แม้จะรับผลกระทบหนักที่สุด เพราะทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ ‘การท่องเที่ยว’ โดยตรง แต่ ‘เซ็นทารา’ ก็ดูเหมือนจะลุกขึ้นมาได้เร็วและแรง ประกาศเดินหน้าขยายพอร์ตกว่า 100 โรงแรมใน 5 ปี
อะไรทำให้ ‘เซ็นทารา’ มั่นใจ อ่านสรุปสถานการณ์ที่ผ่านมา และแนวคิดของ ‘ธีระยุทธ จิราธิวัฒน์’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซ็นทารา โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จาก TODAY Bizview
[ ย้อนดูสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย ]
หากย้อนกลับไปดูสถานการณ์ท่องเที่ยวไทยก่อนการระบาดของโควิด-19 จะเห็นว่า ไทยเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาสูงที่สุดติดระดับท็อปของโลก
โดยในปี 2019 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเกือบ 40 ล้านคน และมีรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 3.01 ล้านล้านบาท
แต่สองปีหลังจากนั้น ในปี 2021 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวเหลือเพียง 4.27 แสนคน หรือว่าลดลงเกือบ 100 เท่าจากช่วงปกติ
ธุรกิจในอุตสาหกรรม ‘ท่องเที่ยวไทย’ จึงอยู่ในสถานการณ์ดิ่งหนักอย่างต่อเนื่อง
‘เซ็นทารา’ หรือว่า บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) เองก็ได้รับผลกระทบหนักไม่แพ้กัน ดูจากงบกำไร-ขาดทุนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
ปี 2019 รายได้ 21,291 ล้านบาท กำไร 1,744 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 13,249 ล้านบาท ขาดทุน 2,775 ล้านบาท
ปี 2021 รายได้ 11,635 ล้านบาท ขาดทุน 1,733 ล้านบาท
ดูแล้วจะเห็นว่ารายได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง และกำไรเปลี่ยนเป็นขาดทุนถึง 2 ปีติด
แต่ดูเหมือน ‘เซ็นทารา’ เองจะคิดว่า จุดต่ำสุดผ่านไปแล้ว
หลังจากประกาศเดินหน้าตามไปป์ไลน์ขยายพอร์ตโรงแรมเพิ่มกว่า 100 แห่งในอีก 5 ปีข้างหน้า
[ เซ็นทาราเห็นอะไร ท่องเที่ยวไทยฟื้นแล้ว ? ]
‘ธีระยุทธ จิราธิวัฒน์’ ซีอีโอของ ‘เซ็นทารา’ เล่าว่า สองปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับธุรกิจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรมหรือธุรกิจอาหาร แล้วผลกระทบก็ยังอยู่จนถึงตอนนี้ แม้ว่าจะเริ่มดีขึ้นจากจำนวนผู้รับการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้น
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ‘เซ็นทารา’ ได้ปิดโรงแรมไปบางส่วน จนวันนี้ยังกลับมาเปิดไม่ครบ ยังมีอีก 3 โรงแรมที่ยังคงปิดให้บริการอยู่
โดยในไตรมาส 1 ของปีนี้รายได้ของเซ็นทาราดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ เป็นผลมาจาก ‘โรงแรมในต่างประเทศ’ อย่าง ‘มัลดีฟส์’ และ ‘ดูไบ’ เป็นหลัก เนื่องจากโรงแรมในไทยที่เคยทำรายได้ในสัดส่วนกว่า 70% ให้เครือยังไม่ฟื้นตัวกลับมาเต็มที่
“เราเคยเชื่อว่าในปี 2024 จะเป็นปีที่เราฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ แต่จากสถานการณ์ระหว่างรัสเซียกับยูเครนก็อาจจะทำให้การฟื้นตัวเต็มที่ขยับออกไปเป็นปี 2025 หรืออีกประมาณ 3 ปีนับจากนี้ ถ้าไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามากระทบอย่างรุนแรง”
อย่างไรก็ตาม ซีอีโอของเซ็นทารา เชื่อว่า สถานการณ์ที่ค่อยๆ คลี่คลาย รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค และการกลับมาของจีนในช่วงไตรมาส 3 หรือ 4 ของปีนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญช่วยหนุนการท่องเที่ยวไทย
โดย ‘เซ็นทารา’ ตั้งเป้ารายได้ไว้ราว 60-70% ของปี 2019 หรือประมาณ 4,800 ล้านบาท (ในส่วนของธุรกิจโรงแรม) และคาดว่าจะมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยตลอดทั้งปีราว 40-50% จากปีที่แล้วเก็บมาได้เพียง 19%
[ เดินหน้าขยายพอร์ต 100 โรงแรมใน 5 ปี ]
แม้จะคิดว่า ต้องใช้เวลาถึง 3 ปี ‘ท่องเที่ยวไทย’ ถึงจะฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ แต่ ‘ธีระยุทธ’ ก็เชื่อว่า “ธุรกิจโรงแรมยังคงมีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก” ทำให้ในช่วงที่ผ่านมามีผู้เล่นจากวงการอสังหาริมทรัพย์ วงการค้าปลีก และกองทุนต่างชาติขยับเข้ามาลงทุนเพิ่ม
ฝั่งของ ‘เซ็นทารา’ ก็เตรียมเดินหน้าขยายพอร์ตอย่างต่อเนื่อง
ใน 5 ปีต่อจากนี้ วางแผนเพิ่มโรงแรมอีก 100 แห่ง รวมกว่า 20,000 ห้อง
หรือเพิ่มเฉลี่ยปีละกว่า 20 แห่ง เน้นไปในกลุ่ม ‘รับบริหาร’ มากกว่าลงทุนเอง
จากปัจจุบันที่ ‘เซ็นทารา’ มีโรงแรมในเครือ 88 แห่ง รวมกว่า 18,000 ห้อง
ทำให้ในปี 2026 รวมแล้วเซ็นทาราจะมีโรงแรมเกือบ 200 แห่ง รวม 38,000 ห้องพักในเครือ
หรือเติบโตอีกเท่าตัวภายใน 5 ปีข้างหน้า
จุดมุ่งหมายการขยายโรงแรมจะมีทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในต่างประเทศ ‘เซ็นทารา’ จะให้ความสำคัญกับพื้นที่อาเซียน (โดยเฉพาะเวียดนาม) ตะวันออกกลาง มัลดีฟส์ และพื้นที่อื่นๆ ในเอเชีย
ส่วนโรงแรมที่ ‘เซ็นทารา’ ลงทุนเอง ปัจจุบันมีที่กำลังอยู่ระหว่างพัฒนาหรือเตรียมพัฒนาแล้วหลายแห่ง ได้แก่
– โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า ที่คืบหน้า 38% พร้อมเปิดในปี 2023
– โรงแรมในพื้นที่มัลดีฟส์ 3 แห่ง
– โรงแรมในพื้นที่เกาะลันตา จังหวัดกระบี่
– โรงแรมในพื้นที่เขาเต่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
รวมถึงยังเตรียมปรับปรุงโรงแรม ‘เซ็นทารากะรน รีสอร์ท ภูเก็ต’ พร้อมปรับปรุงและรีแบรนด์โรงแรม ‘เซ็นทารา แกรนด์ กระบี่’ ไปอยู่ใต้แบรนด์ ‘เซ็นทารา รีเซิร์ฟ’ ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในสมุย
ส่วนเรื่องเงินลงทุนของบริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) รวมทั้งฝั่งธุรกิจโรงแรมและอาหารใน 3 ปีข้างหน้า จะยังคงลงทุนต่อเนื่องปีละประมาณ 3 พันล้านบาท
ปี 2022 ลงทุน 3,400 ล้านบาท
ปี 2023 ลงทุน 3,400 ล้านบาท
ปี 2024 ลงทุน 3,600 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ซีอีโอของเซ็นทารา เผยว่า การผ่อนคลายมาตรการคัดกรองเข้าประเทศอย่าง Test and Go ได้เร็วที่สุดที่ทำได้ ย่อมจะส่งผลดีต่อการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของการท่องเที่ยวไทย รวมถึงการเดินหน้าโครงการ ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยได้อีกระลอก