SHARE

คัดลอกแล้ว

ความมั่นคงทางพลังงานไทยตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน มีบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด อยู่เบื้องหลัง ซึ่งเชฟรอนเป็นบริษัทเอกชนรายแรก ที่ผลิตก๊าซธรรมชาติได้จากอ่าวไทย และมีส่วนสำคัญในการบุกเบิกและพัฒนาธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศไทย
มานานกว่า 60 ปี

ฟันเฟืองสำคัญที่ขับเคลื่อนเชฟรอนสู่ความสำเร็จ ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นคนทำงานที่มี Passion มีทักษะ ความสามารถ และเข้าใจในอุตสาหกรรมพลังงาน

พนักงานเชฟรอนจะรู้ดีว่า วัฒนธรรมข้อหนึ่งที่องค์กรให้ความสำคัญมากคือ One Team หรือ การมุ่งเน้นให้พนักงานแต่ละแผนกทำงานร่วมกันเป็นทีมตั้งแต่ก้าวแรกของการทำงาน ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เชฟรอนยืนหยัดในประเทศไทยมาร่วมหลายทศวรรษ

แต่การเป็น One Team จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าองค์กรขาดการสนับสนุนให้คนจากหลากหลาย
แบกกราวด์ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในองค์กร และเกิดขึ้นไม่ได้เช่นกัน หากขาดการส่งเสริมพนักงานให้กล้าคิด กล้าลองทำสิ่งใหม่ๆ (Empowerment) เพื่อแสดงศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่ และนี่คือหนึ่งในวัฒนธรรมองค์กร ที่เชฟรอนมุ่งสร้างคุณค่าให้พนักงานและองค์กรเติบโตไปพร้อมกัน

ในวันสตรีสากล หรือ International Women’s Day ปีนี้ จึงเป็นโอกาสดีที่ TODAY ได้มีโอกาสพูดคุยกับ 5 ผู้บริหารหญิง ผู้ทำหน้าที่ผลักดัน “พลังงานภายใน” ขององค์กร และทำให้เชฟรอนสามารถเดินหน้าขับเคลื่อนความมั่นคงและยั่งยืนทางพลังงานของชาติ โดยแต่ละท่านได้ถ่ายทอดทั้งแง่มุมและกลยุทธ์การทำงานของแต่ละแผนก ซึ่งสะท้อนให้เห็นวิธีการ Empower พนักงาน ผ่านการเชื่อมั่นใน “พลังคน”

[เบื้องหลังของฝ่ายการเงิน ผู้ควบคุมความมั่นคงขององค์กร]

คุณศิริวรรณ ทางธนกุล รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายการเงิน จากเบื้องหลังของฝ่ายการเงิน สู่ผู้บริหารฝ่ายการเงินคนไทยคนแรก ที่บริษัทแม่มองเห็นศักยภาพและไว้วางใจ

“การที่ได้ก้าวขึ้นมามีประสบการณ์ในฐานะผู้บริหารฝ่ายการเงินคนไทยคนแรกของเชฟรอนในประเทศไทย ทำให้เห็นได้ชัดว่าเชฟรอนเปิดรับความหลากหลายในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านเพศหรือเชื้อชาติ โดยเปิดโอกาสให้พนักงานเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนองค์กรในตำแหน่งสำคัญ ตามความสามารถของพนักงานแต่ละคนอย่างแท้จริง”

การกล้าตัดสินใจ (Decisive) คือ ทักษะสำคัญที่ผู้บริหารฝ่ายการเงินอย่างคุณศิริวรรณมองว่าจำเป็นที่สุด จากรูปแบบงานที่จำเป็นต้องใช้ความละเอียดรอบคอบสูง เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน รวมถึงมีบทบาทช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจขององค์กร ในฐานะผู้บริหาร นอกจากการตัดสินใจอย่างแน่วแน่เเละมีคุณภาพแล้ว ยังจำเป็นต้องให้อำนาจ (Empower) เเละสนับสนุนให้พนักงานกล้าคิด กล้าตัดสินใจ และกล้าแสดงความคิดเห็น เพื่อเกิดความคิดริเริ่มเเละการเเก้ปัญหาเเบบใหม่ๆ การให้อำนาจจะมีประสิทธิภาพต้องควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้พนักงานมีความมั่นใจ ด้วยการมอบโอกาสในการทำงาน โอกาสในการหาความรู้และพัฒนาทักษะใหม่ๆ จะช่วยทำให้พนักงานเกิดการเติบโตทางความคิดและนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

แนวคิดนี้ สะท้อนผ่านกลยุทธ์การบริหารงานของคุณศิริวรรณ ที่มีการเสริมสร้างศักยภาพทักษะผ่านการ Reskill และ Upskill การเรียนรู้ด้านเทคโนโลยี เเละการสลับเปลี่ยน (Rotation)
งานข้ามแผนก สนับสนุนไม่ให้พนักงานทำงานในหน้าที่เดิมเกิน 5 ปี เนื่องจากสายการเงินจำเป็นที่จะต้องมีความรู้ครอบคลุมในหลากหลายด้าน โดยการสร้าง Growth Mindset ให้พนักงาน และสนับสนุนให้พนักงานใช้ประสบการณ์จากการทำงานหลากหลายฝ่าย เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพที่สุด

ในฐานะผู้บริหารฝ่ายการเงิน คุณศิริวรรณ มองว่า “อนาคตของนักการเงินเเละบัญชียุคใหม่ (Finance of the Future) ไม่เพียงแต่ต้องมีทักษะด้านการเงินเเละบัญชี แต่จำเป็นต้องมีความรู้ในอุตสาหกรรมขององค์กรที่ทำงานอยู่อย่างเป็นเลิศ รวมถึงมีความเข้าใจกระบวนการทำงานของทุกฝ่าย สำหรับเชฟรอนพนักงานของเราต่างมีความรู้ด้านธุรกิจพลังงานเพื่อเป็นองค์ประกอบ
ที่ใช้ในการตัดสินใจด้านการลงทุนเเละการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ สิ่งนี้จะทำให้พนักงานตระหนักว่า เราคือกำลังสำคัญขององค์กร ไม่ใช่แค่นักบัญชีตัวเล็กๆ อีกต่อไป”

[เบื้องหลังซัพพลายเชน เส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงการปฏิบัติการของเชฟรอน]

สำหรับองค์กรด้านพลังงานอย่างเชฟรอน ย่อมมีหลายส่วนงานที่ต้องอาศัยทักษะบู๊ เช่น การออกจากออฟฟิศไปลงพื้นที่ยังแท่นขุดเจาะ การขนส่งทางเรือและเฮลิคอปเตอร์ การดูแลความปลอดภัยในการทำงาน ซึ่งมองดูแล้วอาจเป็นงานอันตราย แต่ คุณทรรศนีย์ หงษ์ไกรเลิศ
รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายบริหารซัพพลายเชน กลับมองว่า หากองค์กรมีมาตรฐานความปลอดภัยที่ดี ก็ไม่สำคัญว่าจะเป็นเพศอะไร “ทุกคน” ต่างมีศักยภาพในการทำงานได้เท่าเทียมกัน

ข้อดีขององค์กรอย่างเชฟรอนในด้านการส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยในการปฏิบัติงาน คือ การสร้างสภาพแวดล้อมที่เปิดกว้าง และสนับสนุนความหลากหลาย เพื่อสร้างนวัตกรรมที่เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

“ความภาคภูมิใจส่วนตัว คือ บริษัทไว้วางใจให้เราได้มีบทบาทในการขับเคลื่อนฝ่ายซัพพลายเชน ที่ต้องอาศัยทั้งทักษะการวางแผนกลยุทธ์ และการลงพื้นที่ปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาผู้รับเหมา หาสินค้าให้ได้มาตรฐาน การจัดการโลจิสติกส์ การสำรวจพื้นดินใต้ทะเล ที่สำคัญ งานนี้ต้องมีทักษะด้าน Management สูงเพราะต้องบริหารต้นทุนในอุตสาหกรรมพลังงานที่มีความไม่แน่นอน จึงเป็นทั้งความท้าทายและความภาคภูมิใจของเราไปพร้อมกัน”

การมุ่งเน้นพัฒนาการทำงานให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด คือ ข้อดีที่ทำให้เชฟรอนเติบโตมาได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

“เราได้เห็นพัฒนาการของพนักงานที่สอนมากับมือ จากพนักงานระดับเริ่มต้นสู่ตำแหน่งที่มีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจ ตรงนี้ได้สะท้อนถึงค่านิยมหลักของเชฟรอนที่เชื่อมั่นใน ‘พลังคน’ รวมถึงการบริหารทีมท่ามกลางสถานการณ์ที่ผันผวนในอุตสาหกรรมน้ำมัน ก็สามารถสำเร็จลุล่วงมาได้ด้วยแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ร่วมกันของทีม”

คุณทรรศนีย์ มองว่า นี่คือข้อได้เปรียบของการเตรียมความพร้อม และมีแผนรับมือในทุกสถานการณ์ ซึ่งก็เป็นผลลัพธ์จากสภาพแวดล้อมที่คอยกระตุ้นให้พนักงานมีความพร้อมและความกล้าที่จะทดลองวิธีการทำงานใหม่ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนเองในฐานะผู้บริหาร และองค์กร พยายามปลูกฝังมาตลอด โดยทั้งหมดได้นำไปสู่การสร้างความมั่นคงขององค์กรในฐานะฟันเฟืองสำคัญเบื้องหลังฝ่ายซัพพลายเชน

[เบื้องหลังฝ่ายกฎหมาย ผู้เป็นกลไกสำคัญในการเจรจาที่ส่งผลถึงความมั่นคงพลังงานไทย]

คุณวาสนา ศิริวัลลภ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกฏหมาย ผู้มี passion ด้านกฎหมายอยู่ในตัว และอยู่กับเชฟรอนมานานถึง 26 ปี

คุณวาสนามองว่า ความสำเร็จในสายงานที่เชฟรอนคือการได้มีส่วนร่วมให้คำปรึกษาทางกฎหมาย ในประเด็นสำคัญที่เกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงในการสำรวจไปจนถึงผลิตพลังงาน ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญในการพัฒนาประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าปิโตรเลียมจากต่างประเทศซึ่งมีราคาสูงได้ รวมทั้งทำให้เกิดการสร้างงานให้กับคนไทยอีกด้วย

เชฟรอนเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญในการปฏิบัติงานที่เป็นไปตามกฎหมายและข้อกำหนดของประเทศไทยและสากล โดยในการตัดสินใจทุกย่างก้าว จำเป็นต้องคำนึงถึงผลประโยชน์
และผลกระทบ ทั้งต่อองค์กรและผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน การที่เชฟรอนให้ความสำคัญอย่างมากกับการปฏิบัติตามกฎหมาย ทำให้พนักงานตระหนักถึงความสำคัญของหน้าที่และความรับผิดชอบภายใต้กรอบของกฎหมาย ซึ่งส่งผลดีต่อความน่าเชื่อถือขององค์กรและสะท้อนออกมาผ่านผลลัพธ์การทำงาน

เมื่อพูดถึงการเป็นนักกฎหมายหญิงในองค์กรใหญ่ คุณวาสนามองว่าการรับฟังอย่างเปิดกว้างและการให้ความสำคัญกับความคิดเห็นที่แตกต่าง จะทำให้การตัดสินใจ มีความรอบคอบมากขึ้น เพราะได้มององค์ประกอบครบทุกด้าน นอกจากนี้ ความเชื่อมั่น (Trust) ในศักยภาพของทีมงาน ถือเป็นอีกปัจจัยที่คุณวาสนาให้ความสำคัญอย่างมากในการบริหารทีม

“การที่เราเชื่อใจทีมของเรา เชื่อว่าเขามีความสามารถ เราให้โอกาสเขาได้ทดลองและเรียนรู้ คือการ Empower ทีมที่ดีที่สุด เพราะมันจะช่วยดึงศักยภาพของพนักงานออกมา โดยเราต้องให้โอกาสและพื้นที่ในการมองหาแนวทางแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพและให้ทุกฝ่ายได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เปิดกว้างและไม่กดดัน เพื่อดึงเอาจุดแข็งและศักยภาพของพนักงานทุกคนที่มีบทบาทและกำลังสำคัญเพื่อนำไปสู่ความมั่นคงทางพลังงานของเรา”

[เบื้องหลังของกิจการองค์กร สู่การยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีแก่สังคมไทย]

คุณพรสุรีย์ กอนันทา รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกิจการองค์กร ผู้สร้างแบรนด์ให้เชฟรอนเป็นที่รู้จัก และมุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่สังคมไทย

เชฟรอนโดดเด่นในเรื่องการมีวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็ง โดยเชื่อมั่นในพลังของคนที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของการเสาะหาและผลิตพลังงาน  เราจึงมุ่งส่งเสริมการพัฒนาขีดความสามารถของพนักงานอย่างเท่าเทียม นอกจากนี้ ยังได้รักษาและส่งเสริมวัฒนธรรมในการให้พลังคนของเชฟรอนส่งต่อพลังงานที่ดีจากภายในออกไปสู่สังคมภายนอก เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่สังคมไทยมาอย่างต่อเนื่อง

โดยสิ่งที่ทำให้คุณพรสุรีย์รู้สึกประทับใจคือ การที่เชฟรอนมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพชีวิตผ่านการดำเนินโครงการเพื่อสังคมมาอย่างยาวนาน จึงทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ยั่งยืนสามารถนำไปใช้ขยายผลได้จริง เช่น โครงการ “พลังคนสร้างสรรค์โลก รวมพลังตามรอยพ่อของแผ่นดิน” โครงการระยะยาว 9 ปี ที่ดำเนินงานร่วมกับมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ จนกลายเป็นโมเดลต้นแบบ โคก หนอง นา ที่ปัจจุบันนี้เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายทั่วประเทศ หรือ โครงการ “Chevron Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต” ที่ทำต่อเนื่องปีนี้เป็นปีที่ 8  ซึ่งมุ่งส่งเสริมการศึกษาในสาขาสะเต็ม (STEM: Science, Technology, Engineering and Mathematics) เพื่อพัฒนาศักยภาพครูและนักเรียน โดยมุ่งเน้นไปที่โรงเรียนขยายโอกาสเป็นหลัก เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาให้มีความเท่าเทียมกันมากขึ้น นอกจากนี้ เรายังมีอีกกว่าร้อยโครงการ ซึ่งพนักงานของเราสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในทุกๆ ครั้งที่มีโอกาสอีกด้วย

พนักงานของเชฟรอนมีบทบาทสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายของโครงการต่างๆ โดยได้เข้ามามีส่วนร่วมลงมือคิด ลงมือทำ ทั้งจากกิจกรรมที่ทางบริษัทจัดขึ้นที่เรียกว่า “We Volunteer” หรือ “สุขอาสา” เพื่อส่งเสริมให้พนักงานทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ต่างๆ ตามความสมัครใจ และยังมีโครงการที่พนักงานสามารถริเริ่มเองและมาของบประมาณเพื่อพัฒนาโครงการที่ตัวเองสนใจได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ ได้ตอกย้ำถึงพันธกิจของเชฟรอนว่า นอกจากจะสร้างความมั่นคงทางพลังงานแล้ว เรายังมุ่งสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่ชุมชนและสังคมไทยอีกด้วย

เป้าหมายหลักของฝ่ายกิจการองค์กร คือการสร้างแรงกระเพื่อมจากสิ่งที่เชฟรอนทำ เพื่อให้สังคมได้ตระหนักถึง อย่างไรก็ตามการจะทำหน้าที่นี้ได้ดีนั้น วัฒนธรรมการทำงานในทีมและในองค์กรต้องแข็งแรงพอ ไม่เช่นนั้นเราก็จะไม่สามารถสร้างตัวอย่างความสำเร็จและบอกต่อสิ่งดีๆ ออกไปสู่ภายนอกได้

คุณพรสุรีย์เน้นย้ำว่า “การมี Empathy หรือ ความเห็นอกเห็นใจ ยอมรับในความแตกต่าง เป็นจุดแข็งสำหรับการทำงานในฝ่ายกิจการองค์กร เพื่อเข้าใจในมุมมองของสังคมที่กว้างขึ้น และมุ่งให้พนักงาน องค์กร และสังคมเติบโตสู่ความสำเร็จไปพร้อมกัน โดยการเปิดรับฟังความหลากหลายในทุกมิติ และความเห็นจากหลากหลายฝ่ายรอบด้าน เพื่อนำมาปรับเปลี่ยนหรือปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา ทำให้ในฐานะฝ่ายกิจการองค์กร สามารถสื่อสาร สร้างประโยชน์ และแรงกระเพื่อมในประเด็นต่างๆ สู่สังคมได้อย่างครอบคลุม ตรงประเด็น และเข้าใจเสียงสะท้อนของสังคมและชุมชนอย่างแท้จริง”

[เบื้องหลังฝ่ายทรัพยากรบุคคล ผู้ประสานพลังคนให้พนักงานและองค์กรเติบโตไปพร้อมกัน]

เราได้เกริ่นถึงความสำคัญของวัฒนธรรม One Team หรือหลักการทำงานเป็นทีม ซึ่งเป็นวัฒนธรรมหลักของเชฟรอนมาแล้ว ในส่วนของการนำพาให้องค์กรสามารถไปถึงเป้าหมายนี้ได้ โดยฝ่ายทรัพยากรบุคคลนี้เองที่เปรียบเสมือนตัวกลางที่ทำหน้าที่ประสานระหว่างพนักงานและองค์กร ให้สามารถเดินหน้าบรรลุความสำเร็จและเติบโตไปพร้อมกัน

คุณชงโค โสตถิพลาฤทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ที่ได้ทำงานกับเชฟรอนมาถึง 17 ปี มองว่า หลักการ Align and Inspire คือทักษะสำคัญที่สุด ที่จะสามารถนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมายและความสำเร็จได้

“Align and Inspire ของเรา คือ การสื่อสารให้ทุกคนเข้าใจถึงเป้าหมาย และยึดถือว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่ต้องบรรลุร่วมกัน ทีมเราต้องอยู่ตรงกลาง เป็นตัวแทนของทั้งพนักงานและตัวแทนองค์กร ต้องช่วยสร้างความเข้าใจและสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนอยากเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกัน”

การจะบรรลุเป้าหมายในการเป็น One Team ได้ จะต้องกำหนดให้ชัดเจนก่อนว่าองค์กรตอนนี้มีเป้าหมายอะไร และอยากจะมุ่งเน้นทำอะไรให้สำเร็จ จากนั้นสื่อสารให้พนักงานเข้าใจว่า ทุกคนจะมีส่วนร่วมอย่างไรในการบรรลุเป้าหมายนี้ ถ้าเรามีเป้าหมายที่ชัดเจน ต่อให้เกิดปัญหา เราก็จะสามารถหาทางออกได้โดยการให้ทุกคนถอยออกมามองเป้าหมายใหญ่ และจัดระเบียบวิธีการทำงานโดยยึดถือสิ่งนี้เป็นสำคัญ คุณชงโคมองว่า การทำให้ทุกคนเข้าใจว่าเรามีเป้าหมายร่วมกัน เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ในการที่จะก่อให้เกิด One Team

นอกจากนี้ การให้ความสำคัญต่อความหลากหลายและการมีส่วนร่วม ก็เป็นอีกหัวใจของการสร้างทีมที่จะพากันก้าวไปสู่ความสำเร็จ

Diversity and Inclusion คือเงื่อนไขหลักที่เราคำนึงถึงเวลาที่จะต้องออกแบบกระบวนการทำงาน อันดับแรก การสร้างบรรยากาศให้พนักงานรู้สึกปลอดภัย กล้าเป็นตนเองและกล้าแสดงความคิดเห็น ซึ่งจะทำให้ทีมมีไอเดียและมุมมองที่แตกต่างหลากหลาย มากกว่าทีมที่มี
ความคิดเห็นตรงกัน ทีมแบบนี้จะแสดงผลลัพธ์การทำงานออกมาได้อย่างน่าสนใจ และสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงการสร้างบรรยากาศให้พนักงานทุกคนรู้สึกมีส่วนร่วม เป็นอีกหนึ่งแนวทางสำคัญเพื่อให้พนักงานมองเห็นเป้าหมายร่วมกัน”

จะเห็นว่าผู้บริหารหญิงจากทุกๆ ฝ่าย ล้วนแล้วแต่มีทักษะความรู้ และความเป็นผู้นำที่โดดเด่น
แตกต่างกัน แต่ท้ายที่สุดแล้ว ทุกคนต่างมีจุดร่วมเดียวกัน คือ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังและช่วยกัน
ขับเคลื่อนองค์กรพลังงานเคียงคู่สังคมไทย รวมถึงเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันองค์กร
อย่างเข้มแข็ง ผ่านวัฒนธรรมการทำงานที่เปิดกว้างและโอบรับความหลากหลายของพนักงาน

แนวคิดหลักจากเหล่าผู้บริหารคือการเชื่อมั่นใน “พลังคน” ที่อยู่เบื้องหลังเชฟรอน ผู้นำด้านพลังงานระดับโลก ที่ยืนหยัดเคียงข้างคนไทยกว่า 60 ปี เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายในการส่งมอบพลังงานที่สะอาด ปลอดภัย และเชื่อถือได้ให้กับประเทศไทย ควบคู่กับการสร้างประโยชน์ให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อมต่อไป

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า