หุ้นเทคจีนร่วงยกแผง หลังรัฐเดินหน้าร่างกฎหมายควบคุมอีกครั้ง

รัฐบาลจีนเดินหน้าร่างกฎหมายควบคุมบริษัทเทคโนโลยี มุ่งเน้นสกัดการแข่งขันไม่เป็นธรรม-จำกัดการใช้ข้อมูลผู้บริโภค ส่งผลราคาหุ้นบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ร่วงทั้งกระดาน

หลังรัฐบาลจีนภายใต้การนำของประธานธิบดี ‘สี จิ้นผิง’ ออกมาตรการควบคุมกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีอย่างเข้มข้นมากขึ้น ล่าสุดสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2564 หน่วยงานกำกับดูแลการตลาดแห่งรัฐ (SAMR) ได้ออกร่างข้อบังคับชุดหนึ่งซึ่งพยายามป้องกันไม่ให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม และจำกัดการใช้ข้อมูลของผู้ใช้บนแพลตฟอร์มต่างๆ

ส่งผลให้ราคาหุ้นบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของจีนในวันที่ 17 ส.ค. 2564 ที่ผ่านมา อยู่ในสภาพที่เรียกได้ว่าร่วงลงทั้งกระดาน

โดยหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดสหรัฐฯ อย่างอาลีบาบา, JD.com และไป่ตู้ ลดลงทันทีระหว่าง 2.9-3.5% ในการซื้อขายล่วงหน้า

นอกจากนี้ หุ้นของบริษัทโบรกเกอร์ซื้อขายหลักทรัพย์ออนไลน์ที่หนุนเทนเซ็นต์อยู่อย่าง Futu Holdings และเป็นหุ้นที่มีการซื้อขายกันมากที่สุดในตลาดสหรัฐฯ ก็ร่วงลง 7%

ขณะที่หุ้นของเทนเซ็นต์ มิวสิค เอ็นเตอร์เทนเมนต์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเทนเซ็นต์ก็ร่วง 3.8% เช่นกัน

ทั้งนี้ ในเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ทางการจีนได้ให้ความสำคัญและเข้มงวดกับเรื่องดังกล่าวมากขึ้น เนื่องจากในหลายปีที่ผ่านมานี้พบว่ามีแนวโน้มของการผูกขาดตลาดบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และการนำข้อมูลของผู้ใช้งานไปใช้ในทางที่ผิดซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิของผู้บริโภค

โดยทางการจีนได้ทำการปรับบริษัทที่เข้าข่ายทำผิดไปแล้วหลายบริษัท ซึ่งประกอบไปด้วย บริษัทยักษ์ใหญ่ในกลุ่มอีคอมเมิร์ซ เช่น อาลีบาบา กรุ๊ป และบริษัทยักษ์ใหญ่ในกลุ่มโซเชียลมีเดีย เช่น เทนเซ็นต์ กรุ๊ป

และต่อจากนี้คือการเดินหน้าร่างกฎหมายควบคุมและกำกับบริษัทเทคโนโลยี เพื่อลดการผูกขาดอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรมมากขึ้นต่อไป

“จุดประสงค์ของการออกกฎหมายควบคุมในครั้งนี้ คือการที่ภาครัฐต้องการให้มีหลักฐานที่โปร่งใส ในการจัดตั้งกฎหมายหรือกฎการอยู่ร่วมกัน และการแข่งขันของแพลตฟอร์มออนไลน์” ไมเคิล นอร์ริส ผู้จัดการด้านการวิจัยและกลยุทธ์ บริษัทที่ปรึกษาในเซี่ยงไฮ้กล่าว และว่า

“หากประกาศใช้กฎหมายจริง อาจส่งผลให้ต้องมีการตรวจสอบเพิ่มขึ้น สำหรับธุรกรรมออนไลน์ที่อยู่บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและการขายของออนไลน์ผ่านวิดีโอ”

ทั้งนี้ ร่างกฎหมายของ SAMR ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 15 ก.ย. 2564 ระบุว่า “ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต จะต้องไม่ดำเนินการหรือมีส่วนช่วยในการดำเนินการที่ทำให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมบนอินเทอร์เน็ต, ขัดขวางลำดับการแข่งขันในตลาด หรือกระทำการที่ส่งผลกระทบต่อการทำธุรกรรมที่เป็นธรรมในตลาด”

SAMR ยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า ผู้ประกอบการไม่สามารถใช้ข้อมูลหรืออัลกอริทึมลักลอบรับส่งข้อมูลของผู้ใช้ รวมถึงยังไม่สามารถใช้วิธีการทางเทคนิคในการจับภาพหรือใช้ข้อมูลของธุรกิจอื่นอย่างผิดกฎหมาย

นอกจากนี้ บริษัทต่างๆ จะถูกห้ามไม่ให้ประดิษฐ์หรือเผยแพร่ข้อมูลที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด หรือสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของบริษัทคู่แข่ง และต้องหยุดทำการตลาดในรูปแบบ ‘รีวิวหลอกๆ’ หรือจ้างรีวิว เพื่อทำให้บริษัทตัวเองดูดีและน่าสนใจ

หลังจากร่างกฎหมายด้านเทคโนโลยีฉบับนี้ได้มีการเผยแพร่ออกไป คณะรัฐบาลของจีนได้ประกาศว่าจะมีการบังคับใช้กฎหมายนี้เพื่อป้องกันการนำข้อมูลไปใช้อย่างผิดกฎหมาย โดยจะมีผลในวันที่ 1 ก.ย. 2564

ทางการจีนยังกล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ผู้ฏิบัติงานต้องดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยและประเมินความเสี่ยงปีละ 1 ครั้ง

และควรให้ความสำคัญกับการซื้อ ‘ผลิตภัณฑ์และบริการเครือข่ายที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือ’ ซึ่งถือเป็นการอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎหมายความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ออกมาในปี 2560

โดยเมื่อวันอังคารที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา มีกระแสข่าวว่ารัฐบาลจีนได้เข้าซื้อหุ้นของบริษัทผู้พัฒนา TikTok อย่าง ‘ไบต์แดนซ์’ รวมถึงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียรายใหญ่ของจีนอย่างเว่ยป๋อ ส่งผลให้หุ้นของเว่ยป๋อปรับลดลง 2.6%

นอกจากนั้นทางการจีนก็ได้ร่างกฎหมายมาถึง 3 ครั้ง ด้านความปลอดภัยข้อมูล (Data Privacy Law) ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นกฎหมายที่คาดว่า ‘เข้มงวดมากที่สุดในโลก’ ในเรื่องของการป้องกันความเป็นส่วนตัวในโลกออนไลน์ (Online Privacy Protection)

ซึ่งตัวกฎหมายจะบังคับขอบเขตในการเก็บข้อมูลของผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นองค์กรหรือบุคคลทั่วไป จะต้องขอความยินยอมก่อนเก็บข้อมูล

ที่มา : https://www.reuters.com/business/media-telecom/china-issues-draft-rules-banning-unfair-competition-internet-sector-2021-08-17/

https://www.wsj.com/articles/china-set-to-pass-one-of-the-worlds-strictest-data-privacy-laws-11629201927