SHARE

คัดลอกแล้ว

กสศ.ผนึกภาคีเครือข่ายอาสาสมัครเปิดโครงการมื้อเที่ยง DISTANCING เจาะเป้าหมายดูแลอาหารกลางวันเด็กกลุ่มเปราะบางยากจนคลองเตย ผ่านการแจกคูปองรับอาหารร้านค้าในชุมชนให้ท้องอิ่มช่วงเดือดร้อนโควิด-19 ลุยนำร่อง 2 พื้นที่

วันที่ 1 มิ.ย. ที่ชุมชนริมทางรถไฟท่าเรือ เขตคลองเตย กสศ.ร่วมกับภาคีเครือข่าย เปิดกิจกิจกรรม “มื้อเที่ยง DISTANCING” ภายใต้โครงการ “สู้วิกฤตให้น้องอิ่ม คนละมือ เพื่อมื้อน้อง” เพื่อลงไปดูแลช่วยเหลือเด็กกลุ่มยากจนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างใกล้ชิดเพราะผู้ปกครองขาดรายได้เกือบทั้งหมดและยังเป็นช่วงปิดเทอม โดยดำเนินการสมทบทุนค่าอาหารกลางวันด้วยระบบคูปอง ซื้ออาหารร้านในชุมชนที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อลดการติดต่อระยะใกล้ ป้องกันการติดเชื้อในสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 โดยมีอาสาสมัครนิสิตนักศึกษาร่วมเก็บข้อมูล และแจกคูปองสำหรับแลกอาหารกลางวัน รวมทั้งพูดคุยเก็บข้อมูลความเป็นอยู่ ปัญหาของนักเรียนยากจนและผู้ปกครองเพื่อช่วยเหลือต่อไป โดยมีพื้นที่นำร่อง 2 ชุมชน คือ ชุมชนวัดหงส์รัตนาราม เขตบางกอกใหญ่ และ ชุมชนริมทางรถไฟสายท่าเรือ เขตคลองเตย มีเด็กเข้าร่วมโครงการจำนวน 186 คน เป็นนักเรียนชั้นอนุบาลถึงมัธยมต้น

ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ ที่ปรึกษากองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กล่าวว่า จากการลงพื้นที่หลายชุมชน พบว่า สถานการณ์เด็กเปราะบางและเด็กนอกระบบ อยู่ในภาวะเสี่ยงหลุดจากระบบการศึกษาสูงมาก สิ่งที่ค้นพบจากการคุยกับครอบครัวและตัวเด็กนั้น พวกเขาซึมซับสถานการณ์รุนแรงโควิด-19 แบบเงียบๆ เขาไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร ในภาวะที่รับรู้ข่าวสาร หรือได้รับผลกระทบจากพ่อแม่ที่ตกงาน การไม่มีรายได้ บางวันไม่รู้จะกินอะไร ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหน จะเปิดเทอมแล้วจะจัดการชีวิตภายในครอบครัวกันอย่างไร เป็นสภาพย่ำแย่ที่สุดในด้านสุขภาพจิตและเด็กเครียดกดดัน จิตใจกระทบกระเทือนมาก นอกจากเราได้มาแจกถุงยังชีพแล้ว เหมือนได้มารับฟัง เยียวยาปัญหาของเขา

“กสศ.ทำงานด้วยการเชื่อมโยงหน่วยงานอื่นๆ พบคนที่ลงไปหากลุ่มเป้าหมายเจอ นั้นคือ เอ็นจีโอ ภาคเอกชน สภาเด็ก นักวิชาการ บอกได้ว่าเด็กกลุ่มเสี่ยงอยู่ตรงไหน กลุ่มเด็กเปราะบางซ่อนอยู่ในชุมชน ติดอยู่กับรางรถไฟ มองไม่เห็นจากถนน จากบนทางด่วน เขาแทบไม่มีตัวตนในสังคมปกติ เราแทบจะไม่เห็นเขา พอ กสศ.ได้เจอกับกลุ่มคนที่ทำงานในพื้นที่ เขาสามารถพาไปหากลุ่มเป้าหมายได้ นอกจากนี้ กสศ.จะเริ่มทำคือโครงการพัฒนารูปแบบเด็กนอกระบบ กับครูนอกระบบ เป็นกลุ่มใหญ่ ซึ่งเล็งเป้าหมายไว้ว่า เด็กนอกระบบจะมีประมาณ 35,000 คน และครู1,000 คน ซึ่งครูในความหมายของเราไม่ใช่ครูในโรงเรียน แต่เป็นครูนอกระบบที่ทำงานกับชุมชน เป็น เอ็นจีโอ ก็ได้ เป็นสภาเด็กก็ได้ หรือเป็นกลุ่มนักเคลื่อนไหว” ศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ กล่าว

นายจักรกฤษณ์ เต็มเปี่ยม หรือ น้องแฮม ประธานสภาเด็กและเยาวชน เขตคลองเตย กล่าวว่า ชุมชนแห่งนี้มีเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางได้รับผลกระทบโควิด-19 ต่อคุณภาพชีวิตและการเรียนรู้ จึงได้มีเกณฑ์ในการคัดเลือกเด็กเข้าร่วมโครงการ อาทิ เด็กอยู่กับตายาย มีรายได้น้อย พ่อแม่ตกงาน โดยทำการคัดเด็ก 116 คน รับคูปองคนละ 30 บาท ใช้ได้ 30 วัน มีร้านค้าในชุมชนเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 5 ร้าน จากการคัดเลือกลักษณะร้านเป็นแบบอาหารตามสั่ง เน้นโภชนาการครบ 5 หมู่ ปกติร้านค้าเหล่านี้จะขายอยู่บริเวณนอกชุมชน แต่เมื่อเกิดสถานการณ์โควิดทำให้ขาดรายได้ จึงได้ย้ายมาขายบริเวณในชุมชน เป็นการสร้างรายได้ให้กับร้านค้าเฉลี่ย 700 บาท/วัน ซึ่งถือเป็นโครงการแปลกใหม่ และมีรูปแบบวิธีการใหม่ในการช่วยเหลือเด็ก ที่สำคัญร้านค้าแต่ละร้าาจะไม่ใช่แค่การขายอาหารอย่างเดียว แต่จะช่วยแนะนำเมนูอาหารที่เหมาะสมกับช่วงวัยเด็กเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วนสมวัยอีกด้วย

นายชยุตม์ สกุลคู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท แทคท์ โซเชียล คอนซัลติ้ง กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในหลายภาคส่วน ทำให้มีเด็กมากมาย โดยเฉพาะกลุ่มเด็กยากจนและเด็กเปราะบางต้องประสบปัญหาไม่มีข้าวกินในช่วงปิดเทอมที่ไม่ได้ไปโรงเรียน จึงเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการ “มื้อเที่ยง Distancing” ที่ Tact ร่วมกับ กสศ. ตั้งใจที่จะนำพลังของนิสิตนักศึกษาอาสา มาช่วยกันส่งต่อ “ความอิ่ม” ให้กับน้องๆ แบบยังคงคอนเซปต์ “Social Distancing” เพื่อความปลอดภัยของทุกคน โดยโครงการจะใช้ “โมเดลคูปอง” ดำเนินการติดต่อชักชวนร้านอาหารในพื้นที่ให้เข้าร่วมโครงการ และรับสมัครพี่ Buddy อาสา เข้ามาทำกิจกรรมแจกคูปองและดูแลด้านการทานอาหารกลางวันของน้องตลอดระยะเวลาปิดเทอม 1 เดือน ข้อดีของโมเดลนี้คือ พี่อาสาไม่จำเป็นต้องลงพื้นที่ทุกวันก็สามารถช่วยน้องให้อิ่มท้องได้ ถือเป็นโอกาสดีที่จะเป็นพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ได้สร้างคุณค่าในตัวเองผ่านการช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนในรูปแบบที่เขาสามารถทำได้ และเป็นแรงบันดาลใจในการทำสิ่งดี ๆ เพื่อสังคมต่อไป

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า