จีนโต้ข่าวเครื่องบิน ‘ไชนา อีสเทิร์น’ ถูกตั้งใจทำให้ตก ยืนยันทีมสืบสวนของสหรัฐฯ ไม่ได้เปิดเผยข้อมูล

จีนโต้สื่อตะวันตกตีข่าวเครื่องบิน ‘ไชนา อีสเทิร์น’ ตกกลางหุบเขา ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นความตั้งใจทำให้เครื่องตก ลั่นทีมสืบสวนสหรัฐฯ ยืนยันไม่เคยเปิดเผยข้อมูลใดๆ

วันที่ 19 พ.ค. 2565 สำนักข่าวซินหัวซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาลจีน รายงานถึงกรณีที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ (18 พ.ค.) เกี่ยวกับผลการสืบสวนสาเหตุการตกของเครื่องบินโดยสารสายการบินไชนา อีสเทิร์น แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ MU5735 ขณะกำลังเดินทางจากเมืองคุนหมิงไปยังเมืองกว่างโจว เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยมีรายงานในสื่อหลายสำนักของฝั่งตะวันตกอ้างข้อมูลที่ระบุว่ามาจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับทีมสืบสวนของสหรัฐฯ พบข้อบ่งชี้ว่าสาเหตุการตกของเครื่องบินลำดังกล่าว อาจไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นความจงใจของบุคคลที่อยู่ในห้องนักบินขณะนั้นทำให้เครื่องตก 

สำนักข่าวซินหัวระบุว่า สำนักบริหารการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน (CAAC) ได้อออกมาเปิดเผยว่า ทีมสืบสวนของสหรัฐฯ ที่เข้าร่วมการสืบสวนกรณีเครื่องบินโดยสารของสายการบินไชนา อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MU5735 พุ่งตก ยืนยันว่าไม่ได้เปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนเหตุดังกล่าวต่อสื่อมวลชน

CAAC เผยว่าทีมสืบสวนของคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการคมนาคมขนส่งแห่งชาติสหรัฐฯ ซึ่งให้ความช่วยเหลือในการสืบสวนกรณีข้างต้น กล่าวชัดเจนว่าพวกเขาได้ร่วมมือกับ CAAC ตามกรอบข้อกำหนดของภาคผนวก 13 แห่งอนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ คำยืนยันดังกล่าวมีขึ้นเพื่อตอบโต้การรายงานข่าวของกลุ่มสื่อมวลชนต่างประเทศเกี่ยวกับสาเหตุของกรณีเครื่องบินโดยสารของสายการบินฯ พุ่งตกเมื่อวันที่ 21 มี.ค. โดยทีมสืบสวนของสหรัฐฯ กล่าวว่าพวกเขาจะให้การสนับสนุนทางเทคนิคอย่างมืออาชีพต่อไปตามความจำเป็น

ปัจจุบันแผนกสืบสวนกำลังดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการระบุซาก การจำแนกประเภทและตรวจสอบ การวิเคราะห์ข้อมูลการบิน และการตรวจสอบแบบทดลองตามขั้นตอนการสืบสวน รวมถึงเชิญคณะกรรมการฯ มาเป็นฝ่ายสืบสวนด้านลักษณะการออกแบบและการผลิตเครื่องบินลำดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในอนุสัญญาฯ

นอกจากนี้ สำนักบริหารการบินพลเรือนแห่งประเทศจีนยังย้ำด้วยว่า จะติดต่อสื่อสารกับฝ่ายต่างๆ ที่ให้ความช่วยเหลือในการสอบสวนข้างต้นอย่างต่อเนื่อง ดำเนินงานที่เกี่ยวข้องในทางวิทยาศาสตร์ และเปิดเผยความคืบหน้าและข้อมูลที่ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสม โดยยึดตามอนุสัญญาฯ และกลไกการเปิดเผยข้อมูลของรัฐบาล