ค่ายรถยนต์จากประเทศจีน ‘Chery Group’ ดำเนินการโดย OMODA & JAECOO (Thailand) นำรถยนต์ 2 แบรนด์ เข้ามาขายในประเทศไทย คือ OMODA และ JAECOO ในช่วงไตรมาส 2-3 ปีนี้ ส่วนตลอดทั้งปี 2567 จะนำมาขายเพิ่มอีกรวม 4 รุ่น 

โดยรุ่นที่จะขายในประเทศไทยเร็วๆ นี้ มี 2 รุ่น ได้แก่

1. OMODA C5 EV เป็นรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบรุ่นแรกที่เตรียมนำเข้ามาจำหน่าย เป็นรถยนต์ครอสโอเวอร์ SUV พลังงานไฟฟ้า 100% เน้นกลุ่มคนรุ่นใหม่ เปิดขายช่วงกลางปี 2567 นี้ ประมาณไตรมาส 2
   

• ขับเคลื่อนระบบไฟฟ้ากำลังสูงสุด 204 แรงม้า
• แรงบิดสูงสุด 340 นิวตันเมตร
• อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในระยะเวลา 7.2 วินาที 
• ความจุพลังงานแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูง 61 กิโลวัตต์-ชั่วโมง 
• ระยะเวลาในการชาร์จกระแสตรง DC จาก 30% เป็น 80% ในเวลาเพียง 28 นาที
• ระยะทางขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า วิ่งได้ไกลสุด 505 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC (ในรถยนต์รุ่นก่อนผลิตจริง หรือ Pre-production)
• ประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าสูงสุดถึง 94%
• พลังงานสูงสุดที่ 150 กิโลวัตต์ 

2. JAECOO 7 PHEV เป็นรถยนต์ออฟโรดลักชูรี ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองหารถยนต์ SUV ระดับพรีเมียม เรียบหรู น่าเกรงขาม เปิดขายประมาณไตรมาส 3 ปีนี้

• ขับเคลื่อนระบบปลั๊กอินไฮบริด
• กำลังสูงสุด 346 แรงม้า
• แรงบิดสูงสุด 525 นิวตันเมตร
• อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในระยะเวลา 7.9 วินาที 
• ความจุพลังงานแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูง 18.3 กิโลวัตต์-ชั่วโมง 
• ระยะเวลาในการชาร์จกระแสตรง DC จาก 30% เป็น 80% ในเวลาเพียง 20 นาที
• ระยะทางขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า วิ่งได้ไกลสุด 95 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC (ในรถยนต์รุ่นก่อนผลิตจริง หรือ Pre-production)
• ระยะทางขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์และไฟฟ้า 1,280 กิโลเมตร
• อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 20.4 กิโลเมตร ต่อลิตร
• กำลังสูงสุดของมอเตอร์ไฟฟ้า 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร

และในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ จะนำรถยนต์ JAECOO 6 และ JAECOO 8 เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยเพิ่มเติม พร้อมเปิดตัวโชว์รูมขายและศูนย์บริการที่ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วไทย โดยเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาได้มีการประชุมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับผู้แทนจำหน่ายระดับประเทศแล้ว

ในสเต็ปต่อไป บริษัทยังมีความตั้งใจที่จะวางแผนการลงทุนก่อสร้างโรงงานประกอบรถยนต์ในประเทศไทย  ซึ่งน่าจะได้เห็นความคืบหน้าในปี 2568 ตั้งเป้าก้าวเป็น TOP3 แบรนด์ชั้นนำรถจีนในประเทศไทย และดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถพวงมาลัยขวาในภูมิภาคนี้อีกด้วย 

ทำความรู้จัก Chery Group ค่ายรถต้นของจีนที่ส่งออกรถเป็นอันดับ 1

บริษัท Chery Automobile ก่อตั้งขึ้นในประเทศจีนเมื่อปี 1997 เดิมผลิตเครื่องยนต์เป็นหลัก จนกระทั่ง 2 ปีต่อมา ก็ได้ผลิตรถยนต์เป็นครั้งแรก รถรุ่นแรกของ Chery Group ขายได้ราว 30,000 คัน ในประเทศจีน 

จากนั้นก็ค่อยๆ เป็นที่รู้จักและเปิดตัวต่อสายตาชาวโลกในฐานะบริษัทลูกผสมระหว่างธุรกิจของรัฐ และสตาร์ทอัพคนรุ่นใหม่ จนในปี 2001 Chery Group ได้เริ่มส่งออกรถยนต์ไปยังต่างประเทศครั้งแรก ผ่านไปได้ไม่ถึง 8 ปี Chery Group กวาดยอดขายรถยนต์ไปไปแล้ว 1,000,000 คัน 

กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์จากจีนที่มีกำลังการผลิตมากที่สุด เป็นอันดับ 7 โดย Chery Group จะแตกต่างจากบริษัทรถยนต์จีนเจ้าอื่นๆ เพราะเน้นการส่งออกเป็นหลัก ปัจจุบันได้ส่งออกรถยนต์ไปยังกว่า 80 ประเทศทั่วโลก ครองอันดับหนึ่ง จำนวนรถยนต์ที่นั่งส่วนบุคคล (passenger car) ส่งออกรายใหญ่ที่สุดของจีน เป็นเวลา 20 ปีติดต่อกัน 

และยังเป็นแบรนด์รถยนต์แรกที่มีศูนย์วิจัยและพัฒนาในต่างประเทศด้วย สามารถพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าในทุกภูมิภาค พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า และยังพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตรถยนต์ ประกอบด้วย เครื่องยนต์ที่เป็นส่วนประกอบหลักของรถ (Engines) ระบบส่งกำลัง (Transmission) และช่วงล่างแชสซี (Chassis) ทำให้ Chery Group เป็นบริษัทผลิตยานยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและเทคโนโลยีระดับโลก

ที่ผ่านมา Chery ประสบความสำเร็จในการขายรถยนต์แบรนด์ Arrizo, Tiggo และ EXEED แบรนด์ระดับไฮเอนด์ นอกจากนี้ยังมีโรงงานในต่างประเทศมากกว่า 10 แห่ง ทำการตลาดใน 15 ประเทศ มีตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการในต่างประเทศมากกว่า 1,500 แห่ง ส่วนผู้ใช้รถยนต์ของ Chery ที่จำนวนเกือบ 10 ล้านคนทั่วโลก

ช่วงหลายปีที่ผ่านมา Chery Group ตั้งเป้าหมายยอดขายรถยนต์หลักล้านคันต่อปี ยกตัวอย่างรถรุ่น OMODA ในปี2023 ที่ผ่านมาส่งออกไปได้มากถึง 147,000 คัน และปีนี้ 2024 บริษัท
มีเป้าหมายในการขายรถยนต์มากกว่า 3 ล้านคันทั่วโลก และลุยตลาดรถยนต์ในประเทศอังกฤษ และสหรัฐอเมริกาด้วย