เครือข่ายฯรักษ์เชียงใหม่ ยื่นหนังสือขอผู้ว่าฯ สั่งยกเลิก “ปล่อยโคมลอย” ทั้งจังหวัด

เครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด เรียกร้องให้ยกเลิกกิจกรรมปล่อยโคมทั้งจังหวัด เผยพบพื้นที่ทหารลานเนินนุ่ม-ธุดงคสถานล้านนา เตรียมปล่อยอีกนับหมื่นลูก ชี้บิดเบือนประเพณี ขายทัวร์จีน-ยุโรป

จากกรณี พล.ต.สืบสกุล บัวระวงศ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 จะสั่งยกเลิกการจัดกิจกรรมลอยกระทงนานาชาติ ที่จะมีการปล่อยโคมลอยกว่า 2 หมื่นลูก ในพื้นที่โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ไปแล้ว หลังมีกระแสคัดค้านของคนเชียงใหม่ แต่เครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ ยังแสดงความกังวล โดยระบุว่ายังมีอีกหลายพื้นที่ที่เตรียมจัดกิจกรรมในลักษณะเดียวกันและเกือบทั้งหมดเป็นขายตั๋วราคาแพงให้กับนักท่องเที่ยวได้มาสัมผัส

วันที่ 16 ส.ค. 2562 เวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางเสาวคนธ์ ศรีบุญเรือง ผู้ประสานานเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ รวมทั้งตัวแทนจากภาคีเครือข่ายภาคประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ เดินทางเข้ายื่นหนังสือกับนายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เรียกร้องให้ทบทวนการอนุญาตจัดกิจกรรมปล่อยโคมลอยและยกเลิกคำสั่งอนุญาตที่ได้ออกไปก่อนหน้านี้ พร้อมขอให้จัดประชุมผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายเพื่อหามาตรการร่วมกัน แก้ปัญหาที่เกิดซ้ำซากเป็นประจำทุกปี

นางเสาวคนธ์ ศรีบุญเรือง ผู้ประสานานเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ กล่าวว่า แม้ มทบ.33 จะยกเลิกกิจกรรมไปแล้ว แต่พบว่ายังมีหลายแห่งที่เตรียมจัดกิจกรรมปล่อยโคมลอยในช่วงเทศกาลยี่เป็ง ทั้ง “ลานเนินนุ่ม”  พื้นที่ของกรมการสัตว์ทหารบก และ ธุดงคสถานล้านนา อ.สันทราย ที่ตอนนี้ทราบว่ามีการขายบัตรเข้าร่วมกิจกรรมให้กับนักท่องเที่ยวไปจำนวนมาก โดยแต่ละจุดพบว่ามีการปล่อยโคมลอยนับหมื่นดวง ส่งผลกระทบต่อชาวเชียงใหม่ที่เสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยตามบ้านเรือนที่อยู่อาศัยจากโคมลอยที่จะตกใส่ และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว

การใช้วัฒนธรรมประเพณีมาเป็นจุดขายในธุรกิจท่องเที่ยว หน่วยงานภาครัฐจะต้องพิจารณาถึงผลกระทบให้รอบด้าน โดยทางเครือข่ายมองว่าการปล่อยโคมลอยเป็นกิจกรรมที่บิดเบือนประเพณีและยังทำให้เกิดปัญหา ทั้งยังไม่ได้เป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจให้กับท้องถิ่น เพราะโคมลอยที่นำมาปล่อยในระยะหลัง เป็นโคมลอยที่ผลิตจากจีน เช่นเดียวกับกลุ่มทุนที่จัดกิจกรรมก็เป็นกลุ่มทุนต่างชาติ

หากทุกภาคส่วนจะมาสนับสนุนกิจกรรมอื่นที่เป็นไปตามประเพณีที่แท้จริง อาทิ การจุดผางปะติ๊ด หรือ การประดับโคมไฟ ทั่วเมือง ก็เชื่อว่าจะสร้างเป็นจุดขายด้านการท่องเที่ยวได้ โดยไม่ส่งผลกระทบกับชาวเชียงใหม่ ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับหนังสือพร้อมระบุจะส่งเรื่องไปยังสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเพื่อพิจารณาตามความเหมาะสม เช่นเดียวกับการหารือกับทุกภาคส่วนที่คาดว่าจะมีขึ้นหลังจากนี้เพื่อรับฟังความเห็นรอบด้าน