SHARE

คัดลอกแล้ว

นักวิจัยเตือนจีนยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ โดยไม่มีมาตรการรองรับ อาจทำให้ชาวจีน 1.5 ล้านคนเสี่ยงเสียชีวิตเนื่องจากการติดเชื้อโควิด-19  

วันที่ 11 พ.ค. 2565 เว็บไซต์ชาแนลนิวส์เอเชีย (Channel News Asia) รายงานว่า นักวิจัยในจีนและสหรัฐฯ ได้สร้างแบบจำลองเพื่อทำการศึกษาเรื่องนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero Covid Policy) ของจีน พบว่าหากมีการยกเลิกนโยบายดังกล่าวโดยไม่มีมาตรการป้องกันความเสี่ยงรองรับ จะสร้างความเสี่ยงต่อชีวิตของชาวจีนราว 1.5 ล้านคน 

ผลการศึกษาที่เผยแพร่โดยวารสารการแพทย์เนเจอร์ (Nature Medicine) ระบุว่า ระดับของภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการรณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด-19 ในจีนช่วงเดือนมี.ค.ที่ผ่านมานั้น ยังไม่เพียงพอต่อการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธ์โอไมครอน ดังนั้นหากมีการยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์อย่างเต็มรูปแบบ อาจเกิดความเสี่ยงขึ้นกับสุขภาพของประชาชน อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่า ผลกระทบดังกล่าวนั้นสามารถบรรเทาลงได้ หากมีการมุ่งเน้นไปที่การใช้มาตรการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น การฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุ 

รายงานระบุว่า ปัจจุบันมีชาวจีนที่มีอายุมากกว่า 80 ปีขึ้นไป ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วเพียง 50% ของประชากรช่วงวัยดังกล่าวทั้งหมดในประเทศ ในขณะที่การให้ยาต้านไวรัสแก่ผู้ป่วยก็ยังคงมีข้อจำกัดอยู่บางประการ ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุที่อาจทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในจีนพุ่งขึ้นหากมีการยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ แต่นักวิจัยชี้ว่า ถ้าทางการจีนหันไปมุ่งเน้นการฉีดวัคซีนให้กับประชากรในวัยสูงอายุเพิ่มมากขึ้น จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ลงได้มาก 

“ความพร้อมของวัคซีนและยาต้านไวรัสจะช่วยให้เราหลุดออกจากนโยบายโควิดเป็นศูนย์ได้ ซึ่งผมไม่รู้เลยว่าตอนนี้เรายังต้องรออะไรกันอีก” เบน คาวลิง นักระบาดวิทยาจากมหาวิทยาลัยฮ่องกง ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะนักวิจัยกล่าว 

ขณะที่นิตยสารการแพทย์อย่าง เดอะ แลนเซต  (The Lancet) ได้เผยแพร่ผลการศึกษาอีกฉบับออกมาตอบโต้ โดยอ้างงานวิจัยของทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ในเซี่ยงไฮ้ซึ่งผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญมาแล้ว ชี้ว่านโยบายโควิดเป็นศูนย์แบบไดนามิกนั้น มีบทบาทสำคัญในการเอาชนะอุปสรรคด้านภูมิคุ้มกันของประชากรทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เซี่ยงไฮ้ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในฐานะเมืองเศรษฐกิจของจีน หากไม่มีการล็อกดาวน์เกิดขึ้น จนไวรัสแพร่กระจายไปยังพื้นที่อื่นๆ ก็จะยิ่งส่งผลกระทบร้ายแรงอย่างคาดไม่ถึง 

รายงานดังกล่าวอธิบายต่อว่า ปัจจุบันยังมีชาวจีนอายุ 60 ปีขึ้นไปอีกถึง 49 ล้านคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ดังนั้นมาตรการเข้มงวดจึงยังมีความจำเป็น เพื่อป้องกันไม่ให้ทรัพยากรด้านสาธารณสุขของจีนต้องรับภาระหนักเกินไป 

ด้าน ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาเรียกร้องให้จีนทบทวนการใช้กลยุทธ์โควิดเป็นศูนย์ ในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมองว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ไม่ยั่งยืน เพื่อพิจารณาจากพฤติกรรมของเชื้อไวรัสในตอนนี้ กับสิ่งที่ทาง WHO คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต

ทั้งนี้ ปัจจุบันจีนแทบจะกลายเป็นประเทศเดียวในโลกที่พยายามหยุดการแพร่ระบาดด้วยวิธีล็อกดาวน์อย่างเข้มข้นเป็นวงกว้าง และออกคำสั่งให้คนทั้งเมืองหลายล้านคนมาเข้ารับการตรวจเชื้อ โดย ดร.ทีโดรส ยืนยันว่าได้หารือเรื่องนี้กับผู้เชี่ยวชาญของจีนแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าทางการจีนจะเปลี่ยนวิธีการรับมือหรือไม่

ขณะเดียวกัน ดร.ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการฝ่ายฉุกเฉินของ WHO ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องดังกล่าว โดยมองว่าบัดนี้ถึงเวลาที่จีนควรกดปุ่มรีเซ็ตเพื่อเริ่มต้นใหม่แล้ว ซึ่งวิธีการรับมือกับโควิด-19 ควรจะเคารพต่อบุคคลและสิทธิมนุษยชน และได้กล่าวเสริมถึงตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิดของจีน ซึ่งอยู่ที่ 15,000 ราย นับว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับผู้เสียชีวิต 999,475 รายในสหรัฐฯ และอีกกว่า 500,000 รายในอินเดีย

สำหรับมาตรการโควิดเป็นศูนย์ของจีน ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ทั้งจากในประเทศและนอกประเทศ โดยประชาชนที่ต้องกักตัวอยู่แต่ในบ้านบางส่วนต้องเผชิญกับปัญหาอาหารขาดแคลนเนื่องจากการจัดการที่ไม่ทั่วถึง ยังไม่รวมถึงปัญหาด้านอื่นๆ ที่ชาวจีนต้องเผชิญจากความไม่พร้อมของหน่วยงานที่รับผิดชอบ

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า