‘ชวน’เตรียมบรรจุระเบียบวาระ ถก พ.ร.บ.งบฯ 31 พ.ค.-2 มิ.ย.64

‘ชวน’เตรียมบรรจุระเบียบวาระถก พ.ร.บ.งบฯ 31 พ.ค.-2 มิ.ย.64 แจงหากพิจารณาล่าช้าหวั่นกระทบรัฐบาล-เศรษฐกิจ ลั่นใครเข้าสภาฯ ต้องฉีดวัคซีน-มีใบรับรองปลอดโควิด-19

วันที่ 12 พ.ค. 2564 นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการหารือกับตัวแทนรัฐบาล คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) วิปฝ่ายค้าน และวิปวุฒิสภา ในวันที่ 14 พ.ค. 2564 ว่า เป็นการหารือเพื่อหาความร่วมมือในการประชุมให้สามารถเดินหน้าไปได้ด้วยดีในขณะที่ยังมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งรัฐสภาต้องเป็นตัวอย่างในการทำงานในขณะที่มีวิกฤติ ไม่ใช่หนีปัญหา ทั้งนี้ ตนวางกรอบเบื้องต้นว่า หลังเปิดประชุมสภาสมัยสามัญในวันที่ 22 พ.ค. 2564 จะนัดประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 27 พ.ค. 2564 เพื่อพิจารณาพระราชกำหนด 2 ฉบับ นอกจากนี้ ได้รับประสานจากรัฐบาลแล้วว่า จะส่งร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 มาที่สภาฯ ในวันที่ 17 พ.ค. 2564 จากนั้นจึงจะบรรจุระเบียบวาระการพิจารณาในระแรกระหว่างวันที่ 31 พ.ค.-2 มิ.ย. 2564 เพื่อให้เวลากับ ส.ส.ได้ดูเอกสารในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณฯ ซึ่งมีอยู่จำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประธานวิปรัฐบาลระบุว่า อยากจะให้บรรจุระเบียบวาระในวันที่ 9 มิ.ย. 2564 นายชวน กล่าวว่า หากเป็นแบบนั้นจะเลยกรอบเวลาไปมาก เกรงว่าจะมีปัญหากับรัฐบาลเอง เพราะงบประมาณสำคัญมากในการสร้างความมั่นใจในการบริหารบ้านเมือง และมีผลต่อเศรษฐกิจ ดังนั้น งบประมาณควรออกไปตามปฏิทินที่สำนักงบประมาณวางเอาไว้

นายชวน ยังกล่าวถึงมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่สภาฯ ด้วยว่า นอกจากขอความร่วมมือส.ส.ฉีดวัคซีนให้ครบทุกคนแล้ว ยังประสานให้เจ้าหน้าที่ที่จะต้องทำงานในห้องประชุมได้รับวัคซีนด้วย ทั้งนี้ ตนให้นโยบายไปแล้วว่า ผู้ที่มีความประสงค์ไม่ฉีดวัคซีนนั้น จะต้องมีหนังสือรับรองมาว่าไม่มีเชื้อโควิด-19 ภายในเวลาที่กำหนดเอาไว้ในระเบียบ และในการประชุมครั้งต่อไปก็ต้องมีหนังสือรับรองอีก เพื่อเป็นมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดภายในรัฐสภา ซึ่งทุกคนจะต้องมีความรับผิดชอบ ขณะเดียวกันยังเน้นมาตรการในการคัดกรองบุคคลเข้า-ออกในอาคารรัฐสภา และย้ำเจ้าหน้าที่ด้วยว่าไม่ต้องเกรงใจ แม้จะเป็นส.ส.มาขอร้อง หากใครไม่ผ่านกระบวนการในการคัดกรองเบื้องต้น ต้องไม่อนุญาตให้เข้ามาในพื้นที่รัฐสภา เชื่อว่าจากมาตรการที่วางเอาไว้น่าจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ในระดับหนึ่ง