ภูเก็ต คนรวย ต่างชาติคึก ‘Central Phuket Floresta’ ขยายเพิ่ม โซน Luxury ดึงแบรนด์เนม มาอีกเพียบ

ภูเก็ต จังหวัดที่สร้างเม็ดเงินทางเศรษฐกิจเป็นอันดับที่ 2 รองจากกรุงเทพฯ  ในปี 2566 ภูเก็ตสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวของจังหวัดถึง 380,000 ล้านบาท และในปี 2567 ตั้งเป้ารายได้จากการท่องเที่ยวที่ 450,000 ล้านบาท โดยสิ้นปีนี้ คาดมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าภูเก็ตกว่า 12 ล้านคน คิดเป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจากกรุงเทพฯ

บ่อยครั้ง ‘ภูเก็ต’ ถูกเรียกว่าเป็นบ้านหลังที่สอง ของเศรษฐีชาวไทยและต่างชาติ หรือ Asia’s Richest Beach Residential ด้วย Infrastructure ที่พร้อมรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ทั้งแผนขยายสนามบินภูเก็ต เฟส 2 ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2572 พร้อมมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาล, โรงเรียนนานาชาติ, ท่าเรือยอร์ช, สนามกอล์ฟ และ Private Jet

รวมถึงศูนย์การค้า ที่เปรียบเสมือนเป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ซึ่งศูนย์การค้าที่ขึ้นชื่อและมีขนาดใหญ่ที่สุดในภูเก็ต นั่นก็คือ Central Phuket ซึ่งปัจจุบันแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ‘Central Phuket Festival’ และ ‘Central Phuket Floresta’ ตั้งอยู่ตรงข้ามกัน

แรกเริ่ม ‘Central Phuket’ เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2004 ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก เซ็นทรัลพัฒนาได้เห็นถึงศักยภาพของเมืองและกำลังซื้อมหาศาลในภูเก็ต จึงได้เปิดให้บริการ Central Phuket Floresta ในปี 2018 ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกันเดินเชื่อมถึงกันได้ รองรับ Luxury Lifestyle เทียบชั้นเมืองชายทะเลระดับโลกอย่าง ริเวียร่า, ซานโตรินี, ไมอามี่บีช และฮาวาย

เนื่องจากคอนเซ็ปต์ของ ‘Central Phuket Floresta’ เป็นแหล่งรวมร้านค้า ช็อปแบรนด์เนมระดับ Hi-end นอกเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล แห่งแรกในประเทศไทย เซ็นทรัลพัฒนาหมายมั่นปั้นมือเพื่อที่จะทำให้ Central Phuket กลายเป็น The World’s Luxury Magnitude ดึงดูดลูกค้าจากทั่วโลก

แม้ที่ผ่านภูเก็ตจะต้องเจอกับภาวะโรคระบาด Covid-19 ทำให้ภาคการท่องเที่ยวซบเซาไปบ้าง แต่ถึงวันนี้สถานการณ์กลับดีขึ้นอย่างมาก เศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้นอย่างก้าวกระโดดแทบแซงยุคก่อนโควิดด้วยซ้ำ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อระดับ Hi-end แทบจะไม่ได้รับผลกระทบเลย ยังคงจับจ่ายใช้สอยสูงสม่ำเสมอเรื่อยมา

ผ่านมาแล้วกว่า 5 ปี นับตั้งแต่ ‘Central Phuket Floresta’ เปิดตัว ปัจจุบันศูนย์การค้าแห่งนี้ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในการช็อปปิ้งของบรรดานักช็อปทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติจากทั่วโลกที่ต่างเดินทางมาเยือนภูเก็ต จากสถิติของเซ็นทรัลพัฒนาได้บอกว่า นักท่องเที่ยวที่มาภูเก็ต อย่างน้อยต้องมีโอกาสมาเยือนศูนย์การค้า Central Phuket Floresta สักครั้ง

ภูเก็ตดีมานด์คึก Central Phuket Floresta เตรียมขยายโซน Luxury อีก 4 เท่า

Central Phuket Floresta เป็นแหล่งรวมแบรนด์ดังระดับโลกมากมาย ปัจจุบันมีทั้ง 14 แบรนด์หรูชั้นนำ ครบที่สุดนอกกรุงเทพฯ ได้แก่ BALENCIAGA, BOTTEGA VENETA, BURBERRY, CHRISTIAN LOUBOUTIN, DIOR, GUCCI, HERMÈS, LOUIS VUITTON, OMEGA, PMT THE HOUR GLASS, SAINT LAURENT, VERSACE และ ZEGNA รวมถึง PRADA ที่เตรียมเปิดให้บริการในปีนี้

นอกจากนี้เซ็นทรัลภูเก็ต ยังรวมแบรนด์ Lifestyle ระดับโลกที่ขยายสาขาออกนอกกรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก เช่น COACH, KATE SPADE, KENZO, MICHAEL KORS, SAMSONITE, LUSH เป็นต้น

โดยหลายแบรนด์มี Exclusive Beach Collection รวมถึงไอเทมพิเศษที่มีแค่ในเมืองท่องเที่ยวชายทะเลระดับโลกเท่านั้น ซึ่งสามารถหาซื้อได้ที่ภูเก็ตด้วย จากกำลังที่เข้ามาต่อเนื่อง ทำให้แบรนด์ต่างๆ เตรียมขยายพื้นที่ร้านเกือบเท่าตัวภายในปลายปี 67 นี้ และจะมีแบรนด์ที่เตรียมจะเพิ่มขนาดร้านค้าให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม

พื้นที่ Luxury Zone ภายในศูนย์การค้า เตรียมขยายเพิ่มเติมอีก 4 เท่า จากปัจจุบัน 2,000 ตร.ม. จะขยายเป็น 8,000 ตร.ม. ในปี 2026 เพื่อรองรับการเปิดตัวของอีกหลากหลายแบรนด์ชั้นนำจะมากันอีกเพียบ ทั้งแบรนด์ที่เคยมาเปิดช็อปในไทยอยู่แล้ว และแบรนด์ที่ยังไม่เคยมาเปิดในไทยมาก่อน รายละเอียดแบรนด์ที่จะมานั้นยังไม่เปิดเผย

การขยายพื้นที่ร้านค้าแบรนด์เนม และ Luxury Zone เพิ่มเติมนี้ สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง สอดคล้องไปกับฐานข้อมูล The1 บอกว่าลูกค้าของ Central Phuket มียอดใช้จ่ายต่อคนสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลพัฒนาทั่วประเทศ โดยลูกค้า Wealth Segment ที่สาขา ภูเก็ต มีการใช้จ่ายสูงกว่าลูกค้า Wealth ของสาขาอื่นๆ ถึง 45% บ่งบอกถึงการเติบโตของตลาดสินค้า Luxury ในไทยที่ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดประมาณ 1.6 แสนล้านบาท ขยายตัวถึง 5.62% จนถึงปี 2028 คาดว่าจะแซงหน้าตลาดสิงคโปร์

ส่วนบริการอื่นๆ ที่ Central Phuket เตรียมมอบให้กับลูกค้า VVIP ก็มีทั้ง Club ที่มี Luxury Services ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกระดับ Tycoon & Millionaire กว่า 2,300 คน ที่จะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย เช่น Butler แห่งแรกในไทย, บริการ Luxe Limo Service และ Excusive Dining ที่ Su Va Na Restaurant เป็นต้น

และยังมี The Ultimate Dining Experience จากร้านดังมากมายภายในศูนย์การค้า Central Phuket เช่น Su Va Na Restaurant เพลิดเพลินและดื่มด่ำไปกับอาหารเลิศรสจากเชฟชื่อดังอย่าง “Chef Atanu” ทีมเชฟที่รังสรรค์เมนูรสชาติสุดพิเศษที่ไม่เหมือนใคร Fine Dining จากวัตถุดิบที่ดีที่สุดจากทั่วโลก ท่ามกลางบรรยากาศใต้น้ำแห่งเดียวในไทยที่เพิ่งได้รางวัล ‘TOP25 Restaurants Awards Phuket 2023’ และล่าสุด ได้รับเสนอชื่อเข้าชิงเป็น Top 3 ร้านอาหารใต้น้ำที่ดีที่สุด

หรือจะเป็น ร้าน Thai Brasserie By Blue Elephant ที่ได้รับการออกแบบร่วมสมัย และมีชีวิตชีวาพร้อมกับอาหารไทยที่สร้างสรรค์ โดยเชฟชื่อดังภายใต้การดูแลของเชฟนูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้ มาสเตอร์เชฟของบลู เอเลเฟ่นท์, Starbucks Reserve ใหญ่ที่สุดในภูเก็ต รวมไปถึง %Arabica และ Haidilao สาขาแรกนอกกรุงเทพฯ

ส่วนแลนดมาร์กที่น่าสนใจอื่นๆ ใน Central Phuket คือ Aquaria Phuket อควาเรียมล้ำสมัยที่ดีที่สุดในภูเก็ตและเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รายล้อมไปด้วยสัตว์ทะเลกว่า 25,000 ตัว หลากหลายสายพันธุ์ พร้อมเป็นพื้นที่สร้างสรรค์อีเวนต์และเทศกาลระดับโลกจัดต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก เช่น เทศกาลสงกรานต์, Pride Month, Countdown และยังรวมไปถึง Art exhibition ที่รวบรวมศิลปินแถวหน้าจากทั่วโลก ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาเพิ่มสีสันทุกเดือน ให้ภูเก็ตเป็น Art Destination Landmarks

ศูนย์การค้าเซ็นทรัล สร้างเศรษฐกิจให้กับเมือง

ทิศทางธุรกิจของเซ็นทรัลสอดคล้องกับการพัฒนาเมือง และตอบรับแผนยุทธศาสตร์ภาครัฐที่ต้องการพัฒนาให้ภูเก็ตเป็น “Top Destination for Global Jetsetter” ดึงดูดกำลังซื้อสูงทั่วโลก โดย Central Phuket Floresta เป็น World-class luxury mall แห่งเดียวใจกลางภูเก็ตด้วยแบรนด์ลักซูรีระดับโลกมากมาย และเป็นพาร์ทสำคัญของการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพจาก ‘Quantity to Quality spending’ ซึ่งเป็นนโยบายที่ทั้งภาครัฐ-เอกชนจะร่วมกันทำให้ภูเก็ต ไม่มีช่วงโลว์ซีซัน เที่ยวได้-จับจ่ายได้ตลอดทั้งปี โดยปัจจุบันศูนย์การค้าเติบโตต่อเนื่อง และมีทราฟฟิกดีกว่าช่วงก่อนโควิดถึง 30%

ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยตอบโจทย์ของภาครัฐที่ต้องการส่งเสริม Sustainable Economy ให้ภูเก็ตเป็น Hub ระดับโลกในหลายด้าน Culinary, Medical & Wellness, Sport Tourism, education, Smart city, Marina และ MICE อีกด้วย

ปัจจุบันกลุ่มเซ็นทรัลมีการลงทุนในภูเก็ตมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ ประกอบด้วย ศูนย์การค้า 4 แห่ง, ห้างสรรพสินค้า 5 แห่ง , โรงแรม 7 แห่ง, คอนโดมิเนียม 3 แห่ง รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ในกลุ่มอีกมากมาย ในภาพรวม เซ็นทรัลพัฒนามีศูนย์การค้าในภาคใต้ รวมทั้งหมด 5 แห่ง คือ เซ็นทรัล ภูเก็ต, สมุย, สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช และหาดใหญ่ และเตรียมจะเปิดเซ็นทรัล กระบี่ในปี 2025 นี้