เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเชียงใหม่โพสต์เตือนภัย หลังลูกจ้างหลงกลโดนหนุ่มมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นแกร็บฟู้ดมารับอาหารให้ลูกค้า เชิดเกาเหลากับข้าวเปล่าซิ่งมอเตอร์ไซค์หายเข้ากลีบเมฆ
วันที่ 4 ต.ค.2562 ผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ “Parisa Fai” โพสต์เตือนภัยในกลุ่ม “ร้านอาหาร เครื่องดื่ม กาแฟ และเบเกอรี่ เชียงใหม่ (แอดมินหมี)” เมื่อวันที่ 29 ก.ย.62 ที่ผ่านมา ระบุว่า เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว อยู่ที่อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ และรับสั่งอาหารผ่านแกร็บฟู้ดปรากฏว่าช่วงเช้าวันที่ 29 ก.ย.62 มีผู้ชายขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปที่ร้าน อ้างว่าเป็นแกร็บฟู้ดมารับอาหารที่ลูกค้าสั่งเป็นเกาเหลาและข้าวเปล่า ซึ่งลูกจ้างที่ร้านไม่ทันสงสัยว่าผู้ชายคนนี้ไม่สวมใส่เครื่องแบบแกร็บฟู้ด เพราะปกติก็มีทั้งที่สวมบ้างไม่สวมบ้างอยู่แล้ว โดยรีบทำให้ทั้งที่ยังไม่มีการแจ้งเตือนเข้าในระบบ เนื่องจากคิดว่าสัญญาณอินเตอร์เน็ตอช้าอาจจะขัดข้อง และกลัวลูกค้าจะรอ
โพสต์ดังกล่าวระบุว่า “ขออนุญาตแอดมินเตือนภัยคนในกลุ่ม มิจฉาชีพอ้างเป็น Grab food เช้านี้ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวไส้หวานคาเฟ่ เส้นสันกลาง-บ้านมอญ สันกำแพง ระวังกันด้วยนะคะเนื่องจากแกรปไม่ได้มีเครื่องแบบเฉพาะที่เราสามารถดูได้จากภายนอก แล้วบางที Order ที่สั่งจากแท็บเล็ตของเรามันแจ้งเตือนช้า จึงทำให้พนักงานที่ร้าน ทำตามออเดอร์ที่มิจฉาชีพบอก (เพราะคิดว่าเดี๋ยวแท็บเล็ตจะดังแจ้งเหมือนที่ผ่านมา) สุดท้ายไม่มีการแจ้งจากออเดอร์นี้และที่ร้านก็ไม่ได้เปิดขายข้าวเปล่าในแอป วันนี้อย่างน้อยมิจฉาชีพรายนี้ก็ได้เกาเหลาบวกข้าวเปล่าไปกินฟรีหวังว่าคงจะเป็นอุทาหรณ์ให้พ่อค้าแม่ค้าท่านอื่นด้วยนะคะ เศรษฐกิจแย่มิจฉาชีพเยอะขึ้นมาในหลากหลายรูปแบบเมื่ออาทิตย์ก่อนก็มีรถมอเตอร์ไซค์มาขอเงิน 300 บาทจากพนักงานลูกจ้างที่ร้านบอกเจ๊ให้มาเอาค่ะ ทำป้ายที่ค้างแต่เคสนี้ลูกน้องเราโทรถามก่อนมันเลยรีบขี่รถออกไป”
ด้านนางสาวปริษา จันทรวัชร เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าของโพสต์เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงสายที่เพิ่งเปิดร้าน โดยตัวเองยังไม่ได้เข้าร้าน ระหว่างนั้นมีผู้ชายขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปที่ร้าน อ้างว่าเป็นแกร็บฟู้ด มารับอาหารที่ลูกค้าสั่งเป็นเกาเหลาและข้าวเปล่าอย่างละ 1 ถุง ซึ่งลูกจ้างที่ร้านก็รีบทำให้ทันที เพราะกลัวลูกค้าจะรอนานและคิดว่าระบบแจ้งเตือนคำสั่งซื้ออาจจะช้า แต่เมื่อทำจนเสร็จและส่งเกาเหลากับข้าวเปล่าให้แล้ว ปรากฏว่าระบบยังไม่มีคำสั่งแจ้งเตือนเข้ามาและพอถามจากผู้ชายคนดังกล่าวก็ไม่สามารถบอกได้ พร้อมรีบออกไป จึงทำให้ลูกจ้างรู้ตัวว่าน่าจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพแล้ว แต่ทำได้เพียงแค่ถ่ายรูปที่เห็นเพียงด้านหลังและหมายเลขทะเบียนรถของผู้ชายคนดังกล่าวไว้เท่านั้น
หลังเกิดเหตุลูกจ้างได้แจ้งให้ตัวเองทราบ ซึ่งตัวเองไม่ได้แจ้งความ เพราะเห็นว่ามูลค่าความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ได้นำเรื่องราว พร้อมภาพประกอบไปโพสต์ในโซเชียลมีเดียเพื่อเป็นอุทาหรณ์และเป็นการแจ้งเตือนภัย ไม่ให้เจ้าของร้านอาหารรายอื่นๆ ต้องมาเจอเหตุการณ์เช่นเดียวกับที่ร้านของตัวเองต้องเจอ โดยอยากให้ระมัดระวังกันให้ดี ทั้งการตรวจสอบคำสั่งซื้อในระบบให้ดี และสังเกตคนที่มารับอาหารด้วย เพราะคนส่งอาหารของแกร็บฟู้ดบางครั้งก็ไม่สวมใส่เครื่องแบบ ในขณะที่คนส่งอาหารของแอพลิเคชั่นที่ให้บริการอีกรายหนึ่งจะสวมใส่เครื่องแบบชัดเจน ทั้งนี้ยืนยันว่าการโพสต์ครั้งนี้ไม่มีเจตนาที่จะตำหนิหรือทำให้แกร็บฟู้ดด้รับความเสียหายแต่อย่างใด เพราะยอมรับว่าความผิดส่วนหนึ่งมาจากทางร้านด้วยที่ไม่ละเอียดรอบคอบในการตรวจสอบเท่าที่ควร แต่โพสต์ไปด้วยเจตนาอยากเตือนภัยเท่านั้น เพราะทุกวันนี้มิจฉาชีพมีจำนวนมากและมาในหลายรูปแบบ ซึ่งนอกจากกรณีนี้แล้ว ก่อนหน้านี้ทางร้านเพิ่งจะมิจฉาชีพมาหลอกขอเงิน 300 บาทจากลูกจ้างที่ร้าน อ้างว่าเจ้าของค้างค่าจ้างทำป้าย แต่ครั้งนั้นลูกจ้างไหวตัวทัน จึงรอดพ้นการตกเป็นเหยื่อ