‘ชลน่าน’ ยืนยันยังหนุน ‘ก้าวไกล’ แม้ ‘พิธา’ พ่ายโหวตนายกฯ ในการลงมติรอบแรก

‘เพื่อไทย’ โพสต์ข้อความจากหัวหน้าพรรค พร้อมสนับสนุน ‘ก้าวไกล’ อย่างเต็มที่ ในฐานะพรรคลำดับที่ 1 รับหวั่นอีกฝ่ายเสนอชื่อแข่ง ให้ 8 พรรคคุยกันเพื่อหาทางรับมือ 

หลังจากการลงมติโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีผ่านไปได้ 1 วัน เพจเฟซบุ๊กของพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความยืนยัน ในการสนับสนุนพรรคก้าวไกลต่อไป ในการโหวตนายกฯ วันที่ 19 ก.ค. โดยมีข้อความดังต่อไปนี้

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยืนยันพรรคก้าวไกลคือพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และพรรคเพื่อไทยพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ ตามมติของ 8 พรรคร่วมฝ่ายประชาธิปไตย แม้ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ จะไม่ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาให้เป็นนายกรัฐมนตรี

1. นายแพทย์ชลน่าน ยืนยันพรรคเพื่อไทย เคารพสิทธิการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล ในฐานะพรรคลำดับหนึ่ง และพรรคเพื่อไทยมีความชัดเจนว่าจะสนับสนุนอย่างสุดความสามารถ

2. นายแพทย์ชลน่าน อธิบายการเลือกนายกรัฐมนตรีในสถานการณ์การเมืองที่ไม่ปกติเช่นนี้ ไม่มีอะไรง่ายอย่างแน่นอน รวมไปถึงการการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาผู้เหมาะสมจะเป็นนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 19 กรกฎาคม ด้วย ซึ่ง 8 พรรคร่วมจะต้องช่วยกันพิจารณาปรึกษาหารือกันให้รัดกุม ปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นแล้วทำให้เกิดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติก็ต้องป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น

3. ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกระแสที่ฝ่ายรัฐบาลชุดเดิมอาจเสนอชื่อบุคคลขึ้นมาชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ในการประชุมรัฐสภา วันที่ 19 กรกฎาคม นายแพทย์ชลน่าน แสดงความกังวล เพราะถ้าอีกฝ่ายหนึ่งเสนอชื่อคนมาแข่งเช่นนั้นก็เป็นเรื่องที่พวกเขาสามารถทำได้ ซึ่งทั้ง 8 พรรคก็ต้องคุยกันว่าจะทำอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหานี้เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพิจารณาจากผลการลงมติเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

4. จากผลการลงมติเมื่อวันที่ 13 กรฎาคม ที่ผ่านมา ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ ได้รับเสียงสนับสนุน 324 เสียง ซึ่งส่วนใหญ่ ส.ว. งดออกเสียง โดยฝ่ายรัฐบาลชุดเดิมมีเสียง 188 เสียง หากกลุ่มรัฐบาลชุดเดิมสามารถประสานกับ ส.ว.ได้ 200 เสียง ก็จะมีเสียงในรัฐสภาเกิน 376 เสียง ซึ่งอาจทำให้ผู้ที่เป็นนายกรัฐมนตรี ที่เป็นชื่ออื่นที่ไม่ได้อยู่ใน 8 พรรคร่วมฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งก็จะขัดแย้งกับเจตนารมณ์ของพี่น้องประชาชนที่ใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้ง ความคาดหวังและความต้องการของพี่น้องประชาชนจะถูกทำลายทันที