ประชาธิปัตย์ระส่ำ “ชวน” เอ่ยปาก “ไม่เคยคิดให้ใครออก” แต่ตำแหน่งมีจำกัด

ความเคลื่อนไหว ระส่ำในพรรคประชาธิปัตย์จากกระแสข่าวเรื่องการบริหารงานภายใน ทำให้สมาชิกพรรคคนสำคัญทยอยลาออก

วันที่ 16 มกราคม ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาคนที่สองทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้แจ้งต่อสมาชิกเมื่อเวลา 10.40 น. เรื่อง นายกรณ์ จาติกวณิช ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2563 ทำให้สมาชิกภาพของนายกรณ์ ในฐานะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์สิ้นสุดลง และรับทราบความเป็นสมาชิกภาพของ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ สิ้นสุดลง จากที่ศาลพัทยาพิพากษาจำคุก 4 ปีคดีล้มประชุมอาเซียน ดังนั้นขณะนี้ มีสมาชิกทั้งหมด 497 คน

(ภาพจากเฟซบุ๊ก: อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาต่อมา นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต ส.ส.กทม. สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า ตนได้ยื่นลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์แล้ว พร้อมข้อความว่า “ผมกับพี่กรณ์ตกลงกันว่าได้เวลาลงมือทำถึงไหนถึงกัน สร้างการเมืองที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างมีคุณธรรม และอยากชวนทุกคนมาร่วมทางเดินลุยไปทำในสิ่งที่่เชื่อกัน”

ทั้งนี้ หลังจากนายกรณ์ ซึ่งเป็นระดับแกนนำลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้เกิดกระแสข่าวเรื่องการตั้งพรรคการเมืองใหม่เพื่อขับเคลื่อนการเมืองแห่งความเปลี่ยนแปลง

(ภาพ: ทีมข่าววิทยุรัฐสภา)

ขณะที่ช่วงเช้าวันนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีสมาชิกลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ไม่ทราบเหมือนกัน เรื่องนี้ต้องถามผู้บริหารพรรค

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ มีอะไรอยากจะบอกผู้บริหารและสมาชิกพรรคหรือไม่ นายชวน ตอบว่า “ผู้ใหญ่ก็มีกำลังเหนือกว่านี้ ไม่มีอะไรครับ”

เมื่อถามว่า ต้องลงไปดูหรือไม่ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ดูระส่ำมากขึ้น นายชวน กล่าวว่า ความจริงก็มีคณะผู้บริหารอยู่ มีอะไรก็ต้องแจ้งคณะผู้บริการเขา เมื่อถามย้ำว่า ยังเชื่อมั่นในผู้บริหารชุดนี้หรือไม่ว่าจะดูแลพรรคได้ นายชวน ตอบว่า ตอบไปถามเขา

ผุู้สื่อข่าวถามอีกว่า มีความกังวลหรือไม่ที่พรรคซึ่งเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยอาจเดินไปถึงจุดที่ล่มหรือว่าพรรคแตก นายชวน ตอบว่า ผมพยายามให้กำลังใจคนในพรรคว่าต้องมีความอดทน แม้กระทั่งตำแหน่งอะไรก็ตาม ต้องมีความอดทน

เรื่องบทบาทการทำงานของหลายคนในพรรคที่ไม่มีบทบาท นายชวน กล่าวว่า เรื่องนี้ตอบแทนหัวหน้าพรรคไม่ได้ แต่ก็เห็นด้วยว่า คนเก่งๆ หลายคนไม่มีโอกาสได้ทำงาน เพราะว่าตำแหน่งมีจำกัด คนเก่งด้านหนึ่งอาจไม่มีกระทรวงนั้นให้เขาดูแลก็เข้าใจ ให้กำลังใจกันว่าหลายคนก็ต้องอดทนกันหน่อย พรรคการเมืองย่อมเป็นธรรมดาที่ว่ามีโอกาสได้มากได้น้อย พอได้เสียงน้อยสัดส่วนรัฐมนตรีก็น้อย คนที่มีศักยภาพที่จะเป็นรัฐมนตรีได้ก็ไม่มีโอกาส แต่ว่าไม่ใช่ความผิดของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นเรื่องสัดส่วนของพรรคการเมือง เป็นเรื่องความเหมาะสมของบุคคล ที่พูดกับแต่ละคนให้กำลังใจ ประสบการณ์ของพรรคก็เคยผ่านมา บางทีก็วัดด้วยความอดทนของคนเหมือนกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะผู้ใหญ่ต้องลงไปเคลียร์ใจหรือไม่ นายชวน ตอบว่า “ปกติคนเหล่านี้ก็มาพบ สิ่งที่ทำได้พยายามช่วยอธิบาย และให้กำลังใจแต่ละคน ไม่เคยคิดจะให้ใครออก ใครที่มาบอกผม ผมก็ห้ามทุกคน มาขอ ถ้าเป็นไปได้ เราไปห้ามเขาไม่ได้ เขาตัดสินใจมาแล้ว มาบอกเรา แต่ว่าก็ให้เหตุผลว่าบางเรื่องต้องใช้เวลาอดทน แม้กระทั่งตำแหน่งในฐานะผู้บริหารมันก็มีจำกัด ฉะนั้นหลายคนก็มีความเหมาะสมแต่ว่าตำแหน่งมันไม่มี ก็พยายามให้กำลังใจคนเหล่านี้”