SHARE

คัดลอกแล้ว

เมืองกว่างโจวเสี่ยงถูกล็อกดาวน์อีกครั้ง หลังจีนประกาศยกระดับมาตรการคุมโควิด สั่งปิดโรงเรียนและร้านอาหาร ส่งสัญญาณเดินหน้านโยบายโควิดเป็นศูนย์ ท่ามกลางกระแสต่อต้านหนัก 

หนังสือพิมพ์เดอะสเตรตส์ไทม์สรายงานว่า เมืองกว่างโจว เมืองศูนย์กลางการผลิตและการค้าทางตอนใต้ของจีน อาจต้องเผชิญกับการล็อกดาวน์อีกครั้ง หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเมืองเพิ่มขึ้น ทำให้รัฐบาลท้องถิ่นตัดสินใจสั่งให้ปิดโรงเรียนและร้านอาหารในย่านใจกลางเมือง 

การยกระดับมาตรการควบคุมโควิด-19 ในเมืองกว่างโจวมีขึ้น หลังจากที่ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เมืองกว่างโจวพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน โดยมีรายงานผู้ติดเชื้อ 69 รายในวันอาทิตย์ (23 ต.ค.) ทำให้รัฐบาลท้องถิ่นประกาศปิดโรงเรียนและร้านอาหารในเขตไห่จู ตั้งแต่วันจันทร์ (24 ต.ค.) เป็นต้นไป 

ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในเมืองกว่างโจว ได้สร้างความวิตกให้กับนักวิเคราะห์หลายฝ่ายที่ออกมาแสดงความกังวลถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมา หากมีการยกระดับมาตรการเข้มงวดขึ้นในเมือง ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ 19 ล้านคน และถือเป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญในพื้นที่ทางใต้ของจีน ในฐานะศูนย์กลางการค้าและการผลิต อีกทั้งยังเป็นเมืองที่เป็นที่ตั้งของร้านอาหารมากที่สุดในจีน 

ที่ผ่านมา แม้จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 ของจีนจะอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แต่รัฐบาลจีนยังคงยึดมั่นใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์เพื่อตัดไฟแต่ต้นลม ควบคุมการระบาดให้อยู่ในวงจำกัดน้อยที่สุด แต่นโยบายนี้กลับต้องแลกมาด้วยราคาที่ชาวจีนต้องจ่ายและกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างเลี่ยงไม่ได้ จนนำมาสู่กระแสต่อต้านเป็นวงกว้าง

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ส่งสัญญาณในที่ประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ (CPC) ครั้งที่ 20 เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จีนจะยึดมั่นในนโยบายโควิดเป็นศูนย์ พร้อมกับยกย่องนโยบายดังกล่าวว่า เป็นนโยบายที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในการปกป้องชีวิตของประชาชนซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด

ท่าทีดังกล่าวของประธานาธิบดีสี ถูกมองว่าเป็นการดับความหวังของประชาชนที่เริ่มรู้สึกอ่อนล้าและโกรธเคืองต่อข้อบังคับเข้มงวด ในขณะที่หลายประเทศเริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการ กลับมาใช้ชีวิตได้จนเกือบจะเป็นปกติก่อนเกิดการระบาดกันหมดแล้ว 

แนวทางการดำเนินนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของรัฐบาลจีน ยิ่งปรากฏชัดเจนมากขึ้น หลังจากเมื่อวันอาทิตย์ (23 ต.ค.) มีการเปิดตัวคณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมืองแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน (Politburo Standing Committee) หรือโปลิตบูโร ซึ่งจะมามีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางและนโยบายของจีนในช่วง 5 ปีข้างหน้า

โดยปรากฏชื่อของนายหลี่ เฉียง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งมีผลงานสำคัญจากการควบคุมโควิด-19 ด้วยการสั่งล็อกดาวน์นครเซี่ยงเมื่อครั้งเกิดโควิด-19 ระบาด ถูกวางตัวเป็นสมาชิกหมายเลข 2 ของโปลิตบูโร เป็นที่คาดการณ์ว่า เขาจะขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทนนายหลี่ เค่อเฉียง ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่ารัฐบาลจะเดินหน้าใช้มาตรการควบคุมการระบาดอย่างเข้มงวดต่อไปอีกอย่างน้อยระยะเวลาหนึ่งต่อจากนี้ 

ที่มา Straitstimes

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า