รัฐมนตรีต่างประเทศของจีนขู่ไม่ให้สหรัฐฯ เข้ามายุ่งเรื่องไต้หวัน ยืนยันพร้อมให้ความร่วมมือในเรื่องอื่น
วันที่ 7 มี.ค. 2564 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานคำแถลงของ หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน ที่เตือนไปยังรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ว่าให้หยุดก้าวก่ายกิจการภายในเรื่องเกาะไต้หวัน โดยนำประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนมาเป็นข้ออ้าง
นายหวังกล่าวว่า ไม่มีพื้นที่สำหรับการประนีประนอมหรือยินยอมใดๆ ในการที่จีนมีสิทธิ์ครอบครองไต้หวัน สำคัญอย่างยิ่งที่สหรัฐฯ จะต้องรับรู้เรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่อย่างนั้น โลกคงจะห่างไกลกับความสงบสุขต่อไป
ทางการจีนหวังว่าสหรัฐฯ จะเอาตัวเองออกห่างจากเรื่องนี้ หลังจากที่รัฐบาลชุดก่อนได้กระทำการ “ล้ำเส้น” และ “เล่นกับไฟ”
ในเวลาเดียวกัน จีนยังพร้อมที่จะทำงานร่วมกับสหรัฐฯ ในการรับมือกับภาวะการระบาดของโรคโควิด-19 เรื่องเศรษฐกิจโลก รวมถึงกลับมาร่วมมือกันอีกครั้งในการจัดการกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
นอกจากเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ แล้ว นายหวังได้กล่าวถึงประเด็นต่างๆ ที่จีนถูกโจมตี ไม่ว่าจะเป็นการปฏิเสธถึงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวมุสลิมอุยกูร์ในเขตปกครองตนเองซินเจียง โดยระบุว่าเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น และกล่าวหาว่าสหรัฐฯ กับชาติตะวันตกพยายามทำให้เกิดปัญหาในทะเลจีนใต้ เพื่อทำลายสันติภาพและเสถียรภาพภายในภูมิภาค
อีกทั้งยังพูดถึงความขัดแย้งบริเวณชายแดนจีน-อินเดีย ที่ชี้ว่าการสร้างสถานการณ์ให้เกิดการเผชิญหน้ากัน ไม่ใช่หนทางในการแก้ปัญหา รวมถึงประเด็นความขัดแย้งกับญี่ปุ่นในกรณีพิพาทหมู่เกาะเซนกากุ ที่ขอให้สังคมญี่ปุ่นมองจีนอย่างสมเหตุสมผล และช่วยสนับสนุนให้เกิดความสัมพันธ์ที่มั่นคงในระยะยาวระหว่างทั้งสองประเทศ