CEO บริษัทใหญ่กับมุมมองต่อการระบาดของโควิด-19

การระบาดของโควิด-19 และผลของมาตรการล็อคดาวน์ กำลังทำให้วิธีการดำเนินธุรกิจเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เว็บไซต์ เดอะ วอลล์สตรีท เจอร์นัล จึงได้สอบถามความเห็นสั้นๆ ของผู้บริหารของบริษัทชั้นนำหลายแห่งในสหรัฐฯ ต่อความเปลี่ยนแปลงที่พวกเขามองเห็นในช่วงนี้ และอนาคตการทำธุรกิจที่อาจเปลี่ยนแปลงไป

อีวาน สปีเกล, ซีอีโอ Snap Inc.

“เราเชื่อว่า นี่จะช่วยเร่งกระบวนการเปลี่ยนแปลงโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วม ในธุรกิจหลายกลุ่ม และระดับของการทำกิจกรรมต่างๆ ที่สูงขึ้น ที่เราได้เห็นในวันนี้ จะนำไปสู่การยกระดับที่ยั่งยืนของเศรษฐกิจดิจิทัลเมื่อเวลาผ่านไป”

เจมส์ ควินซีย์, ซีอีโอ Coca-Cola Co.

“เราอาจอยู่ที่จุดสิ้นสุดของการล็อคดาวน์ครั้งใหญ่ทั่วโลก แต่เรายังคงอยู่ห่างไกลจาก New Normal หรือ “ความปกติในรูปแบบใหม่”

“มันอาจมีเวลาไม่มากนักสำหรับการลองทุกอย่างที่เป็นสิ่งใหม่หรือสิ่งที่ต่างออกไป หากรายได้ของเรากำลังเผชิญแรงกดดดัน เราจะหันกลับไปสู่สิ่งที่เราคุ้นเคยดี There will be some favoring of tried and trusted in the short term.”

ไบรอัน นิกโคล, ซีอีโอ Chipotle Mexican Grill Inc.

“เราหมดเวลาไปกับการสร้างความมั่นใจว่าเราจะบริหารธุรกิจอย่าไรให้ปลอดภัยที่สุดในสถานการณ์เช่นนี้ หากเรามองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ ก็จะพบว่าเราสามารถก้าวผ่านการระบาดของไข้หวัดสเปนปี 1918 มาได้ และตอนนี้เราก็สามารถก้าวผ่านได้เช่นกัน เพราะมนุษย์มีความสามารถในการฟื้นตัวได้ดี”

ริชาร์ด เทมเพิลตัน, ซีอีโอ Texas Instruments Inc.

เทมเพิลตันกล่าวว่า บริษัทวางแผนที่จะรักษากำลังการผลิตชิปที่โรงงานต่างๆ ให้อยู่ในระดับคงที่ เพื่อรองรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยอาศัยจากประสบการณ์ในช่วงวิกฤตการเงินโลกปี 2008

หลังผ่านประสบการณ์ที่ไม่ดีนัก และได้เรียนรู้ที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง เราต้องใช้วลากว่า 1 ปี ในการเร่งกำลังการผลิตให้เพียงพอกับความต้องการ และสำหรับวิกฤตครั้งนี้ เราต้องสร้างความมั่นใจว่าเรามีทางเลือกในระดับสูงสุด เพื่อที่เราจะสามารถรับมือได้อย่างประสบความสำเร็จ ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรก็ตาม

รี้ด แฮสติงส์, ซีอีโอ Netflix Inc.

เมื่อเดือนมีนาคม จำนวนผู้สมัครสมาชิกเติบโตอย่างมาก ซึ่งหมายถึงการดึงลูกค้าเป้าหมายจากช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้มายังช่วงนี้เกือบทั้งหมด เราคาดว่ายอดผู้สมัครสมาชิกจะลดลงในช่วงไตรมาส 3 และ 4 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องจากสาเหตุนี้

แต่เราก็ไม่ได้ใช้คำว่า “คาดการณ์” หรือ “ผลจากการคาดการณ์” โดยไม่มีความเข้าใจ เราใช้คำนี้เพราะเราทุกคนที่นี่รู้สึกถึงกระแสที่กำลังพัดผ่าน และมันเป็นเรื่องยากที่จะพูดถึง แต่ก็นั่นแหละ บริการความบันเทิงทางอินเตอร์เน็ตจะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในอีก 5 ปีต่อจากนี้หรือไม่? คำตอบก็คือ “ไม่น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง”

แรนดัลล์ สตีเฟนสัน, ซีอีโอ AT&T Inc.

สตีเฟนสัน กล่าวว่า การระบาดอาจส่งผลต่อสิ่งต่างๆ ที่เราคุ้นเคย อีกเป็นเวลานาน เช่นการรวมตัวของผู้คน การทำงาน การเดินทาง และการมีปฏิสัมพันธ์ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เราคาดเดาอนาคตได้น้อยมาก

เรามีนักเศรษฐศาสตร์ที่อัจฉริยะและฉลาดที่สุดในโลก และคุณก็สามารถขอความช่วยเหลือจากคนเหล่านี้ได้ และความเป็นไปได้ของสิ่งที่จะเกิดขึ้นในไตรมาสที่สองของปีนี้ ก็มีขอบเขตกว้างขวางอย่างไม่น่าเชื่อ

เชลดอน อเดลสัน, ซีอีโอ Las Vegas Sands Corp.

อเดลสัน กล่าวว่า บริษัทยังคงมีแผนการลงทุนมูลค่า 2,200 ล้านดอลลาร์ ในการสร้างคาสิโนรีสอร์ตในมาเก๊า แม้รายได้จากการพนันของที่นั่นจะเริ่มลดลง

“ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะหยุดหรือชะลอการลงทุนในมาเก๊า เรามองเห็นโอกาสและการได้ครองครองทั้งความแข็งแกร่งทางการเงินและพันธะสัญญาเชิงกลยุทธ์เพื่อการลงทุน ด้วยความพยายามของเราในการเร่งการลงทุนในมาเก๊า เราจึงอาจเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนเศรษฐกิจในท้องถิ่นในระยะสั้น และสร้างความมั่นใจว่า เราอยู่ในตำแหน่งผู้นำหากการใช้จ่ายในภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัว

ริตช์ อัลลิสัน, ซีอีโอ Domino’s Pizza Inc.

อุตสาหกรรมร้านอาหารกำลังเผชิญวิกฤตของการมีชีวิตอยู่ และไม่มีใครรู้ว่าร้านอาหารที่จะรอดมีจำนวนเท่าใด หรืออุตสาหกรรมจะเปลี่ยนไปในรูปแบบใด นอกจากนั้นเรายังไม่ทราบว่าพฤติกรรมของลูกค้าและรุปแบบการซื้อสินค้าจะเปลี่ยนไปอย่างไร เขาไม่เชื่อว่าลูกค้าจะหันกลับไปยังพฤติกรรมและรูปแบบการบริโภคแบบเดิม

.ไมเคิล ซู, ซีอีโอ Kimberly-Clark Corp. 

“ผมไม่เคยคิดว่า เราจะต้องมานั่งถกเถียงกันถึงรูปแบบการดำเนินธุรกิจในช่วงการเกิดโรคระบาด ซึ่งเป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้ และเรากำลังหาข้อสรุปของข้อสมมติฐานทั้ง 11 ข้อ ที่มีความแตกต่างกัน แม้สำหรับเรามันจะเป็นเรื่องยาก แต่จากมุมมองด้านการปฏิบัติการ เรากำลังใช้รูปแบบเหล่านี้ ในการคาดการณ์ผลที่จะเกิดขึ้นสำหรับการสร้างภาพสถานการณ์จำลองในอนาคต และแผนฉุกเฉินสำหรับการดำเนินธุรกิจทั่วโลก”

โอลิวิเยร์ เลอ พอช, ซีอีโอ Schlumberger Ltd.

แม้บริษัทผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่เห็นชอบที่จะลดกำลังการผลิตน้ำมัน แต่นาย เลอ พอช เห็นว่า ไตรมาส 2 อาจเป็นไตรมาสที่มีความไม่แน่นอนและวุ่นวายมากที่สุดเท่าที่อุตสาหกรรมการผลิตน้ำมันเคยเผชิญ

“มันจะต้องอาศัยระดับของการตอบสนองและการฟื้นตัวที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ที่ผ่านมา เราดำเนินมาตรการที่ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เราสามารถควบคุมได้ ในการปกป้องธุรกิจ โดยมีเป้าหมายที่สำคัญที่สุดคือรายได้และสภาพคล่องของตลาด ในช่วงที่อุตสาหกรรมและสถานการณ์ของโลกเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน”