SHARE

คัดลอกแล้ว

ย้อนกลับไปในปี 2562 หลายคนอาจยังจำข่าวใหญ่ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม และธุรกิจค้าปลีกอย่างข่าวการแถลงความร่วมมือครั้งประวัติศาตร์ระหว่าง ‘บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน)’ และ ‘บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)’ หรือ CPN

เพื่อพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสร่วมกันอย่างโครงการ ‘ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค’ (Dusit Central Park) บนที่ดินผืนงามขนาดกว่า 23 ไร่ ตรงมุมถนนสีลม – พระราม 4

โดยดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค เป็นมิกซ์ยูสมูลค่ารวม 46,000 ล้านบาท พื้นที่รวม 440,000 ตารางเมตร ประกอบไปด้วย 4 อาคารด้วยกัน คือ

-โรงแรม Dusit Thani Bangkok จำนวน 39 ชั้น 257 ห้อง เตรียมเปิดกลางปี 2567

-อาคารสำนักงาน Central Park Offices พื้นที่ (GBA) 130,000 ตร.ม. (CPN พัฒนาเอง 100%)

-ศูนย์การค้า Central Park พื้นที่ (GBA) 130,000 ตร.ม. (สัดส่วนการลงทุน CPN 85% ดุสิตธานี 15%)

-ที่พักอาศัย พื้นที่ขนาด 50,500 ตร.ม. แบ่งเป็น Dusit Residences และ Dusit Parkside เตรียมเริ่มทยอยส่งมอบห้องให้ลูกค้าในปลายปี 2568

หากมองเข้าไปดีๆ ในโครงการอภิมหาโปรเจ็กต์มิกซ์ยูสโครงการนี้ จะพบว่าฝั่งเซ็นทรัลพัฒนาได้ปั้นแบรนด์อสังหาริมทรัพย์น้องใหม่ที่มีชื่อว่า ‘Central Park’ ซึ่งประกอบไปด้วยศูนย์การค้าและอาคารสำนักงาน มูลค่าการลงทุนรวม 20,000 ล้านบาท

‘วัลยา จิราธิวัฒน์’ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “เซ็นทรัลพัฒนา ในฐานะผู้พัฒนาโครงการมิกซ์ยูส ‘ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค’ ร่วมกับกลุ่มดุสิตธานี เราภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้นำความเป็น The Best Expertise มาสู่ The Best Location ที่ดินผืนประวัติศาสตร์และทำเลศักยภาพใจกลางเมือง

“โครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ตั้งอยู่บนที่ดินผืนประวัติศาสตร์และทำเลศักยภาพ โดยอยู่ในใจกลางของใจกลางเมือง เป็นทำเล Super Core CBD ใจกลางกรุงเทพฯ ที่เป็นจุดตัดของย่านสำคัญในกรุงเทพฯ 4 ด้านคือ สุขุมวิท, ราชประสงค์, เจริญกรุง และเยาวราช ทำให้ที่นี่กลายเป็นทำเลการค้า, การทำธุรกิจ ที่รายล้อมไปด้วยโครงการลักชูรี่มากมาย”

โดยดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ได้ผสานความเป็นเลิศระหว่างกันคือ ‘Legacy meets Luxury’ นำความเชี่ยวชาญของทั้งสองบริษัทระดับตำนาน มาพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสระดับลักชูรี่

นอกจากนี้ยังผสาน ‘Hospitality meets Retail’ ความเป็นไทยบนเวทีโลก ทั้ง Hospitality ของกลุ่มดุสิตธานี และความเป็นเบอร์หนึ่งด้าน Retail & Developer ของเซ็นทรัลพัฒนา

“รวมถึงผสานระหว่าง ‘Vibrant Connectivity meets Green Serenity’ โดยเป็นโครงการมิกซ์ยูสแห่งเดียวที่ตั้งอยู่บนทำเลซึ่งเชื่อมต่อทุกการเดินทาง พร้อมกับความรื่นรมย์ของวิวสวนลุมพินีแบบ 100% ในทุกอาคาร

“โดยทั้ง 4 องค์ประกอบภายในโครงการมิกซ์ยูสแห่งนี้ ซึ่งมีอย่างละ 1 องค์ประกอบ มีความ Exclusive และสามารถ Fully Integrated เสริมความแข็งแกร่งซึ่งกันและกันได้อย่างลงตัว ไม่มีการแข่งขันกันเอง

“นอกจากนี้ ในการพัฒนาศูนย์การค้า ‘Central Park’ เราเชื่อว่าจะสร้างปรากฏการณ์ New Horizon ให้กับการใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ เช่นเดียวกับเมืองใหญ่อย่าง Central Park ใจกลางนิวยอร์ก หรือ Hyde Park ใจกลางลอนดอน จึงมั่นใจว่าทุกโครงการจะประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน”  วัลยากล่าว

ทั้งนี้โครงการ ‘ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค’ พัฒนาภายใต้แนวคิด ‘Here for Bangkok’ ซึ่ง CPN บอกว่าจะแตกต่างและเป็นมากกว่าโครงการมิกซ์ยูสทั่วไป ด้วยความแข็งแกร่ง 4 ประการ คือ

1.Here with Proven Expertise: ประสบการณ์รีเทลระดับโลกของกลุ่มเซ็นทรัล, เซ็นทรัลพัฒนา และกลุ่มดุสิตธานี

โดยศูนย์การค้า Central Park บนพื้นที่ (GBA – Gross Building Area) 130,000 ตร.ม. เตรียมเปิดให้บริการช่วง ไตรมาส 3/2568 เป็นการผสมผสาน Curated Experience เข้ากับ Park Life เพื่อสร้างสรรค์ The New Luxury คอนเซ็ปต์ใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน

โดยคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดร่วมกับแบรนด์ชั้นนำในไทยและแบรนด์ระดับโลก อีกทั้งจะนำ Essence ของ Heritage เดิมที่มีอัตลักษณ์ที่สวยงามมาสะท้อนใน Architecture และ Interior Design อีกด้วย

ภายในอาคารแบ่งเป็นพื้นที่ร้านอาหาร 30-35% คือ 25,000 ตารางเมตร ส่วนพื้นที่ร้านค้าอยู่ที่ประมาณ 80,000 ตารางเมตร ซึ่ง CPN บอกว่าทั้งร้านค้าและร้านอาหารจะ Curated ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าเป้าหมาย ที่ตั้งเป้าเป็นกลุ่มลักชูรี ลูกค้ามีกำลังซื้อ รวมถึงพนักงานออฟฟิศในย่านสีลม

โดยจะมีทั้งแบรนด์ที่เคยเปิดในไทยและไม่เคยเปิดในไทยมาก่อน แต่แน่นอนว่าทุกแบรนด์จะมาพร้อมคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างและเป็นรูปแบบใหม่ๆ

ขณะที่อาคารสำนักงาน Central Park Offices บนพื้นที่ (GBA – Gross Building Area) 130,000 ตร.ม. เตรียมเปิดไตรมาส 2/2568 ถือเป็นสำนักงาน Prestigious Class A ที่ดีที่สุดและสะดวกที่สุดในกรุงเทพฯ

โดยจะเป็น Global Professional Hub ของบริษัทชั้นนำระดับโลก ตอบรับเทรนด์ Social & Flexible Workplace อีกทั้งมุ่งมั่นเป็น LEED Gold และ WELL Certified คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและ Well-being

นอกจากนี้ ยังมอบ Private Terrace ที่สามารถมองเห็นวิวสวนลุมพินีและ Rooftop Bar ที่สามารถชมวิวกรุงเทพฯ ได้แบบ 360 องศา

2.Here for the Ultimate Potential เป็นโครงการมิกซ์ยูสระดับลักชูรี่หนึ่งเดียวที่มี Major Interchange Station ที่ BTS & MRT สองสายหลักตัดกัน จึงมี Accessibility เข้าสู่โครงการได้อย่างไร้รอยต่อ

อีกทั้งกลุ่มเป้าหมายมีความ Unique ทั้งด้านกำลังซื้อ High Purchasing Power และด้านไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต การปั้นแบรนด์ Central Park ในส่วน Retail ติดกับ Urban Park จึงเป็น High-end Lifestyle Hub ที่สมบูรณ์แบบแห่งแรกที่ไม่เคยมีมาก่อนของย่านสีลม

3.Here for an Unprecedented Experience ด้วยจุดเด่นที่เหนือกว่าโครงการมิกซ์ยูสอื่นคือ Hospitality meets Retail พร้อมสร้าง One-Stop Service Platform ที่จะเชื่อมบริการและ Offering ของ Retail เข้ากับทุกส่วนในโครงการ

4.Here for A Lush Quality of Life ด้วยจุดเด่นของโครงการคือ Rooftop Park ขนาด 7 ไร่ ที่เป็นจุดที่สามารถเดินเชื่อมต่อกันได้ของทั้ง 4 อาคาร

นอกจากนี้ นี่เป็นการมอบพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่และคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนเมือง ตอบโจทย์แบบ Multi-Purpose Use ด้วยพื้นที่ Amphitheatre ให้ผู้คนได้มาพบปะ เล่นดนตรี หรือโชว์การแสดงขนาดเล็ก, Jogging Track ลู่วิ่งและ Trail ในสวนใจกลางเมือง

และ Day-to-night Gather & Feast Space ตอบโจทย์ Lifestyle และ Mindset ของผู้คน เพื่อเป็นศูนย์กลางของ Mindfulness Community ของกลุ่มคนที่ใส่ใจ Well-being, มี Lifestyle แบบ Active Living และเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ

อีกทั้งเตรียมสร้างสรรค์ World-class Events อย่าง Music & Art in the Park และ World-class Celebration และงาน New Movement ที่สะท้อนความเป็น Urbanisation และตอบโจทย์ความต้องการของผู้คน

ทั้งนี้ เซ็นทรัลพัฒนาตั้งเป้าทราฟฟิกของผู้ใช้งาน Central Park อยู่ที่ราว 25 ล้านคนต่อปี เป็นนักท่องเที่ยว 10 ล้านคนต่อปี

สำหรับมิกซ์ยูสโครงการนี้เป็น 1 ใน 5 โครงการเมกะมิกซ์ยูสที่ CPN วางแผนลงทุนพัฒนาในช่วง 5 ปีนี้ โดยแต่ละโครงการจะมีมูลค่ามากกว่า 2 หมื่นล้าน พื้นที่มากกว่า 350,000 ตารางเมตรต่อโครงการ ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม

ขณะที่โครงการมิกซ์ยูสโครงการอื่นๆ ของเซ็นทรัลพัฒนา ในปีนี้ตั้งเป้าเปิด 3 แห่ง คือ ที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเปิดให้บริการเรียบร้อยแล้ว ส่วนปลายปีจะเปิดเพิ่มคือ ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และระยอง

ส่วนในปีหน้า CPN วางแผนเปิดบริการโครงการมิกซ์ยูสอีก 3 แห่ง คือที่ จ.นครสวรรค์, นครปฐม และกระบี่

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า