จีนยืนยันปฏิบัติกับคนทุกชาติอย่างเที่เทียม หลังถูกกล่าวหาว่าเลือกปฏิบัติกับชาวแอฟริกัน

วันที่ 14 เม.ย.63 สื่อต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลจีนได้ออกมาปฏิเสธคำครหาที่ว่ามณฑลกวางตุ้งได้กระทำการเลือกปฏิบัติต่อชาวแอฟริกันในการดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรคระบาด พร้อมกันนั้นจีนยังระบุว่าสหรัฐฯ เป็นฝ่ายยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้า ซึ่งไม่ใช่เพียงการกระทำที่ผิดศีลธรรมเท่านั้น แต่ยังถือเป็นการกระทำที่ขาดความรับผิดชอบอีกด้วย

ด้านนายจ้าว ลี่เจี้ยน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนกล่าวว่า จีนได้เรียกร้องให้ฝ่ายสหรัฐฯ มุ่งเน้นการดำเนินงานป้องกันและควบคุมการระบาดใหญ่ของตน เพราะความพยายามใดๆ ก็ตามที่จะกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้งในความสัมพันธ์ฉันท์มิตรระหว่างจีนกับแอฟริกาล้วนจะไม่ประสบผลสำเร็จ ระหว่างการต่อสู้กับโควิด-19 รัฐบาลจีนได้ให้ความสำคัญกับชีวิตและสุขภาพของชาวต่างชาติในประเทศจีนอย่างยิ่ง ชาวต่างชาติทุกคนได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน เพราะเราปฏิเสธการเลือกปฏิบัติ นโยบายที่เป็นมิตรของจีนต่อแอฟริกาจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง มิตรภาพของเรากับประเทศและผู้คนในแอฟริกาจะไม่มีทางสั่นคลอน และเราจะไม่เลือกปฏิบัติต่อพี่น้องชาวแอฟริกัน” โฆษกกล่าว

โดยนายจ้าวยังได้ยกเอากรณีนักเรียนชาวแอฟริกันที่มีมากกว่า 3,000 คนในมณฑลหูเป่ย ซึ่งมีเพียงคนเดียวที่ติดเชื้อเมื่อครั้งโรคโควิด-19 ระบาดรุนแรงที่สุด แต่นักเรียนคนดังกล่าวก็ได้รับการรักษาและหายโดยเร็ว ขณะที่นักเรียนคนอื่นๆ แข็งแรงดี ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ของมณฑลกวางตุ้งได้ทำการสอบสวนและดำเนินวิธีการใหม่ๆ เพื่อจัดการกับประเด็นที่บางประเทศในแอฟริกาเป็นกังวล จ้าวกล่าวพร้อมเสริมว่า เขาเชื่อว่าปัญหานี้จะได้รับการจัดการอย่างถูกต้องด้วยความพยายามร่วมกันของทั้งสองฝ่าย