข้ามาแล้ว 12,771 ราย ซึ่งวันนี้ก็จะมาบ้างจนถึงวันที่ 18 เม.ย.นี้ ขณะที่ปัจจุบันศักยภาพรองรับคนไทยเดินทางกลับได้ประมาณ 200 รายต่อวัน
อย่างไรก็ตาม ศบค. เตรียมพิจารณางบประมาณ ช่วยเหลือคนไทยที่อาศัยในต่างประเทศ และได้รับเดือดร้อนอาจจะมีงบประมาณให้ เหมือนกับแจกคนไทย 5,000 บาท แต่ยังไม่นิ่งตัวเลข เช่น คนไทยในกัมพูชา มาเลเซีย พม่า ค่าใช้จ่ายจำนวนเท่าไหร่ พร้อมย้ำว่าขอให้อยู่กับพื้นที่นั้นกว่าที่จะเสี่ยงเดินทางกลับมา หากยังสามารถอาศัยอยู่ได้