ศูนย์วิจัยเศรษฐศาสตร์และธุรกิจ (CEBR) คาดการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกล่าสุดชี้ว่า เศรษฐกิจของจีนจะโตแซงหน้าสหรัฐฯ กลายเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกเร็วกว่าที่เคยคาดการณ์เอาไว้ถึง 5 ปี
ทำไมเศรษฐกิจจีนถึงเร่งเครื่องได้รวดเร็วขนาดนี้ วันนี้ workpointTODAY มีคำตอบ
ศูนย์วิจัยเศรษฐศาสตร์และธุรกิจ (CEBR) ออกรายงานวิจัยล่าสุด ซึ่งคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจโลก โดยชี้ว่าเศรษฐกิจของจีนจะเติบโตแซงหน้าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี 2571 หรือในอีก 8 ปีข้างหน้า
แม้จะไม่ใช่เรื่องประหลาดใจที่เศรษฐกิจจีนจะแซงหน้าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในอนาคต แต่จากการประเมินล่าสุดชี้ว่า เศรษฐกิจจีนจะแซงหน้าสหรัฐฯ เร็วกว่าที่เคยประเมินไว้ถึง 5 ปี
สาเหตุที่ CEBR ประเมินว่า เศรษฐกิจจีนจะก้าวขึ้นมาเป็นอันดับที่ 1 ของโลกเร็วขึ้น เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในปีนี้ ที่ทางการจีนรับมือได้ดี ขณะที่สหรัฐฯ ประสบภาวะวิกฤติหนัก
ปัจจุบันสหรัฐฯ มีสัดส่วนในเศรษฐกิจโลกราว 24% เป็นอันดับที่ 1 ของโลก ขณะที่จีนมีสัดส่วนในเศรษฐกิจโลกประมาณ 15% แต่ในปีนี้ที่ทั้งโลกเผชิญการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ น่าจะถดถอยไปถึง 5% สวนทางเศรษฐกิจจีนที่น่าจะขึ้นมาอยู่ในแดนบวกได้ประมาณ 2%
CEBR ประเมินเศรษฐกิจจีนว่า ในช่วง 5 ปีต่อจากนี้ (พ.ศ.2564-2568) เศรษฐกิจจีนน่าจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 5.7% ต่อปี และจะเติบโตลดลงเป็น 4.5% ต่อปี ในช่วงปี 2569-2573
ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐฯ CEBR คาดการณ์ว่า ในปีหน้าเศรษฐกิจสหรัฐฯ น่าจะดีดตัวขึ้นหลังผ่านพ้นสถานการณ์โรคระบาด แล้วหลังจากนั้นจะค่อยๆ เติบโตในอัตราที่ช้าลง คือประมาณ 1.9% ต่อปีในช่วงปี 2565-2567 และจะโตน้อยลงไปอีกเหลือ 1.6% ในช่วงหลังจากนั้น
อัตราการเติบโตที่พุ่งทะยานของจีนซึ่งแตกต่างกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ช้าลงในสหรัฐฯ เป็นเหตุผลให้ CEBR ปรับการประเมินใหม่ให้เศรษฐกิจจีนแซงหน้าสหรัฐฯ เร็วขึ้น เป็นปี 2571 จากเดิมที่เคยตั้งเอาไว้ในปี 2576
ดักลาส แมควิลเลียม รองประธาน CEBR อธิบายเพิ่มเติมว่า เศรษฐกิจจีนในช่วง 5 ปีนับจากนี้น่าจะมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มประชากรที่มีรายได้สูง ซึ่งทำให้ทางศูนย์วิจัยปรับการประเมินให้เศรษฐกิจจีนจะแซงหน้าเศรษฐกิจสหรัฐฯ เร็วขึ้นกว่าเดิม 5 ปี พร้อมคาดว่าจีนจะถูกจัดให้เป็นประเทศที่ประชากรมีรายได้สูงใน 3 ปีข้างหน้า
นอกจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจีนแล้ว CEBR ยังประเมินเศรษฐกิจในประเทศอื่นอย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะเศรษฐกิจของชาติเอเชียหลายชาติที่น่าจะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในลักษณะเดียวกับจีน ซึ่งรองประธาน CEBR ชี้ว่า บรรดาชาติตะวันตกควรถอดบทเรียนการรับมือเศรษฐกิจในภาวะโรคระบาดจากชาติเอเชียให้มากขึ้น
นอกจากการขับเคี่ยวทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งเป็นอันดับที่ 1 และ 2 ของโลกแล้ว CEBR ยังประเมินการเติบโตของเศรษฐกิจอินเดีย ที่อาจใช้เวลาในช่วง 10 กว่าปีนับจากนี้ แซงหน้าหลายประเทศ เช่นญี่ปุ่นและเยอรมนี เป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของโลก