“ตบไล่นก” ถ่ายภาพสวยให้ นทท. อาชีพใหม่เงินดีแต่ผิดกฎหมาย

https://www.youtube.com/watch?v=6q7Shew1zBU&t=4s

ฮือฮาอาชีพใหม่บริการไล่นกพิราบพร้อมถ่ายภาพบนลานท่าแพ นักท่องเที่ยวจีนชื่นชอบ สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ย้ำอาชีพสุจริตช่วยดึงเงินเข้าท้องถิ่น แต่ผิดกฎหมายมีโทษจำคุก 3 เดือนปรับ 2.5 หมื่นบาท

แม้จะอยู่ในช่วงฤดูฝนแต่บรรยากาศบนลานท่าแพ แลนด์มาร์คท่องเที่ยวใจกลางเมืองเชียงใหม่ยังคงคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวจีน เกือบทั้งหมดตั้งใจมาถ่ายภาพกับฝูงนกพิราบนับพัน ๆ ตัว ภาพความสวยงามของนักท่องเที่ยวกับฝูงนกพิราบ ทำให้ลานท่าแพกลายเป็นหนึ่งในโปรแกรมท่องเที่ยวที่กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนพลาดไม่ได้ ถึงนกจะมีมากแต่การถ่ายภาพให้สวยงามก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนักท่องเที่ยวไม่สามารถควบคุมให้นกพิราบบินหรืออยู่ในจุดที่ต้องการถ่ายภาพ ล่าสุดจึงเกิดอาชีพใหม่ขึ้นมา นั่นก็คือ “บริการไล่นกพิราบ” พร้อมถ่ายภาพ อำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับนักไล่นกเป็นกอบเป็นกำ อาชีพ “ตบไล่นก” มีหน้าที่หลักคือให้อาหารล่อนกให้มารวมกลุ่มกันจากนั้นจะใช้อุปกรณ์ที่มีทั้ง หมวก มือตบ ไม้ ทำให้เกิดเสียงดังให้นกตกใจบินขึ้นไปจากพื้นเป็นจังหวะที่ทีมถ่ายภาพจะต้องกดชัตเตอร์ในเสี้ยววินาทีนั้นเพื่อจับภาพสวย ๆ ในจังหวะที่นกกระพือปีกบินและมีนักท่องเที่ยวอยู่ในเฟรมภาพ

ผู้ให้บริการไล่นกพิราบและถ่ายภาพ บอกว่า การควบคุมให้นกบินไปตามทิศทางที่ต้องการไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ต้องใช้ประสบการณ์และความชำนาญ เป็นอาชีพสุจริตและยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว พร้อมยืนยันว่ากลุ่มของตนเองไม่มีการขายอาหารนกให้กับนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นเรื่องผิดกฏหมาย แต่ได้นำอาหารมาเองจากบ้าน เพื่อล่อนกให้มารวมกลุ่มกัน นอกจากช่วยสร้างความคึกคักให้กับลานท่าแพแล้ว กลุ่มนักไล่นกยังคอยช่วยสอดส่องดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ที่ผ่านมาช่วยเป็นหูเป็นตา ไล่จับพวกมิจฉาชีพล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวแล้วหลายราย

สำหรับค่าบริการ “ตบไล่นก” ไม่กำหนดตายตัวแล้วแต่นักท่องเที่ยวจะให้ โดยแต่ละวันมีรายได้จากการถ่ายภาพมากน้อยไม่เท่ากัน บางวันได้มาก 3,000 – 4,000 บาท บางช่วงก็มีรายได้ไม่กี่ร้อย

กลุ่มนักไล่นก ยอมรับว่า แม้จะไม่ได้ขายอาหารนก แต่การให้อาหารนกถือว่าผิดเทศบัญญัติ ที่ผ่านมาตนเองถูกเทศกิจจับแล้วหลายครั้ง จึงขอให้มีการทบทวนและพิจารณาถึงความเหมาะสม เพราะหากไม่มีนกพิราบก็ไม่มีนักท่องเที่ยวและลานท่าแพจะกลายเป็นลานร้างไร้ผู้คน

ทั้งนี้ เทศบาลนครเชียงใหม่ได้ประกาศให้ลานท่าแพเป็นพื้นที่ “เขตรำคาญ” เพื่อบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดในการ ห้ามให้อาหาร และ ห้ามจำหน่ายอาหารให้นกพิราบบนลานท่าแพ เพื่อป้องกันเหตุความเดือดร้อนรำคาญ และ ดูแลสุขภาพอนามัยประชาชนและนักท่องเที่ยว ไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธ์เชื้อโรค เนื่องจากนกพิราบเป็นพาหะนำโรคต่างๆ มากมาย หากใครฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุก 3 เดือนปรับ 2.5 หมื่นบาททันที และก่อนหน้านี้เทศบาลนครเชียงใหม่ได้จับนกพิราบนำไปปล่อยในป่าแล้วจำนวนมาก เพราะประชากรนกพิราบเพิ่มจำนวนมากขึ้น แต่ก็ยังมีการฝ่าฝืนลักลอบจำหน่ายอาหารนก ทำให้นกพากันกลับมาและขยายพันธ์เพิ่มจำนวนประชากรนกมากขึ้น