SHARE

คัดลอกแล้ว

นายกฯ ‘เศรษฐา’ เผย ครม.เคาะ เห็นชอบหลักการ ขึ้นเงินเดือนข้าราชการบรรจุใหม่ วุฒิปริญญาตรี สตาร์ทที่ 18,000 บาท ปรับขึ้นปีละ 10% ภายใน 2 ปี

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (28 พ.ย. 66) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้พิจารณาในวาระการขึ้นเงินเดือนข้าราชการแล้ว ซึ่งมอบหมายให้โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ชี้แจง

นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุรีย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ที่ประชุมครม. ได้เห็นชอบในหลักการ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ ก.พ. เสนอปรับฐานเงินเดือนข้าราชการบรรจุใหม่ เพื่อให้แข่งขันกับภาคเอกชน ปรับให้ทันสมัยขึ้น หลักใหญ่ๆ คือ ดูแลข้าราชการที่เข้าใหม่ โดยต้องปรับชดเชยจากกลุ่มอื่นๆ ให้เท่าเทียมกันอย่างมีแผนการ เพราะขณะนี้ยังมีช่องว่างอยู่ ระหว่างภาคเอกชนกับข้าราชการ

สิ่งสำคัญที่สุดคือการปรับ ที่ต้องสอดคล้องกับตำแหน่ง ไม่ให้มากไปหรือน้อยไป ให้เป็นรัฐบาลที่ทันสมัย โดยจะต้องยึดโยงกับตำแหน่งที่ตั้งไว้ เพื่อปรับให้เหมาะสม ตามแผนการที่ได้ยืนยันว่าทุกอย่างทำตามแผนการที่ได้หารือมาก่อนหน้านี้แล้ว

ส่วนขั้นต่ำในการปรับขึ้นเท่าไหร่นั้น เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ระบุว่า มีขั้นตอนมีขั้นตอน และมีแผนดำเนินการ 2-3 ปี ส่วนเพิ่มขึ้นจาก 15,000 บาทเท่าไหร่นั้น ขอให้ ก.พ. ชี้แจงดีกว่า เพราะวันนี้เห็นชอบในหลักการและให้กรอบเวลาในการจัดทำตามแผน

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (28 พ.ย. 66) จากกรณีสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ศึกษาแนวทางปรับเงินข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ หลักการจะอิงการปรับฐานเงินเดือน ค่าแรงขั้นต่ำปี พ.ศ. 2555 ที่มีการปรับฐานเงินเดือนแรกเข้า

ผลการศึกษาหากจะปรับต้องมุ่งหวัง รักษาคนดีไว้ในระบบราชการ ปรับแล้วต้องมีมาตรการอื่น เพื่อตอบประชาชนให้ได้ว่าความคุ้มค่ากับการปรับเพิ่มเงินดังกล่าว

การปรับเงินเดือนข้าราชการ-เจ้าหน้าที่รัฐ

วุฒิปริญญาตรี ภายใน 2 ปีแรกเข้า ปรับแล้วไม่ต่ำกว่า 18,000 บาท ภายใน 2 ปี ปรับปีละ 10 % โดยปีแรกปรับเป็น 16,500 บาท และปีที่ 2 เป็น 18,000 บาท

วุฒิปวช. ปรับปีละ 10 % ไม่ต่ำกว่า 11,000 บาท ซึ่งจะมีรายละเอียดออกมาทั้งหมด

ส่วนที่จะปรับเงินชดเชยที่ได้รับผลกระทบ เป็นข้าราชการเดิม แต่ฐานเงินเดือนต่ำกว่า 18,000 บาท กลุ่มนี้จะปรับชดเชย เพื่อให้ได้ระดับมาตรฐานเดียวกัน

นอกจากนี้ จะการปรับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว ปัจจุบันมีหลักการว่าใครเงินเดือนต่ำกว่า 13,285 บาท ให้ได้เงินค่าครองชีพเดือนละ 2,000 บาท ของใหม่จะปรับฐานรวมกับค่าครองชีพชั่วคราวไม่เกิน 14,600 บาท ซึ่งใครมีเงินเดือนไม่เกิน 14,600 บาท จะได้เงินครองชีพชั่วคราวอีก 2,000 บาท อีกกลุ่มคือเจ้าหน้าที่รัฐเงินเดือนต่ำมาก จะบวกเงินเพิ่มค่าครองชีพ หากไม่เกิน 11,000 บาท จะเพิ่มให้ถึง 11,000 บาท

โดยงบประมาณส่วนเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราว จะใช้ประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งครม.อนุมัติตามที่เสนอ

โดยงบประมาณเพื่อปรับเงินดือนข้าราชการ ปีแรกใช้งบประมาณ 7,200 บาท ปีที่ 2 ใช้ 8,800 ล้านบาท จะเริ่มดำเนินการ 1 พ.ค.2567

ขณะที่ นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดถึงมติครม.เห็นชอบการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ โดยจะปรับขึ้นในอัตรา 10% เป็นระยะเวลา 2 ปี ในปีงบประมาณ 2567-2568 และคาดว่าจะเริ่มต้นการขึ้นเงินเดือนงวดแรกได้ภายหลังจากงบประมาณปี 2567 ซึ่งมีผลบังคับใช้ในช่วงกลางปีนี้

นายดนุชา กล่าวว่า การปรับขึ้นเงินเดือนรอบนี้จะปรับเพิ่มขึ้นเฉพาะกลุ่มข้าราชการบรรจุใหม่ก่อน โดยปรับอัตราเงินเดือนเพิ่มขึ้น ปีละ 10% เพื่อให้ปีที่ 2 ของการทำงาน คือปี 2568 ข้าราชการบรรจุใหม่จะมีเงินเดือนแตะ 18,000 บาท แต่ในระหว่างการรอการปรับฐานขึ้นเงินเดือนขึ้น ในช่วงนี้จะมีเงินช่วยค่าครองชีพเข้าไปช่วยก่อน แต่จะเพิ่มขึ้นเท่าใดนั้น กรมบัญชีกลางจะกลับไปพิจารณารายละเอียดมาเสนอครม. อีกครั้ง

ส่วนกลุ่มข้าราชการที่บรรจุเข้ามาก่อน 1-2 ปี ที่การปรับฐานเงินเดือนใหม่จะเริ่มต้นขึ้นนั้น จะมีการพิจารณาการปรับฐานเงินเดือนขึ้นมาใหม่ให้มากขึ้นกว่าข้าราชการบรรจุใหม่ที่ได้เงินเดือน 18,000 เล็กน้อย เพื่อให้มีช่องว่างระหว่างเงินเดือนของข้าราชการเดิมที่เพิ่งเข้ามาก่อนหน้าไม่นานและข้าราชการบรรจุใหม่ด้วย

ทั้งนี้ นายดนุชา กล่าวว่า ในเบื้องต้น การปรับขึ้นเงินเดือนครั้งนี้ มติของ 4 หน่วยงานได้ข้อสรุปร่วมกันว่า จะมีการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการตั้งแต่ระดับปฏิบัติการที่จบปริญญาตรีแล้วบรรจุเป็นข้าราชการใหม่ ไปถึงแค่ระดับชำนาญการพิเศษ หรือระดับซี 8 ส่วนระดับผู้เชี่ยวชาญ หรือผู้อำนวยการในระดับซี 9 จะไม่ได้รับการปรับขึ้นเงินเดือน เพราะมีฐานเงินเดือนที่สูงอยู่แล้ว

ส่วนวงเงินงบประมาณที่จะนำมาใช้นั้น สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะไปพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นคาดว่า ต้องใช้งบประมาณหลัก 5,000 – 6,000 ล้านบาท ในปี 2567 จากงบกลาง ซึ่งถือเป็นวงเงินไม่มาก เพราะมีเวลาเหลืออีกประมาณ 5 เดือนเท่านั้น ส่วนปีงบประมาณ 2568 คาดว่าจะใช้งบประมาณในหลักหมื่นล้านบาท

ขณะที่การปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการครั้งนี้ จะเกี่ยวโยงไปถึงกลุ่มข้าราชการบำนาญด้วยหรือไม่นั้น เลขาธิการ สศช. ยอมรับว่า จะไม่เกี่ยวข้องกับข้าราชการบำนาญ เพราะเกี่ยวข้องกับข้าราชการบรรจุใหม่เป็นหลัก

เงินเดือนข้าราชการ เลือกรับเดือนละ 2 รอบได้ เปลี่ยนใจได้ปีละครั้ง

‘เศรษฐา’ รับสั่งศึกษาความเป็นไปได้ ขึ้นเงินเดือน ‘ข้าราชการ-เจ้าหน้าที่รัฐ’

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า