บิ๊กแป๊ะ ชี้แจงกมธ.กฎหมายฯชุดปิยบุตร ย้ำไม่มีทหารแทรกแซงคุมม็อบวิ่งไล่ลุง

ผบ.ตร. นำคณะเข้าชี้แจง กมธ.กฎหมายฯ ชุดที่มี ปิยบุตรเป็นประธาน ยืนยันไม่มีการแทรกแซงจากทหาร กรณีดำเนินการกับกิจกรรมวิ่งไล่ลุง ชี้ตำรวจไม่ใช่คู่ขัดแย้งใช้มาตรฐานเดียวกัน พร้อมรับข้อเสนอแนะไปพิจารณาผ่อนคลายเงื่อนไข

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พูดคุยกับ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สภาผู้แทนราษฎร ระหว่างนำคณะเข้าชี้แจงกรณีกิจกรรมวิ่งไล่ลุง หลังจากเลื่อนการเข้าชี้แจง 4 ครั้งเนื่องจากติดภารกิจ

(พล.ต.อ.จักรทิพย์ พูดคุยกับ นายปิยบุตร ระหว่างรับฟังกมธ.เสนอความเห็นการดูแลม็อบการเมือง)

บรรยากาศในห้องประชุม กรรมาธิการที่มาจากพรรคอนาคตใหม่ ได้สอบถามเกี่ยวกับการดำเนินคดีผู้จัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุง พร้อมซักถามว่ามีทหารเข้ามาแทรกแซงการทำงานของตำรวจหรือไม่

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้ตอบว่า ไม่มีการแทรกแซงจากทหาร ได้มอบนโยบายให้ตำรวจดูแลความปลอดภัยประชาชนมากที่สุด ยืนยันตำรวจไม่ใช่คู่ขัดแย้ง ยกบทเรียนม็อบแดง-เหลือง ซึ่งตนเคยผ่านมาทุกม็อบ แม้เป็นรองผบช.น. ก็เคยถูกผู้ชุมนุมของตรวจค้น ต่างเห็นได้ว่าแกนนำไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็มีโทษทางกฎหมาย ย้ำใช้มาตรฐานเดียวกัน

ขณะที่ นายปิยบุตร เสนอว่า ในกรณีกิจกรรมวิ่งไล่ลุงในกทม. ผู้จัดเห็นว่าถ้าแจ้งจะมีเงื่อนไขจากเจ้าหน้าที่ที่ไม่สามารถปฏิบัติได้ และจะมีโทษมากกว่าไม่แจ้ง จึงเลือกเสี่ยงไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ดังนั้นจะพอเป็นไปได้หรือไม่ที่ว่าจะมีการผ่อนคลายเงื่อนไขต่างๆ ให้ผู้จัดสามารถทำกิจกรรมได้บ้าง
.
ผบ.ตร. ระบุว่า ตำรวจต้องดูทุกมิติ ทั้งความปลอดภัยความสะดวก สำหรับข้อเสนอของกมธ. เรื่องเงื่อนไขอนุญาตให้จัดการชุมนุมในที่สาธารณะก็จะรับไปพิจารณา ถ้าอะไรรับได้จะมอบให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบ.ตร. และผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับไปในหลักการ ย้ำสิ่งสำคัญที่สุดของผู้ถือกฎหมายคือความปลอดภัยของประชาชน

“ยกตัวอย่างเป้าใหญ่อย่าง คุณช่อ (พรรณิการ์ วานิช ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ในฐานะกมธ.) ถ้าสมมุติถูกหนังสติ๊กไม่ต้องเป็นปืนก็เป็นเรื่องแล้ว” และว่า “ถ้าโดนหัวคุณช่อเอาผมตายอยู่แล้ว” พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวช่วงหนึ่งในระหว่างการชี้แจง

(พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบ.ตร.)

ทั้งนี้ระหว่างการชี้แจง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบ.ตร. สรุปการดำเนินคดีกับผู้จัดการชุมนุมว่า ใน 14 จังหวัด ได้มีดำเนินการคดีกับผู้จัดกิจกรรม วิ่งไล่ลุง 15 คดี เดินเชียร์ลุง 2 คดี ทุกกรณีดำเนินคดีเกี่ยวกับการปิดถนน ซึ่งเป็นดุลยพินิจของพนักงานสอบสวนแต่ละท้องที่