‘ชัชชาติ’ ลงพื้นที่สุขุมวิท 11 หลังเกิดศึกกะเทยไทย-กะเทยฟิลิปปินส์ มองเป็นเรื่องคนส่วนน้อย

‘ชัชชาติ’ ลงพื้นที่สุขุมวิท 11 หลังเกิดศึกกะเทยไทย-กะเทยฟิลิปปินส์ มองเป็นเรื่องคนส่วนน้อย ด้าน ‘ผกก.สน.ลุมพินี’ แจงปมข่าวค้าบริการ ยันตรวจสอบทุกมิติ

เมื่อช่วงเย็นวันที่ 5 มี.ค. 67 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ ถนนสุขุมวิท แยกนานา พร้อม พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผู้กำกับการ สน.ลุมพินี หลังเกิดเหตุวันกะเทยผ่านศึก ไทย-ฟิลิปปินส์ ภายในซอยสุขุมวิท 11 เมื่อคืนวันที่ 4-5 มี.ค. ที่ผ่านมา

โดยสรุป นายชัชชาติ ให้สัมภาษณ์ระบุว่า การลงพื้นที่วันนี้มาดูเรื่องที่ต่อเนื่องจากการเร่งรัดของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะจุดที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เช่น เซ็นทรัลเวิลด์ นานา และสุขุมวิท พบปัญหาเรื่องการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า เซ็กซ์ทอย แท็กซี่และไกด์เถื่อน รวมถึงคนต่างชาติที่เข้ามาประกอบอาชีพค้าขายโดยไม่ได้รับอนุญาต เช่น ขายน้ำผลไม้ ซึ่งได้รับการร้องเรียนจากประชาชน รูปแบบคล้ายกันมีนายทุนให้ชาวต่างชาติเข้ามาค้าขาย ได้ขอความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจท้องที่

ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 4 ต่อเนื่องวันที่ 5 มี.ค. นั้น นายชัชชาติ กล่าวว่า หน้าที่หลักต้องเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กทม. ประสานดูแลเรื่องความเป็นเรียบร้อย โดยเจ้าหน้าที่เทศกิจ

สำหรับ Sex Worker นายชัชชาติ กล่าวว่า กทม. ไม่ได้รับร้องเรียนเรื่องนี้

“อันนี้คงไม่ได้แจ้งมาในทราฟฟี่ฟองดูว์เรา เพราะว่าอันนี้เขาคงมองว่าเป็นคนละหน่วยงาน เราคงไม่มีอำนาจไปดูแลตรงนั้น… ผมไม่เห็นนะในทราฟฟี่ฟองดูว์ไม่ตรงนี้ มีพวกหาบเร่แผงลอยเป็นต่างชาติ อันนี้มีคนแจ้งเข้ามา เพราะว่าเหมือนกับว่าเข้ามาแล้วไม่สนใจระเบียบ” ผู้ว่าฯ กทม. ระบุ

กรณีผู้ประกอบการที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์เมื่อคืน นายชัชชาติ กล่าวว่า ก็จะเข้าไปดูอีกครั้ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ ส่วนของโรงแรมที่จัดให้มีการเข้าพักของต่างชาติ ก็คงต้องเป็นไปตามกฎหมายที่ดูแลอยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะกระทบการท่องเที่ยวหรือไม่ นายชัชชาติ มองว่า เป็นมุมจำกัดของกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง

“ฟิลิปปินส์ เป็นมิตรที่ดีกับเรานะครับ คนที่เข้ามาถูกต้องมีจำนวนมากเลย ที่เกิดเหตุเป็นส่วนน้อย กทม. เองก็มีครูภาษาอังกฤษที่เป็นชาวฟิลิปปินส์ช่วยสอนเด็กของเราเยอะแยะ ผมว่าเป็นเรื่องของคนส่วนน้อยไม่ใช่ประเทศ” ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวตอนหนึ่ง

ด้าน พ.ต.อ.ยิ่งยศ ผกก.สน.ลุมพินี กล่าวถึงคู่กรณีชาวฟิลิปปินส์ว่า จากการตรวจสอบของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง พบว่า มีการใช้วีซ่าท่องเที่ยว ส่วนเรื่องการค้าบริการมีหรือไม่นั้น ต้องมีการตรวจสอบ เพราะว่าในภาพรวมได้พูดคุยแล้ว เขาบอกว่ามาในนามนักท่องเที่ยว ทั้งนี้ตำรวจมีการเข้มงวดกวดขันมาโดยตลอด เพราะจุดนี้มีกลุ่มนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) สั่งให้ดูทุกมิติ สำหรับคดีที่เกิดขึ้นมีชาวฟิลิปปินส์ ขณะนี้ถูกจับกุม 4 คน ส่วนการแจ้งข้อหายังอยู่ระหว่างพิสูจน์ซึ่งเป็นภาพถ่ายและกล้องวงจรปิด ต้องชี้ให้ชัดก่อนระบุตัวบุคคลนำไปสู่การแจ้งข้อกล่าวหา

ผู้สื่อข่าวถามว่าในพื้นที่มีการค้าบริการหรือไม่ พ.ต.อ.ยิ่งยศ ตอบว่า ยังไม่ทราบ ยังไม่ได้รับรายงานในส่วนนี้

เมื่อถามย้ำถึงรายงานข่าวว่า มีการแย่งพื้นที่การขายบริการ ผกก.สน.ลุมพินี ตอบว่า ในส่วนนี้แม้แต่คนไทยคู่กรณี เขายังไม่พูด ทุกอย่างขอตรวจสอบก่อน และต้องดูตามพฤติการณ์ นักท่องเที่ยวที่เข้ามาที่ดีมีจำนวนมาก ต้องดูพยานหลักฐาน ถ้ามีเรื่องอื่นๆ จะไม่ปล่อยผ่าน

ภาพ ชนากานต์ เหล่าสารคาม / Thai News Pix