อย่างที่เรารู้กันดีว่าคนไทยกับชานมไข่มุกขาดกันไม่ได้ บางคนต้องดื่มทุกวันหลังเที่ยง บางคนก็ดื่มหลายๆ แก้วต่อวัน บางคนก็ใช้ชานมไข่มุกไว้เติมความหวานในชีวิต เพราะลองงดหวานวันหนึ่งอาจทำให้อารมณ์ไม่ดีแน่
อานิสงส์เหล่านี้ก็ทำให้ตลาดชานมไข่มุกในประเทศไทยมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) ด้วยมูลค่ากว่า 26,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นรองจากประเทศอินโดนีเซียเท่านั้น ทำให้ปัจจุบันผู้บริโภคจะมีร้านชานมให้เลือกหลากหลายแบรนด์ หลากหลายราคา แต่ละร้านออกโปรโมชั่นแข่งขันกันดุเดือด งัดจุดเด่นมาเรียกลูกค้ากันรัวๆ
ที่น่าสนใจคือ มีแบรนด์ชาหนึ่งที่กำลังน่าสนใจในหมู่ผู้บริโภคเป็นพิเศษ มีสาขาอยู่ที่ชั้น 5 เซ็นทรัลเวิลด์ แม้ช่วง 2-3 ทุ่มใกล้ห้างจะปิดแล้วก็ยังมีคนต่อแถวหนาแน่นอยู่ นั่นก็คือ ‘CHICHA SanChen’ แบรนด์ชานมจากไต้หวัน โดยชานมแต่ละแก้วของเขาอาจจะใช้เวลารอเฉลี่ยถึง 8 นาทีต่อแก้วเพราะด้วยการชงที่พิถีพิถัน
เรื่องราวของ CHICHA SanChen น่าสนใจอย่างไร? TODAY Bizview สรุปให้อ่าน
[ CHICHA SanChen เริ่มต้นจากความรักชามากและอยากบอกว่าชาดีๆ มาจากไต้หวัน ]
จุดเริ่มต้นของ CHICHA SanChen เริ่มต้นขึ้นในปี 1998 ที่ ‘ไต้หวัน’ มีผู้เชี่ยวชาญด้านชาที่หลงใหลในรสชาติของชามากๆ อยากให้ผู้คนได้ชิมชาแบบดั้งเดิม จึงก่อตั้งแบรนด์ที่สามารถยกระดับประสบการณ์การดื่มชา ด้วยการผสมผสานระหว่างเทคนิคการชงชาแบบดั้งเดิมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่
และตั้งเป้าว่าจะทำให้ CHICHA SanChen มีภาพจำที่คนทั่วโลกรู้จักว่า ‘เครื่องดื่มนานาชาติที่เกิดขึ้นจากไต้หวัน’
จุดเด่นของแบรนด์ที่ทำให้ลูกค้าติดใจคือ เขาใช้เครื่องชงชาอัจฉริยะที่จดสิทธิบัตรเรียกว่า ‘AI Teapresso Machine’ ซึ่งออกแบบมาเพื่อชงชาให้สดใหม่สำหรับทุกออเดอร์ โดยเครื่องนี้มีระบบ AI ช่วยควบคุมอุณหภูมิน้ำเวลาชง คำนวณอัตราส่วนของชาให้เหมาะสมที่สุด เพื่อรักษารสชาติและกลิ่นที่ละเอียดอ่อนของใบชา และใช้ใบชาที่เก็บเกี่ยวจากไร่ชาที่อยู่บนความสูง 2,000-2,200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลในไต้หวัน ซึ่งลูกค้าสามารถสั่งระดับการคั่วที่แตกต่างกันถึง 5 ระดับได้ด้วย
ในการชงชาแต่ละแก้วจะชงตามสั่งของการเลือกคั่วใบชา ทำให้อาจต้องใช้เวลาในการเตรียมนานขึ้น ซึ่งสาขาในประเทศมาเลเซียเฉลี่ยไว้ว่าการชงแต่ละครั้งใช้ระยะเวลาประมาณ 8 นาทีต่อแก้ว และชาที่ได้ก็จะมีความหอมและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์
และยังสามารถเลือกระดับความหวาน ระดับน้ำแข็งและท็อปปิ้งอื่นๆ ได้ตามใจชอบ หรือง่ายๆ ว่าเหมือนชาที่เราอยากกินแบบไหนก็สั่งตามความต้องการของเราแบบนั้นได้เลย
ส่วนเมนูแนะนำหลักๆ ของแบรนด์นี้ อย่างเช่น
-
-
-
-
- ชาเขียวเสาวรส: ชาเขียวที่มีกลิ่นหอมและรสเปรี้ยวของเสาวรส
- ชาอู่หลงมะม่วง: ชามะม่วงที่ผสมผสานกับกลิ่นหอมของดอกออสแมนตัส
- ชานมไข่มุกเผือก: มาพร้อมเผือกบดเนื้อเนียนนุ่ม และไข่มุกที่เพิ่มสัมผัสให้กับเครื่องดื่ม
-
-
-
[ ได้รางวัล 3 ดาวจาก iTQi = รางวัลระดับมิชลินสำหรับเครื่องดื่ม ]
อย่างไรก็ตาม ในระดับสากล CHICHA SanChen ได้รับการรับรองระดับ 2 และ 3 ดาว จาก iTQi (International Taste & Quality Institute) สถาบันจากประเทศเบลเยียม ซึ่งเปรียบเสมือนได้รางวัลระดับมิชลินสำหรับเครื่องดื่ม โดยแบรนด์นำเสนอเมนูชาแบบคลาสสิกและมีนวัตกรรม เช่น High Mountain Pouchong Tea และ Osmanthus Oolong พร้อมตัวเลือกให้ปรับระดับความหวาน และเลือกท็อปปิ้งได้ตามใจชอบทำให้เข้าสู่การรับรางวัล
ปัจจุบัน CHICHA SanChen ดำเนินธุรกิจด้วยระบบแฟรนไชส์ ทำให้มีสาขาในไต้หวันและจีนมีมากกว่า 200 สาขา และได้ขยายสาขาไปยังประเทศต่างๆ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ออสเตรเลีย รวมถึงประเทศไทยที่เพิ่งมีสาขาแรกที่เซ็นทรัลเวิล์ด
และนี่คือ CHICHA SanChen แบรนด์ชาพรีเมี่ยมที่กำลังเข้ามาตีตลาดในไทย และกำลังตะโกนให้ใครต่อใครรู้ว่ามาจาก ‘ไต้หวัน’ ผ่านการชงและใบชาคุณภาพ..
ที่มา