SHARE

คัดลอกแล้ว

เซ็นทรัลพัฒนา แถลงแผนธุรกิจ 5 ปีต่อจากนี้ (ปี 2566-2570) ทุ่ม 135,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละ 25,000-30,000 ล้านบาท ลุยธุรกิจรวมกว่า 200 โครงการ เตรียมเปิดโครงการใหม่ ครอบคลุมทั้งศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงานและโรงแรม ทั่วประเทศไทยและอาเซียน พร้อมมุ่งสู่ NET Zero

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ประกาศแผนธุรกิจ ปั้นโมเดลธุรกิจแห่งอนาคตเป็น ‘The Ecosystem for All’ ซึ่งยังคงเน้นไปที่ธุรกิจหลักอย่าง Retail ซึ่งมีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังลุยพัฒนา ธุรกิจที่อยู่อาศัย, อาคารสำนักงาน และโรงแรม อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้โมเดล ‘The Ecosystem for All’ ของเซ็นทรัล ที่มีธุรกิจ Retail เป็นแกนหลัก จะประกอบไปด้วย 3 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่

  1. The 360-Degree Centre of Life: เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตที่ตอบโจทย์ทุกด้าน ทั้ง Offline & Online ครบทุกไลฟ์สไตล์ ตลอด 24 ชั่วโมง ทั่วประเทศ เพิ่มยอดผู้ใช้บริการให้มากขึ้น

สำหรับงบประมาณที่วางไว้ 5 ปีต่อจากนี้อยู่ที่ 135,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละ 25,000-30,000 ล้านบาท พัฒนา 200 โครงการ ครอบคลุม 30 เมืองในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ประกอบด้วย ศูนย์การค้า 50 แห่ง, คอมมูนิตี้ มอลล์ 17 แห่ง, ที่อยู่อาศัย 90 แห่ง, โรงแรม 37 แห่ง, อาคารสำนักงาน 13 แห่ง และพื้นที่ใหม่ๆ Flex Offices อีก 4 แห่ง

อย่างในปี 2566 นี้ เซ็นทรัลจะมีโครงการมิกซ์ยูสเพิ่มขึ้น ได้แก่ เซ็นทรัล อุบลราชธานี, เซ็นทรัล อยุธยา และเซ็นทรัล ระยอง ภายใต้แผนลงทุน 5 ปี (ปี 2566-2570) 135,000 ล้านบาท ในภาพรวมจะทำให้โครงการมิกซ์ยูสเพิ่มขึ้นจาก 18 โครงการในปี 2566 เป็น 25 โครงการในปี 2570

นอกจากนี้ ยังได้วางแผนระยะยาว 5-10 ปีในการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส Mega Projects รวม 5 โครงการ ยกมาตรฐานให้กรุงเทพฯ เทียบเท่ามหานครระดับโลก อย่างนิวยอร์ก, โตเกียว หรือโซล โดยจะเปิดให้บริการโครงการแรกอย่าง Dusit Central Park ในปี 2567-2568

2. Total B2B2C Solutions: เชื่อมโยงการทำธุรกิจร่วมกับพันธมิตรคู่ค้าอย่างครบวงจร โดยจะลงทุนด้าน Digital Transformation & Technology Infrastructure ปีละ 300-500 ล้านบาท เน้นไปที่ Data-driven Omnichannel (xxxx) ที่มีประโยชน์กับลูกค้า คู่ค้า และสังคม

3. The Place Making for Sustainable Future: ส่งเสริมด้าน ‘คน’ เน้นไปที่ Local Wealth เช่น การจ้างงานในท้องถิ่น โดยใน 5 ปีข้างหน้า บริษัทฯ จะมีพนักงานกว่า 6,500 คน พร้อมผลักดันการจ้างงานใน Ecosystem อีกกว่า 100,000 ตำแหน่ง การเปิดพื้นที่ค้าขายฟรีให้เกษตรกรและ SMEs ทั่วประเทศคิดเป็นมูลค่า 300 ล้านบาทต่อปี

นอกจากนี้จะมอบพื้นที่ค้าขายฟรีให้เกษตรกร สนับสนุนกิจกรรมภาครัฐและ CSR รวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาทต่อปี รวมไปถึงการดูแล ‘สิ่งแวดล้อม’ เดินหน้าตามโรดแมป NET Zero 2050 เช่น การประหยัดพลังงาน, ติดตั้ง Solar Rooftop, ขยาย EV Charger Station ทั่วประเทศ, การเพิ่มพื้นที่สีเขียว รวมถึงการจัดการขยะและขยาย Recycle Shops ในศูนย์การค้า

ลุยเปิดโครงการ ห้าง-คอมมูนิตี้มอลล์-ที่อยู่อาศัย-ออฟฟิศ-โรงแรม

สำหรับโครงการใหม่ของเซ็นทรัลที่จะลุยเปิดต่อจากนี้ มีครบทั้งศูนย์การค้า (โครงการใหม่และรีโนเวท), คอมมูนิตี้มอลล์, ที่อยู่อาศัย, อาคารสำนักงาน และโรงแรม

เริ่มจากธุรกิจศูนย์การค้า ส่วนใหญ่พัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูส โดยไฮไลท์สำคัญ ได้แก่

  1. การเปิดตัว 4 โครงการใหม่ในปี 2566-2567:
  • เซ็นทรัล เวสต์วิลล์ เปิด Q4/2566 งบลงทุนกว่า 6,200 ล้านบาท พลิกโฉมย่านราชพฤกษ์ ตอนนี้ Occupancy ร้านค้าเกือบเต็ม 100% ตามรอยความสำเร็จ Central Eastville
  • เซ็นทรัล นครสวรรค์ เปิด Q1/2567 งบลงทุน 5,800 ล้านบาท โครงการมิกซ์ยูส เชื่อมต่อโซนภาคเหนือ
  • เซ็นทรัล นครปฐม เปิด Q2/2567 งบลงทุน 8,200 ล้านบาท โครงการมิกซ์ยูส ขยายสู่ภาคตะวันตก
  • เซ็นทรัล กระบี่ เผยโครงการใหม่ล่าสุด งบลงทุน 4,500 ล้านบาท เปิดช่วง Q4/2567 โครงการมิกซ์ยูสเมืองท่องเที่ยว ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ประกอบด้วยศูนย์การค้า ที่อยู่อาศัย และโรงแรม ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดและประเทศ

การขยายและรีโนเวทศูนย์การค้า สร้างความน่าสนใจเพื่อดึงดูดลูกค้าให้มากขึ้น ได้แก่ เซ็นทรัล พัทยา และเซ็นทรัล รามอินทรา พร้อมทั้งเดินหน้าพัฒนาขยายเฟสต่อไปของ เซ็นทรัล เวสเกต ด้วย โดยจะขยายพื้นที่ค้าขายและอาคารจอดรถเพิ่ม ตั้งใจทำให้เป็นศูนย์การค้าที่ดีที่สุดของทุกย่าน นอกจากนี้ยังปรับโฉมเซ็นทรัล อุบลราชธานี เตรียมรับโรงแรม Centara เติมเต็มมิกซ์ยูส, รวมถึงเซ็นทรัล มารีนา ปิ่นเกล้า แจ้งวัฒนะ เชียงใหม่ และขอนแก่น

2. มุ่งสู่การเป็น Experiential Place Making ระดับโลก ชูโครงการใหญ่อย่าง centralwOrld ให้เป็นGlobal Landmark ดึงดูดแบรนด์ระดับโลกมาเปิดตัวเป็นที่แรก ยกตัวอย่างเช่น ร้านเบอร์เกอร์ระดับโลก Shake Shack เตรียมเปิดปลายเดือนมีนาคมนี้เป็นสาขาแรกในไทย และ Tesla EV Charger เป็นต้น รวมถึง เซ็นทรัล ภูเก็ต ซึ่งเป็น Luxury mall แห่งเดียวของไทยที่ตั้งอยู่ในเมืองท่องเที่ยว เตรียมต้อนรับแบรนด์ลักชูรี่ระดับโลก

3. เดินหน้า 5 Mega Mixed-use Projects ให้เทียบเท่า centralwOrld อย่างโครงการใหญ่ที่จะได้เห็นต่อจากนี้คือ Dusit Central Park ภายใต้การร่วมทุนกับกลุ่มดุสิตธานี งบลงทุนรวม 46,000 ล้านบาท โดยมีครบทั้งศูนย์การค้า, อาคารสำนักงาน, Ultra-Luxury Branded Residence, และโรงแรมระดับ Global Legendary Iconic แห่งเดียวของไทย

ต่อมาคือธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์ เตรียมเปิดตัวโครงการใหญ่ Marché Thonglor มูลค่าโครงการรวม 2,000 ล้านบาทซึ่งจะ Soft Launch ในวันที่ 26 มี.ค. 66 นี้ โดยจะเป็น Flagship of Community mall และ New Landmark ที่ใหญ่และครบครันที่สุดใจกลางทองหล่อ จับกลุ่มกำลังซื้อสูง, คนทำงานจาก Office ที่อยู่ภายในโครงการเดียวกัน, และ Expat ชาวต่างชาติ และเตรียมพัฒนาโครงการปัจจุบันที่นวมินทร์ ซิตี้ และปรับปรุง 4 แห่งในปีนี้

ตามมาด้วยธุรกิจที่อยู่อาศัย ชูเน้นพัฒนาโครงการบนโลเคชันที่ดีที่สุด เช่น อยู่ติดหรือใกล้ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พร้อมทั้งเริ่มขยายโปรเจ็คที่อยู่ติดโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ด้วย โดยแผนปี 2566 เตรียมเปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 9,000 ล้านบาท ได้แก่ คอนโดมิเนียม 3 โครงการ คือ ESCENT เพชรบุรี, บุรีรัมย์ และนครศรีธรรมราช ส่วนโครงการแนวราบมี 4 โครงการ ได้แก่ บ้านนิรติ นครศรีธรรมราช และแบรนด์ใหม่ บ้านนิรดา พระราม 2, อุทยาน และเอกชัย ในเขตกรุงเทพฯ คาดว่าภายในปี 2570 จะครอบคลุม 27 จังหวัด

ส่วนธุรกิจอาคารสำนักงาน เตรียมเปิดเผยโปรเจ็คใหญ่ อย่าง Central Park Offices อยู่ภายในโครงการ Dusit Central Park โดยเป็น World-Class Professional Hub แห่งใหม่รองรับบริษัทชั้นนำระดับโลก บนโลเคชั่น Super Core CBD เป็น interchange station ทั้งรถไฟฟ้า BTS และ MRT และมีพื้นที่สีเขียวทั้งจาก Rooftop Park ขนาดใหญ่ เชื่อมต่อกับสวนลุมพินี รองรับธุรกิจทุกขนาด

ปิดท้ายกันที่ธุรกิจโรงแรม อีกหนึ่งธุรกิจสำคัญของเซ็นทรัลพัฒนา เน้นพัฒนาทำเลศักยภาพและเข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศ โดยในปี 2566 นี้จะเปิดโรงแรมครบทุก 3 แบรนด์ และจะมีโรงแรมทั้งสิ้น 10 แห่ง 1,600 ห้อง สำหรับโครงการใหม่ที่เตรียมเปิดปีนี้ ได้แก่ 1) แบรนด์ Centara: เตรียมเปิด Centara Ubon’ และ ‘Centara Ayutthaya’ ตามมาด้วยแบรนด์โรงแรมใหม่อย่าง Centara One เตรียมเปิดแห่งแรกคือ Centara One Rayong และสุดท้ายคือ แบรนด์ GO! Hotel เป็น Premium Budget Hotel และ Pet-Friendly เตรียมเปิดที่โรบินสันบ้านฉาง, เซ็นทรัล ศรีราชา และเซ็นทรัล ชลบุรี

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า